วิธีการปลูกกระดูกเทียม

วิธีการปลูกกระดูกเทียม

ข้อดี-ข้อเสียการปลูกกระดูกเทียม

ในปัจจุบันเทคนิคการปลูกกระดูกก็จะมีหลัก ๆ ใหญ่อยู่ 2 วิธี
วิธีที่หนึ่งก็คือการนำกระดูกตัวเองมาปลูก วิธีที่สองคือการใช้กระดูกเทียม
ซึ่งทั้งสองวิธีจะมีขั้นตอนและกระบวนการที่แตกต่างกันไป ในกรณีที่คนไข้สูญเสียกระดูกไปจำนวนมาก ต้องการกระดูกปริมาณค่อนข้างเยอะ อาจจะพิจารณาเอากระดูกตัวเองมาเสริมตรงบริเวณที่จะฝังรากเทียม
อันนี้เรียกว่า Autogenous Bone Grafting

การเอากระดูกตัวเองมาเสริมบริเวณที่จะฝังรากเทียม
ข้อดี ก็คือว่ามันเป็นกระดูกของเราเองโอกาสที่จะยึดติดก็มีค่อนข้างเยอะแต่ขอเสียที่เป็นข้อเสียหลัก ๆ เลย ก็คือว่ามันมักจะละลายตัวค่อนข้างง่าย และมีความเจ็บปวดหลังทำค่อนข้างมาก เนื่องจากว่าจะมีบริเวณที่ผ่าตัดทั้งหมด 2 ตำแหน่ง ตำแหน่งแรกก็คือ ตำแหน่งที่เราเอากระดูกเทียมมา
ปัจจุบันตำแหน่งที่เอากระดูกเทียมมา หรือเรียกว่า Donor Site จะเอามาจากขากรรไกรล่างด้านหลัง บริเวณใกล้ ๆ กับฟันคุดของเรา จะตัดกระดูกออกมาเป็นชิ้นปริมาณที่เราต้องการ แล้วเราก็จะเอาไปใส่หรือเสริมในตำแหน่งที่เราต้องการฝังรากเทียม

ฉะนั้น วิธีนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่ฟันหายไปค่อนข้างเยอะ ต้องการ Volume ของกระดูกค่อนข้างเยอะ
ข้อเสีย คนไข้ก็จะเจ็บตัวและอาศัยเวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน ระยะเวลาในการรอหลังจากการปลูกกระดูกด้วยวิธีการนำกระดูกตัวเองมาปลูก เราจะต้องรอระยะเวลาประมาณ 4 เดือน หลังจากนั้นเราถึงจะมาฝังรากเทียมต่อไป

ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็จะใช้กันอย่างแพร่หลายค่อนข้างเยอะ
ก็คือการนำกระดูกเทียมที่ได้จากการสังเคราะห์มาปลูกบริเวณที่เราต้องการปลูก
ข้อดีก็คือไม่จำเป็นจะต้องเจ็บตัว 2 ตำแหน่ง เราก็ใช้ผงกระดูกเทียมที่ผลิตจากบริษัท ซึ่งกระดูกเทียมทำมาจากหลาย ๆ วัสดุ ก็คือมีส่วนประกอบหลายอย่าง คุณหมอจะเลือกใช้ตามตำแหน่งที่เหมาะสม เลือกใช้ชนิดของกระดูกตามตำแหน่งของกระดูกที่หายไปแบบเหมาะสม ข้อดีก็อย่างที่บอกเจ็บตัวตำแหน่งเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อเสียก็คือว่า ระยะเวลาที่เราต้องรอการหายกว่าจะฝังรากเทียมได้กว่าจะกลายเป็นกระดูกจริง ต้องใช้ระยะเวลานานนิดนึง อาจใช้เวลาสัก 6-8 เดือน

ผลของการปลูกกระดูกเทียม

ปริมาณกระดูกที่เทียมที่ใส่เข้าไป มักจะคาดเดาผลไม่ได้ 100% ในกรณีที่เราใส่เข้าไป 100% เราอาจจะได้กระดูกตามที่เราต้องการ กระดูกเหลือจาก 6-8 เดือน แค่ประมาณ 40-60% โดยปกติการคำนวณการที่เราเสริมกระดูก
คุณหมอก็จะใส่เกินอยู่แล้ว ฉะนั้น เรื่องของปริมาณกระดูกที่ได้
ก็เป็นอะไรที่อาจจะต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป

อาการหลังจากปลูกกระดูกเทียม

นอกจากนี้ การปลูกกระดูกไม่ว่าจะใช้กระดูกเทียม
หรือกระดูกของตัวเองมักจะมีอาการปวดและบวมค่อนข้างมากกว่าการฝังรากเทียมโดยปกติ เนื่องจากว่าเป็นการใส่วัสดุอื่น หรือว่าสิ่งอื่นเข้าไปเสริมในบริเวณนั้น จะต้องมีการอักเสบ การหายของแผล ใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน โดยปกติแล้วก็อาจจะบวม หรือว่าปวดประมาณ 1-2 สัปดาห์

ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จการปลูกกระดูกเทียม

การยึดติดของกระดูก หรือผลสำเร็จในการปลูกกระดูกจะมากน้อยไหน
ก็ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น หลังจากปลูกกระดูกแล้วคนไข้
จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด
ถ้าเกิดว่าสูบบุหรี่ก็ต้องงดสูบบุหรี่
ถ้ามีการใส่ฟันปลอมบริเวณนั้นจะต้องมีการงดใส่ก่อนช่วงแรก
หรือว่าอาจจะต้องใส่เฉพาะเวลาที่จำเป็น ไม่ใส่เคี้ยวอาหาร
เนื่องจากฟันปลอมสามารถกดบริเวณที่ปลูกกระดูก
ทำให้เกิดการแตกของแผล การปลูกกระดูกที่ทำไปก็อาจจะล้มเหลวได้ นอกจากนี้ร่างกายคนเราก็มีการหาย หรือการเสริมสร้างต่างกัน ปริมาณกระดูกที่ได้ในแต่ละคน บางทีก็ไม่เท่ากัน

หลังการปลูกกระดูกเทียม

ฉะนั้น เมื่อเราผ่านการปลูกกระดูกมาแล้ว ก่อนที่จะมีการฝังรากเทียม คุณหมอก็จะมีการประเมินว่า ปริมาณกระดูกที่ได้เพียงพอหรือยังถ้าเกิดเพียงพอต่อการฝังรากเทียมแล้ว เราก็จะสามารถฝังได้ โดยอาจจะต้องมีการเสริมกระดูกเพิ่มเติมในกระบวนการ พร้อมกับการฝังรากเทียมไป

ที่คลินิกทันตกรรม BPDC ของเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ด้านการรักษารากฟันเทียม วัสดุรากฟันเทียมมาตรฐานยุโรป รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมี Software CAD / CAM Dentistry ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำรากฟันเทียมให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam

ขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียม

ขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียม

การปลูกรากฟันเทียมจำเป็นจะต้องมีขั้นตอนและวิธีการที่ซับซ้อนกว่าทันตกรรมประเภทอื่นๆ เพราะว่าต้องมีการประเมิณการรักษา การฝังรากเทียมลงกระดูก การปรับสภาพเหงือก ฯลฯ ที่มีอีกหลายขั้นตอนกว่าจะรักษาได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีและด้วยประสบการณ์ของทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญงานฝังรากฟันเทียม (IMPLANT) จะช่วยให้ขั้นตอนนั้นง่ายขึ้น ซึ่งวันนี้เรามีกรรมวิธีคร่าวสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกรากฟันเทียมกันครับ

  1. ตรวจประเมิน วางแผนการรักษา
    ตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาก่อนเริ่มการรักษาทันตแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยและทำการถ่ายเอ๊กซเรย์เพื่อการวิเคราะห์ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  2. ฝังรากเทียม ลงในกระดูก

การปลูกกระดูกรองรับฟัน (กรณีที่จำเป็น)
สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีคุณภาพหรือความหนาของกระดูกรองรับฟันที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการปลูกกระดูกรองรับฟัน (bone grafts) ให้ก่อน หรืออาจสามารถทำพร้อมกับการฝังรากฟันเทียม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์เฉพาะทาง

  1. ปรับสภาพเหงือกให้พร้อมสำหรับทำครอบฟัน

ขั้นตอนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมไททาเนียม
สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น โดยทั่วไปจะสามารถทำเสร็จได้ในวันเดียวด้วยการใช้เพียงยาชาในการผ่าตัดและผู้ป่วยสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการที่จะเลือกใช้ยาสลบและพักผ่อนที่โรงพยาบาลหลังการผ่าตัดก็เป็นทางเลือกที่ สามารถทำได้เช่นกัน และถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องโดยทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ แล้วนั้นอัตราการเสี่ยงจะต่ำมาก

  1. ระยะรอพักฟื้น
    ในการที่จะให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งาน การพักรอให้กระดูกรองรับฟันสร้างตัวเพื่อปกคลุมและยึดรากฟันเทียมจะใช้เวลาโดยทั่วไปนานประมาณ 6-8 สัปดาห์ในระหว่างนี้การดูแลสุขภาพในช่องปากเป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อความสำเร็จในการรักษาเป็นอย่างมาก และยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาอันไม่พึงประสงค์ต่างๆเช่น การติดเชื้ออักเสบและปวดบวมได้
  2. ทันตกรรมประดิษฐ์
    หลังจากที่รากฟันเทียมมีความมั่นคงบนกระดูกรองรับฟันแล้ว ทันตแพทย์จะติดเสา(dental implant posts) เพื่อใช้เชื่อมระหว่างรากเทียมและทันตกรรมประดิษฐ์เช่น ครอบฟัน สะพานฟันหรือแผงฟันปลอม แล้วจึงทำการเตรียมและใส่ทันตกรรมประดิษฐ์นั้นๆ ในบางกรณีทันตแพทย์อาจสามารถทำการขั้นตอนนี้พร้อมกับการปลูกรากฟันเทียม ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและดุลยพินิจของทันตแพทย์
  3. การดูแลและเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ
    สุขภาพในช่องปากที่ดีและการเข้ารับการตรวจและทำความสะอาดกับทันตแพทย์ทั่วไปอย่างเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือตามระยะเวลาที่เหมาะสมจะสามารถช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้กับรากฟันเทียม

ที่คลินิกทันตกรรม BPDC ของเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ด้านการรักษารากฟันเทียม วัสดุรากฟันเทียมมาตรฐานยุโรป รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมี Software CAD / CAM Dentistry ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำรากฟันเทียมให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam

จัดฟันด้วยเทคโนโลยี CAD / CAM

จัดฟันด้วยเทคโนโลยี CAD / CAM

CAD / CAM คืออะไร

เป็นคำย่อของการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย / การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ใช้มานานหลายทศวรรษในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อผลิตเครื่องมือชิ้นส่วนและรถยนต์ที่มีความแม่นยำเทคโนโลยี CAD / CAM ได้ถูกรวมเข้ากับทันตกรรมมากขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

ทันตแพทย์และห้องปฏิบัติการทันตกรรมใช้เทคโนโลยี CAD / CAM และวัสดุที่ปราศจากโลหะเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการครอบฟันเซรามิกวีเนียร์ออนเลย์อินเลย์และสะพานฟัน CAD / CAM ทางทันตกรรมยังใช้ในการประดิษฐ์ตัวยึดสำหรับรากฟันเทียมซึ่งใช้เพื่อทดแทนฟันที่หายไป

เนื่องจากวัสดุและเทคโนโลยีที่มีอยู่สำหรับทันตกรรม CAD / CAM ได้รับการปรับปรุงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ป่วยจึงได้รับการบูรณะจากรูปแบบของทันตกรรมดิจิทัลนี้ด้วยเช่นกัน การบูรณะ CAD / CAM ในปัจจุบันมีความกระชับทนทานและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น (หลายสีและโปร่งแสงคล้ายกับฟันธรรมชาติ) มากกว่าการบูรณะด้วยเครื่องจักรก่อนหน้านี้

ตัวเลือก CAD / CAM ในห้องปฏิบัติการในสำนักงานและทันตกรรม

เทคโนโลยี CAD / CAM ทางทันตกรรมมีให้สำหรับการปฏิบัติทางทันตกรรมและห้องปฏิบัติการทางทันตกรรมทำให้ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ (หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการ) สามารถออกแบบการบูรณะบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ คอมพิวเตอร์ CAD / CAM จะแสดงภาพฟันหรือฟันที่คุณเตรียมไว้ 3 มิติซึ่งได้จากการจับการเตรียมแบบดิจิทัลด้วยเครื่องสแกนออปติคัล หรืออีกวิธีหนึ่งคือสามารถรับภาพ 3 มิติได้โดยการสแกนแบบจำลองดั้งเดิมที่ได้จากการแสดงผลแบบเดิมของการเตรียมการ

จากนั้นทันตแพทย์หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการจะใช้ภาพ 3 มิติและซอฟต์แวร์ CAD เพื่อวาดและออกแบบการบูรณะขั้นสุดท้าย ระยะเวลาที่ทันตแพทย์นักออกแบบการบูรณะในสำนักงานหรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการใช้ในการออกแบบการบูรณะจะแตกต่างกันไปตามทักษะประสบการณ์และความซับซ้อนของเคสและการรักษา บางกรณีอาจใช้เวลาไม่กี่นาทีในขณะที่บางกรณีอาจต้องใช้เวลาออกแบบครึ่งชั่วโมงขึ้นไปเพื่อให้ได้คุณภาพ

เมื่อได้รับการออกแบบการบูรณะขั้นสุดท้ายแล้วเม็ดมะยมฝังแผ่นไม้อัดหรือสะพานจะถูกขัดสีจากวัสดุเซรามิกบล็อกเดียวในห้องกัด จากนั้นการบูรณะสามารถปรับแต่งด้วยคราบและเคลือบเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นก่อนที่จะนำไปเผาในเตาอบ (คล้ายกับเซรามิกและเครื่องปั้นดินเผา) จากนั้นจึงขัดและขัดให้เสร็จ

ประโยชน์ของทันตกรรม CAD / CAM

การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการบูรณะ CAD / CAM ในปัจจุบันนั้นแข็งแกร่งกว่าการบูรณะจากวัสดุรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสน้อยที่จะแตกหัก

ข้อดีอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี CAD / CAM

คือหากทันตแพทย์ของคุณมีเทคโนโลยีในสำนักงานการทำฟันในวันเดียวกันอาจเป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับคุณ สามารถใช้เทคโนโลยีทางทันตกรรม CAD / CAM เช่น CEREC ในสำนักงานหรือ E4D Dentist System เพื่อทำการบูรณะฝังฟันครอบฟันหรือวีเนียร์ในการนัดหมายครั้งเดียวในขณะที่คุณรอ

หากทันตแพทย์ของคุณเสนอ CAD / CAM ในสำนักงานคุณไม่จำเป็นต้องมีการแสดงผลแบบเดิมการบูรณะชั่วคราวหรือการนัดหมายครั้งที่สอง คุณจะได้รับยาชาเฉพาะที่ (ชา) เพียงครั้งเดียวสำหรับการเตรียมฟันที่จำเป็น

ข้อยกเว้นสำหรับกระบวนการนี้คือสะพานเซรามิกทั้งหมดเนื่องจากถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยใช้เทคโนโลยี CAD / CAM การบูรณะสะพานเซรามิกทั้งหมดต้องมีการเยี่ยมชมสำนักงานครั้งที่สองเพื่อแทรกสะพาน ในกรณีเช่นนี้จำเป็นต้องมีการบูรณะชั่วคราว

ข้อยกเว้นอีกประการหนึ่งคือหากทันตแพทย์ของคุณต้องการสร้างการบูรณะ CAD / CAM ในขณะที่คุณไม่ได้อยู่ในสำนักงานทำให้ต้องมีการนัดหมายสองครั้ง ทันตแพทย์บางคนชอบแนวทางนี้เพื่ออุทิศเวลาให้กับกระบวนการออกแบบและการกำหนดลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง CAD / CAM มากขึ้น ในกรณีนี้จำเป็นต้องมีการชั่วคราวด้วย

ข้อควรพิจารณาพิเศษสำหรับทันตกรรม CAD / CAM

เทคโนโลยี CAD / CAM ไม่สามารถทดแทนความแม่นยำและความสามารถที่จัดทำโดยทันตแพทย์หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการทันตกรรม ทันตแพทย์ต้องมีความแม่นยำในการเตรียมฟันเบื้องต้น ทั้งทันตแพทย์และช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการต้องมีความถูกต้องแม่นยำเมื่อทำการแสดงผลดิจิทัลและวาดภาพการบูรณะ

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความแม่นยำและทักษะในการออกแบบการบูรณะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความเหมาะสมของการบูรณะมีความสำคัญต่อการป้องกันความเสียหายของฟันในอนาคต ตัวอย่างเช่นการครอบฟันที่ไม่เหมาะสมไม้วีเนียร์การฝังหรือการฝังสามารถเว้นช่องว่างระหว่างฟันหรือระหว่างการเตรียมฟันและการบูรณะ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อหรือโรค

เมื่อใดควรเลือกทันตกรรม CAD / CAM

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกซี่ที่สามารถรักษาด้วยการบูรณะ CAD / CAM ได้ ทันตแพทย์ของคุณจะพิจารณาว่าการฟื้นฟู CAD / CAM เป็นทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของคุณหรือไม่ นอกจากนี้แม้จะมีการปรับปรุงความสวยงามของวัสดุ CAD / CAM ผู้ป่วยอาจพบว่าการบูรณะ CAD / CAM บางส่วนดูทึบเกินไปและขาดลักษณะที่เป็นธรรมชาติ

ทันตแพทย์ของคุณอาจเลือกใช้เทคนิคการประดิษฐ์ในห้องปฏิบัติการแบบเดิมที่มีประวัติยาวนานและได้รับการพิสูจน์มากขึ้นเพื่อความแม่นยำในการพอดี ดังนั้นผู้ป่วยจะต้องหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และความต้องการของตนเองกับทันตแพทย์ซึ่งจะตัดสินใจในการรักษาขั้นสุดท้ายโดยอาศัยการตรวจอย่างละเอียด

ค่าใช้จ่ายในการบูรณะ CAD / CAM

การบูรณะด้วยเซรามิกทั้งหมดรวมถึงการประดิษฐ์ในห้องปฏิบัติการทันตกรรมโดยใช้เทคโนโลยี CAD / CAM มีแนวโน้มที่จะเป็นวิธีการบูรณะที่มีราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าวัสดุสำหรับการบูรณะ CAD / CAM อาจมีราคาสูงกว่า แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากห้องปฏิบัติการทันตกรรมและ / หรือทันตแพทย์อาจไม่ถูกส่งไปยังผู้ป่วย

นอกจากนี้ยังไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการบูรณะในการเยี่ยมชมครั้งเดียวเมื่อเทียบกับสองครั้ง การชดใช้เงินประกันจะคล้ายกันสำหรับการทำฟันในสำนักงานในวันเดียวกันหรือการบูรณะในห้องปฏิบัติการ

ที่คลินิกทันตกรรม BPDC ของเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ด้านการรักษารากฟันเทียม วัสดุรากฟันเทียมมาตรฐานยุโรป รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมี Software CAD / CAM Dentistry ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำรากฟันเทียมให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam