ขั้นตอนการจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟัน

ฟันของแต่ละคนมีการเรียงตัวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างฟัน ขนาดฟัน ฟันเขี้ยว ฟันเก ฟันเหยิน ฟันซ้อน ฟันห่าง สบฟันไม่ดี รวมถึงความสัมพันธ์ของขากรรไกรฟัน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ขาดความมั่นใจ รวมถึงบุคลิกภาพไม่ดี  การจัดฟันจึงเป็นการรักษาและแก้ไขปัญหาของฟันเรียงตัวไม่เหมาะสม เพื่อให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยลดปัญหาการเคี้ยวอาหาร ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดฟันเนื่องจากฟันมีการเรียงตัวเป็นระเบียบ สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยให้โครงสร้างฟันมีการเรียงตัวเป็นระเบียบช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย และป้องกันการเกิดฟันผุและโรคเหงือกด้วย

ขั้นตอนการจัดฟัน

  1. ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเพื่อวางแผนการรักษา ฟังคำแนะนำ แนวทางการรักษา รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการรักษา
  2. หากต้องการจัดฟัน ทางทันตแพยทย์จะส่งตัวไป X Ray ฟันเพื่อจัดฟัน หลังจากนั้นจึงพิมพ์ปากแบบจำลองฟันเรา เพื่อดูสบฟัน แล้วนำมาวางแผนการรักษา
  3. ก่อนจัดฟัน จะมีการเคลียร์ช่องปากก่อน เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้จัดฟัน
  4. หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดหมายเพื่อทำการติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน โดยทางทันตแพทย์อาจเลือกติดตั้งเครื่องมือบน หรือล่างก่อน เพื่อดูการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อประกอบการวางแผนรักษา
  5. หลังจากนั้น ทางทันตแพทย์จัดฟันจะนัดทุกๆ 1 เดือนเพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน โดยใช้เวลาการรักษา 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟันและปัญหาของผู้จัดฟัน

ข้อแนะนำ ควรหมั่นแปรงฟันให้สะอาด หรือขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพราะการใส่เหล็กจัดฟันอาจทำให้ทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาเหงือกบวม หรืออักเสบ รวมถึงฟันผุได้

  1. เมื่อทำการรักษาเสร็จสิ้น ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟัน และทำรีเทนเนอร์ให้ใส่เพื่อคงสภาพฟันไว้  ระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละราย  และควรกลับมารับการตรวจเช็คประจำทุกปี หลังจัดฟันแล้วเสร็จ พร้อมนำรีเทนเนอร์ มาตรวจความสมบูรณ์ด้วย

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

5-ข้อดีของการขูดหินปูน

5 ข้อดีของการขูดหินปูน

คราบหินปูน  คือคราบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียรวมตัวกับโปรตีนหรือเศษอาหารกลายเป็นแผ่นจุลินทรีย์เกาะตามขอบฟันที่ติดกับเหงือก เมื่อทับถมกันมากเข้าก็จะมีลักษณะเป็นคราบหินปูน และเกาะแน่นที่ฟันจนอาจทำให้เกิดโรคปริทันต์ หรือโรคเหงือกได้   ดังนั้นเราต้องทำการขูดหินปูน  แต่รู้ไหมว่าข้อดีของการขูดหินปูน มีอะไรบ้าง

5 ข้อดีของการขูดหินปูน

  1. สุขภาพช่องปากแข็งแรง

อย่างที่ทราบกันดีว่าคราบหินปูนเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ โรคเหงือก อาจเกิดเลือดไหลขณะแปรงฟัน เหงือกร่น หรือเหงือกบวม  การขูดหินปูนช่วยทำให้สุขภาพในช่องปากของเราแข็งแรงขึ้น

  1. เสริมสร้างความมั่นใจ

คราบหินปูนที่ก่อตัวขึ้นที่ฟันเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง การยิ้มแล้วฟันเหลืองทำให้เสียความมั่นใจ ดังนั้นถ้าเราขูดหินปูนช่วยให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจ

  1. ฟันแข็งแรงกินอะไรก็อร่อย

การมีคราบหินปูนหรือคราบพลัคสะสมอยู่ที่ฟันเป็นจำนวนมาก เวลารับประทานอาหารทำให้การรับรู้รสชาติของอาหารที่อาจลดน้อยลง นอกจากนี้แล้วการมีคราบหินปูนยังทำให้เหงือกบวมและฟันสึกกร่อนได้  การขูดหินปูนทำให้เราสามารถรับรู้รสชาติอาหารที่กินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ช่วยให้ฟันมีอายุการใช้งานได้ยาวขึ้น

การดูแลรักษาฟัน ไม่ให้มีคราบหินปูนมาเกาะ ช่วยให้รากฟันและเหงือกแข็งแรง ทำให้ฟันไม่สึกกร่อน และฟันผุ   เราจึงมีฟันที่อยู่กับเราไปได้จนแก่

  1. ส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดี

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่ยิ้มฟันขาวสะอาดจะมีความมั่นใจกว่าคนที่ยิ้มแล้วมีคราบหินปูนเกาะตามฟัน และส่งเสริมให้มีความมั่นใจในการพบปะผู้คนอีกด้วย นอกจานี้ มีการสำรวจพบว่าผู้ที่มีหินปูนเกาะติดฟันเป็นจำนวนมากมักมีกลิ่นปาก หากอ้าปากพูดอาจทำให้เสียบุคลิกภาพได้

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

ฟันปลอมมีกี่แบบ

ฟันปลอมมีกี่แบบ

ฟันปลอมสามารถแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ ฟันปลอมชนิดถอดได้ และชนิดติดแน่น

  1. ฟันปลอมชนิดถอดได้

    ฟันปลอมชนิดถอดได้เป็นฟันปลอมที่ต้องอาศัยการใช้ตะขอเพื่อช่วยยึดเกาะฟันปลอมกับฐานฟันปลอม ฟันปลอมชนิดนี้จะมีราคาถูกกว่าฟันปลอมชนิดติดแน่น เนื่องจากสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย  ในช่วงเริ่มแรกของการใส่ต้องปรับตัวให้เคยชินกับการใส่   ข้อแนะนำสำหรับฟันปลอมชนิดนี้ คือ ห้ามใส่นอน (ไม่ว่าจะนอนกลางวันหรือนอนกลางคืน)  โดยก่อนนอนให้ถอดล้างทำความสะอาด และแช่ในภาชนะที่มีน้ำทุกครั้ง
ฟันปลอมชนิดนี้ สามารถแบ่งได้ตามวัสดุที่ใช้ทำฐานฟันปลอม โดยแยกย่อยได้อีก 2 ชนิดคือ

1.1 ฟันปลอมถอดได้ฐานโลหะ

ฟันปลอมแบบนี้มีตัวฐานเป็นโลหะ   และมีฟันเป็นพลาสติกพิเศษที่มีสีและลักษณะใกล้เคียงกับฟันข้างเคียง

ข้อดี  มีความทนทานกว่าแบบฐานพลาสติก  ใส่สบายกว่าเนื่องจากบางและเล็ก

ข้อเสีย  ราคาสูงกว่าแบบฐานพลาสติก  ถ้ามีการชำรุดแตกหัก จะซ่อมแซมได้ยากกว่า

1.2 ฟันปลอมถอดได้ฐานพลาสติก

ฟันปลอมแบบนี้มีฐานและฟันเป็นพลาสติกพิเศษ ฐานมีสีชมพูคล้ายเหงือก  และตัวฟันก็มีสีและลักษณะใกล้เคียงกับฟันข้างเคียง

ข้อดี ราคาถูก หากต้องการเติมซี่ฟัน สามารถทำได้ง่ายกว่า

ข้อเสีย  ไม่แข็งแรง ทนทาน   ตัวฐานมีขนาดใหญ่และหนากว่าฟันปลอมถอดได้ฐานโลหะ

2.ฟันปลอมชนิดติดแน่น

ฟันปลอมชนิดติดแน่นเป็นฟันปลอมที่อาศัยการยึดฟันธรรมชาติโดยการกรอฟันให้เล็กลง และทำการครอบฟันให้ติดกับตัวฟันปลอม

ฟันปลอมแบบติดแน่นเป็นฟันปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อซ่อมแซมฟันที่สูญเสียไปไม่มาก หรือเพียงซี่ใดซี่หนึ่ง เรียกว่า การครอบฟัน ซึ่งฟันปลอมแบบนี้ ยังมีด้วยกันอีก  3  แบบ

2.1 ครอบฟัน

ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่มีการสูญเสียส่วนของฟันไปมากๆ ไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดโดยตรงได้ (ฟันปลอมติดแน่นไม่ได้ทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียจากการถอนฟัน)
         2.2 สะพานฟัน

ใช้เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปไม่กี่ซี่(ช่องว่างขนาดไม่ใหญ่) จะต้องมีการกรอเคลือบฟันและเนื้อฟัน (ที่ยังดีๆอยู่) ของฟันข้างเคียง (ปกติมักเป็นตำแหน่งหัวและท้ายของช่องว่าง) เพื่อใช้เป็นหลักยึดให้กับสะพานฟัน
2.3 รากเทียม

เป็นการเลียนแบบฟันธรรมชาติ ฟันปลอมชนิดนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟันปลอมที่ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ  ใช้เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยการฝังโลหะไทเทเนียมที่มีลักษณะคล้ายรากฟันเข้าไปในกระดูก (เพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติ) จากนั้นจึงบูรณะด้วยการครอบฟันหรือสะพานฟันทับบนรากเทียมนั้นต่อไป

ข้อดี  เสริมสร้างความมั่นใจ สามารถเคี้ยวอาหารได้ดีและมีประสิทธิภาพ  ไม่หลุด

ข้อเสีย วิธีการทำความสะอาดยุ่งยากกว่า  ราคาแพงกว่า

การเลือกลักษณะฟันปลอมที่เหมาะสมกับเรา ไม่ว่าจะเป็นฟันปลอมแบบถอดได้หรือฟันปลอมแบบติดแน่น เราสามารถเลือกตามความเหมาะสมและตามกำลังทรัพย์ของเรา  นอกจากนั้นเราต้องเลือกคลินิกทันตกรรมหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และมีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้วยนะคะ

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

ข้อดีของการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

การจัดฟัน  เป็นสาขาหนึ่งทางทันตกรรมที่แยกเฉพาะทางเพื่อวินิจฉัย ป้องกันและรักษาความผิดปกติการขึ้นของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีระบบบดเคี้ยวดีขึ้น  การรักษาส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและสบฟันที่ผิดปกติ  นอกจากนี้ยังช่วยปรับโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าให้ดีและสวยงามขึ้น  การจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่   

        ข้อดีของการจัดฟัน

  1. เพื่อความสวยงามและเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี การมีรอยยิ้มที่สวยงามจะทำให้เจ้าของรอยยิ้มมีบุคลิกที่ดี กล้าแสดงออก และมีเสน่ห์ ตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันที่มีการใช้รูปร่างหน้าตา บุคลิกในการประกอบอาชีพ  คนที่มีรอยยิ้มและบุคลิกภาพที่ดีมักได้รับโอกาสที่ดีมากกว่า  ดังนั้นการจัดฟันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
  2. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟัน เมื่อมีสบฟันที่ดีขึ้น จะช่วยเรื่องการเคี้ยวอาหารได้ละเอียดและดีขึ้นกว่าเดิม
  3. เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน ทำให้สามารถทำความสะอาดฟันและช่องปากได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ
  4. ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ การจัดฟันช่วยลดปัญหากลิ่นปาก
  5. ปรับเปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนมีระเบียบวินัย
  6. โครงหน้าเข้ารูปและดูดีมากขึ้น หรือหน้าดูเรียวมากขึ้น
  7. การจัดฟันเป็นแฟชั่นที่อินเทรนด์ และช่วยเพิ่มจุดเด่นให้คนอื่นจำเราได้ง่ายขึ้น
  8. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากการจัดฟันทำให้ต้องพิถีพิถันในการเลือกกินอาหาร ทำให้ช่วงเวลาที่จัดฟันอาจมีน้ำหนักลดลง
  9. ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่างหรือฟันมีลักษณะการสบฟันหน้าแบบสบเปิด (กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ขาด) หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะช่วยให้มีการออกเสียงพูดได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเสียง “ส.เสือ”

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ เสียวฟัน

8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ เสียวฟัน

8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ  เสียวฟัน

ฟันเป็นอวัยวะที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันทุกวัน  ถ้าเรามีฟันที่แข็งแรง เรารับประทานอาหารอร่อยๆ และรับรู้รสชาติ มีความสุขกับการเคี้ยวอาหาร  แต่หากเรามีฟันที่ไม่แข็งแรง  ความสุขในการกินก็จะลดลง เนื่องจากกินอาหารได้บางอย่างและมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง  การดูแลฟันจึงไม่เพียงแต่แปรงฟันเช้าเย็นเท่านั้น  เรายังต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้ฟันเสื่อมสภาพ หรือไม่แข็งแรง   คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าพฤติกรรมใดที่มีความเสี่ยงกับฟันผุ  เสียวฟัน เรามาดูว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง  เพื่อให้ฟันคงอยู่กับเราไปได้นานๆ

 

วิธีป้องกันฟันผุ เสียวฟัน

  1. แปรงฟันแรง

การแปรงฟันแรงหรือแปรงฟันบ่อยเกินไป ทำให้เกิดการสึกกร่อนตรงช่วงคอฟัน เป็นสาเหตุของอาการเหงือกอักเสบ หรือเหงือกร่นได้

 

  1. ใช้ฟันเปิดเป็นตัวเปิดภาชนะ

การใช้ฟันฉีกซองพลาสติก เปิดถุง  เปิดฝาขวดน้ำอัดลม หรือแกะผลิตภัณฑ์ต่างๆ  โดยคิดว่าสะดวกและรวดเร็ว แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้ฟันในทางที่ผิด อาจทำให้ฟันแตก ร้าว บิ่น หรือเสียรูปได้

 

  1. เคี้ยวน้ำแข็ง

เมืองร้อนแบบบ้านเราทำให้คนส่วนใหญ่เวลาดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มจะมีการใส่น้ำแข็งลงไปด้วย  ซึ่งบางคนชอบอมและกัดก้อนน้ำแข็งเพื่อลิ้มรสความเย็นชื่นใจ   รู้สึกมันหรือชอบเสียงการเคี้ยวน้ำแข็ง  แต่รู้หรือไม่ว่า การเคี้ยวหรือกัดน้ำแข็งแรงๆ  อาจทำให้ฟันร้าว แตก หรือบิ่นได้    ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวน้ำแข็ง เพื่อให้สุขภาพฟันแข็งแรง

 

  1. การกัดเล็บ

การกัดเล็บไม่เพียงแต่ทำให้เสียบุคลิกภาพ  ไม่สวยงาม และยังเสี่ยงต่อเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านแผลเล็กๆ ในซอกเล็บ เนื่องจากการกัดเล็บทำให้เล็บกุด หรือสั้นเกินไป  แต่รู้หรือไม่ว่า  การกัดเล็บเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสึกกร่อนได้  และหากสึกกร่อนมากๆๆ อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้   

 

  1. รับประทานขนม หรืออาหารที่มีรสหวานจัด

ขนมหวาน และอาหารที่มีรสหวาน มีส่วนประกอบพวกน้ำตาล หรือแป้งสูง  เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดอาการฟันผุได้

 

  1. รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด

อาหารที่มี รสเปรี้ยว ส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นกรด   ดังนั้นไม่ว่าอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดไม่ว่าจะจากธรรมชาติหรือสารสังเคราะห์  เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ผิวเคลือบฟันบางลง  อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน หรือฟันผุได้

 

  1. การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ

การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ นอกจากทำให้อ้วนแล้ว  ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และฟันผุ  เพราะในน้ำอัดลมมีฤทธิ์เป็นกรด  ทำให้เกิดการสูญเสียผิวเคลือบฟัน

 

  1. การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่นอกจากก่อความรำคาญให้กับคนรอบข้างแล้ว  คราบบุหรี่ที่เป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลอาจติดแน่นบนตัวฟัน  ต้องใช้เวลาในการขัดออก  ผู้ที่สูบบุหรี่มักจะเป็นโรคปริทนต์(เหงือกอักเสบ)  ถ้าหากโรคลุกลามอาจทำให้สูญเสียฟันได้

 

เราจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อฟันผุ และเสียวฟัน เพื่อให้ฟันสามารถอยู่กับเราไปได้นานๆ

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

เสียวฟัน ป้องกันได้

เสียวฟัน ป้องกันได้

 ทำไมจึงรู้สึกเสียวฟัน ?

อาการเสียวฟัน เกิดจากชั้นเนื้อฟันที่เคยมีเคลือบฟันอยู่หายไป และได้รับการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาทิ น้ำเย็น อาหาร หวาน อาหารเปรี้ยว การแปรงฟัน หรือแม้แต่ลม แล้วส่งสัญญานไป ถึงโพรงประสาทฟันจนเกิดอาการเสียวฟัน ทั้งนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ภาวะเหงือกอักเสบ หรือการแปรงฟันแรงเกินไป

วิธีป้องกันการเสียวฟัน

การป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันนั้น เราต้องดูแลรักษาฟันและเหงือกให้แข็งแรงอยู่เสมอ และป้องกันไม่ให้ผิวเคลือบฟันถูกทำลาย  วิธีการง่ายๆ สามารถทำได้โดย

  • แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี วันละ 2 ครั้ง โดยต้องเลือกแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม แปรงอย่างเบามือ และที่สำคัญต้องแปรงให้ถูกวิธี

การแปรงฟันรุนแรงเกินไป เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฟันสึก เหงือกร่น เหงือกบวม

การแปรงฟันผิดวิธี ทำให้กำจัดคราบจุลินทรีย์ออกไม่หมดและนำไปสู่การเกิดโรคเหงือกอักเสบ ทำให้กระดูกรอบๆเบ้าฟันละลายตัว นอกจากนี้อาจเกิดเหงือกร่นตามมาได้

  • ทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือกอักเสบ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวบ่อยๆ รวมไปถึงน้ำอัดลมด้วย หลังจากทานแล้ว ให้ดื่มน้ำเปล่าตามหรือบ้วนปาก ไม่แนะนำให้แปรงฟันทันทีหลังจากทานอาหารเปรี้ยวๆ เพราะในตอนนั้น ช่องปากจะมีสภาพเป็นกรด ถ้าหากแปรงฟันทันที ทำให้ฟันสึกได้
  • หมั่นพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟัน รวมถึงขูดหินปูนให้ฟันสะอาดและเหงือกแข็งแรง

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

แปรงฟันแห้งกันเถอะ

แปรงฟันแห้งกันเถอะ

ทุกวันนี้เราต้องแปรงฟันวันละ  2 ครั้ง คือ ตื่นเช้าและก่อนนอน  การแปรงฟันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าให้ทำเป็นประจำ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพฟันแข็งแรง ลมหายใจสดชื่น แต่ทุกวันที่เราทำไปนั้นเคยสงสัยไหมว่า เราแปรงฟันถูกวิธีกันแล้วหรือยัง แล้วมีวิธีการแปรงฟันแบบไหนอีกบ้างนอกจากแบบที่เราทำกันจนเคยชิน

 

จากการประชุมของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติสรุปว่า  การแปรงฟันแบบแห้งช่วยป้องกันฟันผุได้ เพราะการบ้วนน้ำจะลดประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ลง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ แปรงสีฟันช่วยทำให้ฟันสะอาด กำจัดเศษอาหาร คราบพลัคออกจากซอกฟันซอกเหงือก ส่วนยาสีฟันหน้าที่หลักคือช่วยทำให้ฟันแข็งแรงด้วยฟลูออไรด์ที่ผสมอยู่ในเนื้อยาสีฟันนั่นเอง

การแปรงฟันแห้งนั้น ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาตั้งแต่มีการเผยแพร่งานวิจัยในวารสารของสมาคมทันตแพทย์อเมริกัน เมื่อปี ค.ศ.1998 พบว่าผู้ที่แปรงฟันแบบแห้งติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าคราบหินปูนลดลง 63% และอาการเลือดออกขณะแปรงฟันลดลง 55% ทำให้มีการพยายามเผยแพร่แนวคิดนี้อย่างต่อเนื่องและแพร่หลายมาราว 20 กว่าปี

 

ในประเทศไทยมีการเผยแพร่แนวคิดนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ทันตสาธารณสุขของหลายจังหวัดรณรงค์ให้เด็กๆ ในโรงเรียนประถมศึกษาหลายแห่งแปรงฟันแห้งแล้ว เนื่องเด็กเล็กมีโอกาสฟันผุได้ง่าย เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟันระหว่างที่แปรงฟันได้

 

วิธีการแปรงฟันแห้งนั้นต้องอาศัยการฝึกฝนสักระยะ เพราะในช่วงแรกอาจจะรู้สึกไม่ชินหากต้องเปลี่ยนวิธีการแปรงฟันที่เราคุ้นเคยมาตลอด แต่จงนึกถึงประโยชน์ที่ได้จากการแปรงฟันว่าทำให้ฟลูออไรด์มีประสิทธิภาพป้องกันฟันผุได้อย่างเต็มที่

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

ข้อดีของการใช้ไหมขัดฟัน

ข้อดีของการใช้ไหมขัดฟัน

การดูแลช่องปากนั้นไม่ได้มีแค่เพียงการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน
ก็ถือว่าเป็นการดูแลรักษาฟันของเราให้มีสุขภาพที่ดี ลดการเกิดเศษอาหารเข้ามาติดตามซอกฟันทำให้เกิดฟันผุ หรือมีกลิ่นปากได้ ซึ่งการใช้ไหมขัดฟันนั้นจะทำให้เข้าถึงพื้นที่ๆ เข้าถึงยากได้อย่างง่ายดาย ซึ่งวันนี้เราจะมีข้อดีของการใช้ไหมขัดฟันมาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

ข้อดีของการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

จะช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ และป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์กำจัดเศษอาหารส่วนเกินที่คุณอาจไม่เห็นในกระจกหรือในบริเวณที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฟันผุและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเหงือกด้วย

แล้วเมื่อไหร่ควรเริ่มใช้ไหมขัดฟัน

จริงๆแล้วในต่างประเทศมีการฝึกให้ใช้ไหมขัดฟันกันตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ฟันน้ำนม ได้ตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป แต่ว่าในประเทศไทยนั้นค่อนข้างน้อยที่จะใช้ไหมขัดฟันกัน ซึ่งการใช้ไหมขัดฟันให้ทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็กๆมีสุขภาพฟันทีดี

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

home


ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

ยาสีฟันที่ดีต้องเลือกยังไง

ยาสีฟันที่ดีต้องเลือกยังไง

ในปัจจุบันยาสีฟันในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายแบรนด์ หลายหลายรูปแบบทั้งของเด็กของผู้ใหญ่ สูตรต่างๆ มากมายหลากหลายทั้ง ชาเชียว เกลือ สมุนไพร มีให้เลือกมากมายในตลาด แต่ถามว่ายาสีฟันที่ดีที่สุดคืออะไร หลายๆ คนก็คงตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การใช้ยาสีฟันของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ความชอบในเรื่องของรสชาติ กลิ่น การรักษาสุขภาพฟัน ใช้แล้วไม่มีกลิ่นปาก ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกยาสีฟันที่ดีกันครับ

ประโยชน์ของยาสีฟันที่ดีคือ

– ยาสีฟันต้องมีฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารต้านแบคทีเรียที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ให้ประโยชน์ในการต่อต้านการผุและความไวในการทำความสะอาดฟัน
– สารเคลือบฟัน ยาสีฟันที่ดีจะมีสารคอยเคลือบฟันควบคุมอาจมีไพโรฟอสเฟตซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบหินปูนบนฟัน ปกป้องยาวนาน
– ไวท์เทนนิ่ง: ยาสีฟันฟอกสีฟัน มีส่วนผสมของสารเคมีหรือสารกัดกร่อนเพื่อช่วยในการลบหรือป้องกันคราบไม่ให้ก่อตัวขึ้นบนฟัน เมื่อใช้เป็นประจำยาสีฟันไวท์เทนนิ่งสามารถลดการปรากฏของคราบและทำให้ฟันของคุณดูขาวขึ้น

ซึ่งในการเลือกยาสีฟันนั้น หลักๆ จะมีเกณฑ์ในการเลือกอยู่สามข้อ แต่อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ มันมีการแต่งกลิ่นแต่งรสชาติ ซึ่งแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายทำฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

home


ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

ปวดฟันทำยังไงดี

ปวดฟันทำยังไงดี

วันนี้ผมมีคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม มาแนะนำว่าปัญหาจากการปวดฟัน เราจะแก้ไขหรือทำยังไงให้หายปวดฟันดี

ซึ่งอาการของการปวดฟันนั้นคือเป็นการเกิดปัญหาที่โพรงประสาทฟัน ฟันผุจึงทำให้เกิดการปวดฟันขึ้นมา และหากเราต้องการไปหาทันตแพทย์นั้น แพทย์จะต้องทำการ X-ray ฟันดูก่อนว่าฟันเป็นอย่างไรและจะ วินิจฉัยว่าฟันนั้นเป็นอย่างไร ลำดับอาการรุนแรงแค่ไหน และควรต้องทำอย่างไรกับฟันดี

วิธีแก้ปัญหาปวดฟัน

– ถอนฟัน
ถอนฟันที่เป็นปัญหาเพื่อแก้ไขปัญหาการปวดของฟัน แต่ว่าการถอนฟันนั้นจะทำให้เราจะสูญเสียฟันนั้นไปตลอดชีวิตเลย ปัญหาในการบดเคี้ยวอาหารก็จะไม่ดีเหมือนกับตอนมีฟันปกติ ซึ่งควรตัดสินใจให้ดีว่าจะถอนหรือจะรักษารากฟัน การถอนฟันจะราคาถูกกว่าการรักษารากฟันหลายเท่า เพราะกระบวนการและขั้นตอนต่างกันมาก และหากทำการถอนฟันฟันข้างๆ ในระยะเวลานานวันขึ้น ฟันจะล้มหรือเอียง และอาจจะทำให้เกิดปัญหามากกว่าตอนที่ถอนฟันเสียอีก

รักษารากฟัน
การรักษารากฟันคือการทำความสะอาดที่เกิดปัญหา และทำการฝังรากฟันใหม่เข้าไปแทนที่หายไปและทำการอุดฟัน ครอบฟัน ไปตามกระบวนการของการรักษารากฟัน การรักษารากฟันจะต้องมีเวลามาพบแพทย์บ่อยๆ และต้องใช้เวลาในการรักษารากฟัน ต้องอ้าปากในเวลานาน การรักษารากฟันจะทำให้เราไม่สูญเสียฟันของเราไป แต่ต้องทำการรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น

– อุดฟัน
ถ้าฟันของเราไม่ถูกทำลายไปถึงโพรงประสาทฟันก็สามารถที่จะอุดฟันได้เพราะการอุดฟันนั้นอาการจะถือว่ายังไม่ค่อยรุนแรงมาก

การแก้ปัญหาฟันที่ถูกไปเรามีวิธีแนะนำคือ

– ใส่ฟันปลอม
– ฝังรากฟันเทียม

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)