เปรียบเทียบการฟอกสีฟัน แบบไหนเหมาะสมกับเราที่สุด

เปรียบเทียบการฟอกสีฟัน แบบไหนเหมาะสมกับเราที่สุด

ยิ่งเราโตขึ้น ฟันของเราก็ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน นั่นส่งผลให้สีของฟันเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในคนที่ดื่มชาหรือกาแฟบ่อย ๆ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าสีฟันจากขาวค่อย ๆ คล้ำและเหลืองไปตามอาหารที่เราบริโภคเข้าไป แต่ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่เข้ามาตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการกลับมามีรอยยิ้มที่ขาวสว่างใสเหมือนเดิม นั่นคือ “การฟอกสีฟัน” ที่จะสามารถเนรมิตสีฟันของคุณให้ขาวสวยดังตั้งใจ แต่จะว่าไปแล้วนั้นการฟอกฟันก็มีมากมายหลายรูปแบบ เราจะมาเปรียบเทียบการสีฟันกันค่ะ ว่าแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับเราที่สุด

การฟอกสีฟันคืออะไร?
         
การฟอกสีฟัน เป็นกระบวนการเพิ่มความขาวของฟันโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟันและกระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันด้วยระบบแสง cool light  ทำให้โมเลกุลของออกซิเจนแทรกซึมผ่านผิวเคลือบฟัน แล้วเข้าไปปรับผลึกเม็ดสีในชั้นเนื้อฟันและขจัดเม็ดสีในเน ทำให้ฟันขาวขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ฟันเปลี่ยนสีนั้นมีด้วยกัน 2 สาเหตุใหญ่ ๆ คือ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ บุหรี่ อาหารและเครื่องดื่ม ส่วนปัจจัยภายใน ได้แก่ การสะสมของสารเคมีสีในเนื้อฟันในช่วงที่สร้างฟันหรือเกิดภาวะฟันตาย

ประเภทของการฟอกสีฟัน
         
การฟอกสีฟันมีหลายวิธี ซึ่งทุกวิธีจะต้องใช้สารเคมีประเภทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ (ประมาณ 10-20%) ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยเราจะแบ่งการฟอกสีฟันตามสถานที่ของผู้ฟอกสีฟันหรือสารเคมีที่ใช้ ดังนี้
            1. In-office Power Bleaching จะทำในคลินิก โดยทันตแพทย์จะใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นสูง (ประมาณ 35%) การฟอกฟันชนิดนี้จะเห็นผลทันที แต่ผลจะอยู่ไม่ถาวร เฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 1 ปี (ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับอาหารที่กินไป) ข้อดีคือมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์
            2. At-home Bleaching สามารถทำได้เองที่บ้าน ด้วยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ (ประมาณ 10%) โดยวิธีนี่จะต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อพิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล จากนั้นจะได้รับน้ำยาฟอกสีฟันพร้อมคำแนะนำในการใช้ โดยมากจะแนะนำให้ฟอกก่อนนอนและทิ้งไว้ทั้งคืน การฟอกฟันแบบนี้มีข้อดีตรงที่สะดวกสบาย ราคาถูกกว่า แต่ต้องอาศัยเวลานานกว่าข้อแรก รวมถึงต้องมีวินัยในการทำ เนื่องจากต้องทำซ้ำกันบ่อย ๆ จึงจะเห็นผลที่ดี

            3. In-office assisted Bleaching เป็นการฟอกสีฟันที่ทำระหว่างข้อ 1 และข้อ 2 โดยจะทำในกรณีที่ฟันมีสีเริ่มต้นที่เข้มมาก ซึ่งจะทำที่คลินิกก่อนแล้วจึงนำกลับไปทำที่บ้าน
            4. Over-the-counter Bleaching ใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำซึ่งออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีวางขายทั่วไป หาซื้อได้ตามร้านค้าและร้านขายยาชั้นนำ เช่น แถบฟอกสีฟัน ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว น้ำยาบ้วนปากฟอกฟันขาว ข้อดีคือสามารถหาซื้อมาใช้ได้เอง
            5. Walking Bleaching เป็นการฟอกสีฟันในฟันที่เปลี่ยนสีเนื่องมาจากสาเหตุฟันตาย โดยใช้สารโซเดียมเปอร์บอเรต โดยมากจะมีการเปลี่ยนสีฟันเฉพาะซี่ ไม่ได้เปลี่ยนสีฟันทั้งปาก รวมถึงฟันที่ได้รับการรักษารากฟัน ฟันที่ได้รับความกระทบกระเทือนจะมีสีที่คล้ำขึ้นเนื่องจากมีเลือดคั่งของเลือดภายในท่อเนื้อฟันการฟอกสีฟันมีอันตรายหรือไม่?
         
การฟอกสีฟันไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่อาจจะมีอาการข้างเคียงจากการทำนั่นคือ อาการเสียวฟัน และการระคายเคืองที่เนื้อเยื่ออ่อน แต่ก็จะกลับสู่ภาวะปกติได้เองเมื่อไม่ได้สัมผัสกับสารฟอกสีฟัน แต่ทั้งนี้ยังมีข้อจำกัดสำหรับบุคคลบางประเภทที่ไม่เหมาะที่จะฟอกสีฟัน ได้แก่ คนที่มีฟันผุ ควรรับการอุดหรือรักษารากฟันเสียก่อน เหงือกอักเสบ เหงือกร่น เนื่องจากสภาวะฟันดังกล่าวจะทำให้มีอาการเสียวฟันมากกว่าปกติ
            สำหรับใครที่กำลังสนใจที่จะฟอกสีฟัน ควรเลือกรูปแบบการฟอกสีฟันที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยทำการพิจารณาศึกษาด้วยตัวเองหรือไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาให้ถูกต้องนะคะ

อยากยิ้มสวย มั่นใจ ฟันขาวสดใส ไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยเทคโนโลยีฟอกฟันขาว Zoom Whitening เพื่อให้ฟันของผู้เข้ารับบริการมีความสวยงามได้ตามต้องการ ทั้งขนาด รูปร่าง การเรียงตัว และสีของฟัน มีบริการฟอกสีฟัน ด้วยเครื่องฟอกสีฟัน zoom ให้ฟันคุณขาวถึงขีดสุด โดยเครื่องมือมีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ณ ขณะนี้

ราคาสุดปัง 9500 บาท (ราคาปกติ 13900 บาท)

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829

Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

#BPDC #คลินิกทันตกรรม #ฟอกฟันขาว #ZoomWhitening #ฟอกสีฟันซูม