8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ เสียวฟัน

8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ เสียวฟัน

8 พฤติกรรม เสี่ยงฟันผุ  เสียวฟัน

ฟันเป็นอวัยวะที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวันทุกวัน  ถ้าเรามีฟันที่แข็งแรง เรารับประทานอาหารอร่อยๆ และรับรู้รสชาติ มีความสุขกับการเคี้ยวอาหาร  แต่หากเรามีฟันที่ไม่แข็งแรง  ความสุขในการกินก็จะลดลง เนื่องจากกินอาหารได้บางอย่างและมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง  การดูแลฟันจึงไม่เพียงแต่แปรงฟันเช้าเย็นเท่านั้น  เรายังต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้ฟันเสื่อมสภาพ หรือไม่แข็งแรง   คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าพฤติกรรมใดที่มีความเสี่ยงกับฟันผุ  เสียวฟัน เรามาดูว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง  เพื่อให้ฟันคงอยู่กับเราไปได้นานๆ

 

วิธีป้องกันฟันผุ เสียวฟัน

  1. แปรงฟันแรง

การแปรงฟันแรงหรือแปรงฟันบ่อยเกินไป ทำให้เกิดการสึกกร่อนตรงช่วงคอฟัน เป็นสาเหตุของอาการเหงือกอักเสบ หรือเหงือกร่นได้

 

  1. ใช้ฟันเปิดเป็นตัวเปิดภาชนะ

การใช้ฟันฉีกซองพลาสติก เปิดถุง  เปิดฝาขวดน้ำอัดลม หรือแกะผลิตภัณฑ์ต่างๆ  โดยคิดว่าสะดวกและรวดเร็ว แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้ฟันในทางที่ผิด อาจทำให้ฟันแตก ร้าว บิ่น หรือเสียรูปได้

 

  1. เคี้ยวน้ำแข็ง

เมืองร้อนแบบบ้านเราทำให้คนส่วนใหญ่เวลาดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มจะมีการใส่น้ำแข็งลงไปด้วย  ซึ่งบางคนชอบอมและกัดก้อนน้ำแข็งเพื่อลิ้มรสความเย็นชื่นใจ   รู้สึกมันหรือชอบเสียงการเคี้ยวน้ำแข็ง  แต่รู้หรือไม่ว่า การเคี้ยวหรือกัดน้ำแข็งแรงๆ  อาจทำให้ฟันร้าว แตก หรือบิ่นได้    ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวน้ำแข็ง เพื่อให้สุขภาพฟันแข็งแรง

 

  1. การกัดเล็บ

การกัดเล็บไม่เพียงแต่ทำให้เสียบุคลิกภาพ  ไม่สวยงาม และยังเสี่ยงต่อเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายผ่านแผลเล็กๆ ในซอกเล็บ เนื่องจากการกัดเล็บทำให้เล็บกุด หรือสั้นเกินไป  แต่รู้หรือไม่ว่า  การกัดเล็บเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสึกกร่อนได้  และหากสึกกร่อนมากๆๆ อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้   

 

  1. รับประทานขนม หรืออาหารที่มีรสหวานจัด

ขนมหวาน และอาหารที่มีรสหวาน มีส่วนประกอบพวกน้ำตาล หรือแป้งสูง  เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดอาการฟันผุได้

 

  1. รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด

อาหารที่มี รสเปรี้ยว ส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นกรด   ดังนั้นไม่ว่าอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดไม่ว่าจะจากธรรมชาติหรือสารสังเคราะห์  เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ผิวเคลือบฟันบางลง  อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน หรือฟันผุได้

 

  1. การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ

การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ นอกจากทำให้อ้วนแล้ว  ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน และฟันผุ  เพราะในน้ำอัดลมมีฤทธิ์เป็นกรด  ทำให้เกิดการสูญเสียผิวเคลือบฟัน

 

  1. การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่นอกจากก่อความรำคาญให้กับคนรอบข้างแล้ว  คราบบุหรี่ที่เป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลอาจติดแน่นบนตัวฟัน  ต้องใช้เวลาในการขัดออก  ผู้ที่สูบบุหรี่มักจะเป็นโรคปริทนต์(เหงือกอักเสบ)  ถ้าหากโรคลุกลามอาจทำให้สูญเสียฟันได้

 

เราจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อฟันผุ และเสียวฟัน เพื่อให้ฟันสามารถอยู่กับเราไปได้นานๆ

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

เสียวฟัน ป้องกันได้

เสียวฟัน ป้องกันได้

 ทำไมจึงรู้สึกเสียวฟัน ?

อาการเสียวฟัน เกิดจากชั้นเนื้อฟันที่เคยมีเคลือบฟันอยู่หายไป และได้รับการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาทิ น้ำเย็น อาหาร หวาน อาหารเปรี้ยว การแปรงฟัน หรือแม้แต่ลม แล้วส่งสัญญานไป ถึงโพรงประสาทฟันจนเกิดอาการเสียวฟัน ทั้งนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ภาวะเหงือกอักเสบ หรือการแปรงฟันแรงเกินไป

วิธีป้องกันการเสียวฟัน

การป้องกันไม่ให้เกิดอาการเสียวฟันนั้น เราต้องดูแลรักษาฟันและเหงือกให้แข็งแรงอยู่เสมอ และป้องกันไม่ให้ผิวเคลือบฟันถูกทำลาย  วิธีการง่ายๆ สามารถทำได้โดย

  • แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี วันละ 2 ครั้ง โดยต้องเลือกแปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม แปรงอย่างเบามือ และที่สำคัญต้องแปรงให้ถูกวิธี

การแปรงฟันรุนแรงเกินไป เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฟันสึก เหงือกร่น เหงือกบวม

การแปรงฟันผิดวิธี ทำให้กำจัดคราบจุลินทรีย์ออกไม่หมดและนำไปสู่การเกิดโรคเหงือกอักเสบ ทำให้กระดูกรอบๆเบ้าฟันละลายตัว นอกจากนี้อาจเกิดเหงือกร่นตามมาได้

  • ทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับโรคเหงือกอักเสบ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวบ่อยๆ รวมไปถึงน้ำอัดลมด้วย หลังจากทานแล้ว ให้ดื่มน้ำเปล่าตามหรือบ้วนปาก ไม่แนะนำให้แปรงฟันทันทีหลังจากทานอาหารเปรี้ยวๆ เพราะในตอนนั้น ช่องปากจะมีสภาพเป็นกรด ถ้าหากแปรงฟันทันที ทำให้ฟันสึกได้
  • หมั่นพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟัน รวมถึงขูดหินปูนให้ฟันสะอาดและเหงือกแข็งแรง

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

แปรงฟันแห้งกันเถอะ

แปรงฟันแห้งกันเถอะ

ทุกวันนี้เราต้องแปรงฟันวันละ  2 ครั้ง คือ ตื่นเช้าและก่อนนอน  การแปรงฟันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าให้ทำเป็นประจำ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพฟันแข็งแรง ลมหายใจสดชื่น แต่ทุกวันที่เราทำไปนั้นเคยสงสัยไหมว่า เราแปรงฟันถูกวิธีกันแล้วหรือยัง แล้วมีวิธีการแปรงฟันแบบไหนอีกบ้างนอกจากแบบที่เราทำกันจนเคยชิน

 

จากการประชุมของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติสรุปว่า  การแปรงฟันแบบแห้งช่วยป้องกันฟันผุได้ เพราะการบ้วนน้ำจะลดประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ลง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ แปรงสีฟันช่วยทำให้ฟันสะอาด กำจัดเศษอาหาร คราบพลัคออกจากซอกฟันซอกเหงือก ส่วนยาสีฟันหน้าที่หลักคือช่วยทำให้ฟันแข็งแรงด้วยฟลูออไรด์ที่ผสมอยู่ในเนื้อยาสีฟันนั่นเอง

การแปรงฟันแห้งนั้น ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาตั้งแต่มีการเผยแพร่งานวิจัยในวารสารของสมาคมทันตแพทย์อเมริกัน เมื่อปี ค.ศ.1998 พบว่าผู้ที่แปรงฟันแบบแห้งติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าคราบหินปูนลดลง 63% และอาการเลือดออกขณะแปรงฟันลดลง 55% ทำให้มีการพยายามเผยแพร่แนวคิดนี้อย่างต่อเนื่องและแพร่หลายมาราว 20 กว่าปี

 

ในประเทศไทยมีการเผยแพร่แนวคิดนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ทันตสาธารณสุขของหลายจังหวัดรณรงค์ให้เด็กๆ ในโรงเรียนประถมศึกษาหลายแห่งแปรงฟันแห้งแล้ว เนื่องเด็กเล็กมีโอกาสฟันผุได้ง่าย เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟันระหว่างที่แปรงฟันได้

 

วิธีการแปรงฟันแห้งนั้นต้องอาศัยการฝึกฝนสักระยะ เพราะในช่วงแรกอาจจะรู้สึกไม่ชินหากต้องเปลี่ยนวิธีการแปรงฟันที่เราคุ้นเคยมาตลอด แต่จงนึกถึงประโยชน์ที่ได้จากการแปรงฟันว่าทำให้ฟลูออไรด์มีประสิทธิภาพป้องกันฟันผุได้อย่างเต็มที่

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC