อยากมีฟันสวยต้องดู!! เปิดค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

อยากมีฟันสวยต้องดู!! เปิดค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

อยากมีฟันสวยต้องดู!! เปิดค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

มีไหมคะ ใครที่กำลังเครียดและกังวลว่าจะมีเงินจ่ายค่าจัดฟันไหม จะแพงหรือเปล่า แต่ก็อยากสวย อยากหล่อ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟัน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ รวมถึงเงินในกระเป๋า ใครที่อยากมีฟันสวยจะต้องไม่พลาดบทความนี้เลย

จัดฟันแพงไหม?

คำถามที่หลายคนให้ความสนใจกันมาก เมื่อต้องถึงเวลาตัดสินใจจัดฟัน คือเรื่องของค่าใช้จ่าย จัดฟันแพงไหม? ซึ่งต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ค่าใช้จ่ายของการจัดฟันไม่ได้มีแค่เครื่องมือที่ใช้สำหรับจัดฟันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ เราจึงขออธิบายค่าใช้จ่ายตามขั้นตอนดังนี้

  1. พบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด พร้อมวางแผนการจัดฟัน รวมถึงการ X-ray ช่องปาก เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้า ขากรรไกร และฟันทั้งปาก รวมถึงการพิมพ์ช่องปาก ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 – 3,000 บาท
  2. เคลียร์ช่องปาก ขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อจะนำไปสู่ขั้นตอนของการจัดฟันและติดเครื่องมือซึ่งแต่ละบุคคลก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป เช่น อุดฟันผุ ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ฯลฯ โดยจะมีค่าใช้จ่ายราว ๆ 1,000 – 8,000 บาท
  3. ติดเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายครั้งแรกในแต่ละคลินิกก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปค่ะ บางแห่งก็แบ่งจ่าย แต่บางแห่งก็ต้องจ่ายเป็นเงินก้อนทีเดียว หากเป็นกรณีแบ่งจ่ายจะเริ่มต้นค่าใช้จ่ายประมาณ  1,500 – 3,000 บาท ส่วนราคาเงินก้อนเริ่มต้น 38,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดฟัน ซึ่งจะมีปัจจัยข้อดีข้อเสียและระยะเวลาในการจัดที่แตกต่างกันออกไป

จัดฟันครั้งแรกปวดกี่วันถึงจะหาย

สำหรับใครที่สงสัยว่า จัดฟันครั้งแรกปวดไหม บอกเลยว่าอาการปวดมากน้อยแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แต่มีอาการปวดแน่นอนค่ะ จึงมีคำถามตามมาอีกว่าถ้าปวดจะปวดต่อไปอีกกี่วัน การปวดฟันหลังการจัดฟันมีสาเหตุมาจากการติดหรือปรับเครื่องมือจัดฟัน ใหม่ ๆ หลอดเลือดถูกกดจากแรงดัดฟัน จึงทำให้รู้สึกเจ็บ ซึ่งอาการปวด เหล่านี้จะค่อยดีขึ้นภายใน 3-5 วัน ช่วงที่รู้สึกปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดได้ และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยง การเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียว เพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้

จัดฟันต้องถอนฟันไหม

นี่คือหนึ่งในคำถามที่มีคนสงสัยกันมากที่สุด ซึ่งอาจจะเคยเห็นบางคนก็ต้องถอนฟัน บางคนก็ไม่ต้อง ทั้งที่ใครจะถูกถอนหรือไม่ จะต้องให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพช่องปากและฟัน ด้วยการถ่ายภาพเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกร ทำแบบหล่อปูนจำลองฟันอย่างละเอียด ก่อนถึงจะวิเคราะห์ได้ว่าในแต่ละรายจำเป็นต้องถอนฟันหรือไม่ แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับความผิดปกติของคนไข้แต่ละคน ถ้าจำเป็นต้องถอน ทันตแพทย์จะแจ้งอีกครั้งพร้อมระบุจำนวนซี่ในการถอน ถอนซี่ใดบ้าง จากนั้นจะมีการวางแผนขั้นตอนการรักษาตามลำดับ

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน เราสามารถวางแผน พร้อมคิดไว้ล่วงหน้าได้ว่าเราต้องการจัดฟันในรูปแบบใด ซึ่งแต่ละแบบก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป เช่น

  • การจัดฟันแบบโลหะ มีช่วงราคาอยู่ที่ 38,000 – 47,000 บาท
  • การจัดฟันแบบดามอน มีช่วงราคาอยู่ที่ 76,000 – 78,000 บาท
  • การจัดฟันแบบใส Invisalign มีช่วงราคาอยู่ที่ 60,000 – 150,000 บาท

ดังนั้นหากใครอยากมีฟันสวย ก็จะต้องวางแผนค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้ดี ๆ เลยค่ะ เลือกรูปแบบการจัดฟันพร้อมค่าใช้จ่ายที่คิดว่าเรามีกำลังมากพอจะจ่าย เพราะหากเราเลือกรูปแบบที่ค่าใช้จ่ายเกินกำลัง ก็จะส่งผลต่อแผนการจัดฟันในอนาคต อาจจะต้องหยุดไป ทำไม่ต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะไม่เป็นไปตามที่หวัง

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ดัดฟัน #จัดฟัน

ฟันห่าง รักษาได้จริงไหม โดยไม่ต้องจัดฟัน

ฟันห่าง รักษาได้จริงไหม โดยไม่ต้องจัดฟัน

ใครเคยมีประสบการณ์ “ฟันห่าง” จะรู้ว่าเป็นปัญหาที่กวนใจไม่น้อยเลยค่ะ บางคนถึงกับเสียความมั่นใจในการถ่ายรูปหรือยิ้ม บางคนพยายามต้องคอยใช้ลิ้นดุนเวลายิ้ม เพราะจะได้ไม่เห็นช่องว่างระหว่างฟันชัดเจน ซึ่งหากเป็นฟันหน้าก็จะเป็นอุปสรรคในการรับประทานอาหาร เศษอาหารมักจะเข้าไปติดจนทำให้เกิดปัญหาช่องปากตามมาได้ ซึ่งการแก้ปัญหา หลายคนนึกออกแต่การจัดฟัน แน่นอนว่าบางคนก็ไม่อยากจะจัดฟัน แล้วแบบนี้ ฟันห่าง ถ้าไม่จัดฟันจะรักษาได้จริงไหม

ฟันห่าง เป็นแบบไหน

ฟันห่าง คือ ช่องว่างระหว่างฟันที่กว้างมากกว่า 0.5 มม. เกิดขึ้นได้กับฟันทุกซี่ แต่ส่วนใหญ่มักอยู่บริเวณระหว่างฟันหน้าสองซี่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ฟันห่างพบได้ทั้งในเด็กเเละผู้ใหญ่

ฟันห่าง เกิดจากอะไรได้บ้าง

เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมฟันถึงห่าง มันห่างได้เอง หรือมีปัจจัยอะไรไปกระตุ้นให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันขึ้นมา ซึ่งก็มีอยู่หลายสาเหตุดังนี้

  1. ขากรรไกรและขนาดของซี่ฟันไม่สมดุลกัน กล่าวคือ ฟันอาจจะมีขนาดที่เล็กเมื่อเทียบกับขากรรไกรที่ใหญ่ ทำให้เหลือช่องว่างระหว่างฟันมากกว่าปกติ
  2. การสูญเสียฟันบางซี่ ก็สามารถทำให้ฟันห่างได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟันล้มจากการถอน หรือในเด็กที่เมื่อฟันหลุดก็สามารถเกิดฟันห่างแบบชั่วคราวจนกว่าฟันแท้จะขึ้นได้
  3. เนื้อเยื้อยึดระหว่างริมฝีปากกับสันเหงือกที่มีลักษณะหนาและแข็งกว่าปกติ ทำให้ขวางระหว่างซี่ฟัน และทำให้เกิดช่องว่างระหว่างซี่ฟันได้
  4. พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดูดนิ้วโป้ง การดูดปาก ดุนลิ้น ที่จะไปสร้างแรงดันที่ฟันหน้า สามารถนำไปสู่ฟันห่างได้เช่นกัน
  5. ปัญหาการกลืน ใครจะคิดว่าการกลืนจะทำให้ฟันห่างได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ ค่ะ คนปกติ เมื่อกลืนอาหาร ลิ้นจะแตะเพดานปาก เกิดเป็นแรงดันจากลิ้นที่เพดานปาก แต่ในคนที่ผิดปกติ จะเกิดเเรงกดลิ้นกับฟันหน้าขึ้นเเทน เมื่อผ่านไปแรงกดนี้ซ้ำ ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จะผลักไปข้างหน้าทำให้ฟันห่างได้

วิธีการรักษาฟันห่าง

ไม่ใช่ทุกคนจะอยากจัดฟันหรือพร้อมที่จะจัดกัน แต่ทว่าพอมีฟันห่าง หลายคนกลับนึกถึงแค่วิธีจัดฟันอย่างเดียว ต้องบอกเลยว่าจริง ๆ แล้วยังมีวิธีช่วยให้ฟันห่างกลับมาชิดกันได้โดยไม่ต้องจัดฟันจริง ๆ ค่ะ มีวิธีดังนี้

  1. การอุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน

วิธีนี้สามารถรักษาฟันห่างได้โดยการใช้วัสดุอุดฟันคอมโพสิตเรชิ่นที่มีสีเหมือนฟันธรรมชาติมาช่วย

เสริมเข้าไปบริเวณช่องว่างระหว่างฟัน โดยทันตแพทย์จะเลือกสีของวัสดุอุดฟันให้ใกล้เคียงกับสีฟันเดิมและสร้างรูปร่างให้เรียบเนียนเข้ากับฟันธรรมชาติ ซึ่งทำให้คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่าฟันซี่นั้นเป็นฟันที่มีการอุดปิดไว้ นอกจากนี้ การอุดปิดช่องว่างยังช่วยรักษาปัญหาฟันบิ่นได้ด้วยค่ะ ข้อดีคือราคาไม่แพง ใช้เวลาไม่นาน โดยสามารถอุดได้ทันที

  • การทำวีเนียร์

การทำวีเนียร์ เป็นการรักษาฟันห่างแบบเติมเต็มรอยยิ้ม โดยใช้เรซินเป็นวัสดุ ปิดทับบริเวณผิวหน้าของ

ฟัน ช่วยปิดบังสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอและฟันที่มีรูปร่างไม่สวยงาม รวมถึงฟันที่มีช่องว่างระหว่างฟัน ให้รอยยิ้มสวย ฟันขาวยิ่งขึ้น ข้อเสียของการทำวีเนียร์คือราคาต่อซี่ค่อนข้างสูง

  • การทำรากฟันเทียมหรือสะพานฟัน

วิธีนี้ใช้รักษาฟันห่างได้เช่นกัน แต่ได้รับความนิยมน้อยกว่าสองวิธีแรก เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟัน

โดยการใช้สกรูโลหะเข้าไปในกระดูกขากรรไกรและยึดเข้ากับฟันปลอม

เห็นไหมล่ะคะ ว่าการรักษาฟันห่างสามารถทำได้มากมายหลายวิธี โดยที่ไม่จำเป็นต้องจัดฟันเลย ซึ่งหากใครสนใจวิธีไหน ให้ลองขอคำปรึกษาจากทันตแพทย์ได้เลย

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ฟันห่าง #จัดฟัน

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เราต้องเคยได้ยินกันมาบ้างล่ะค่ะ ว่าก่อนจัดฟันจะต้อง “เคลียร์ช่องปาก” แล้วเคลียร์ช่องปาก คืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง แล้วคนที่จะจัดฟัน การเคลียร์ช่องปากจำเป็นมากไหม อยากจัดฟัน แต่ไม่เคลียร์ช่องปากได้หรือเปล่า เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามมากมายเหล่านี้อยู่ในใจ แต่ไม่รู้ว่าจะไปถามใครดี วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลียร์ช่องปากมาฝากกันค่ะ

เคลียร์ช่องปาก คืออะไร ?

เคลียร์ช่องปาก คือ การเตรียมเหงือกและฟันของเราให้พร้อมสำหรับการจัดฟัน เป็นการกำจัดปัญหาที่อาจส่งผลต่อแผนการจัดฟันของเราในอนาคต โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก เพื่อดูสภาพฟันและเหงือกว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เช่น เช็คฟันผุ ขูดหินปูน รวมถึงการ X-ray ฟัน และพิมพ์ฟัน เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้า

เคลียร์ช่องปาก ต้องทำอะไรบ้าง ?

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า การเคลียร์ช่องปากคือการเตรียมสภาพช่องปากของฟันและเหงือกก่อนเริ่มจัดฟัน นั่นแปลว่า ทันตแพทย์จะต้องเช็คสุขภาพช่องปากของเราทั้งปาก ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

  1. ตรวจสุขภาพช่องปากโดยละเอียด

ทันตแพทย์จะตรวจเช็คช่องปากโดยละเอียด เพื่อดูว่ามีฟันผุ ฟันคุด เหงือกอักเสบ หรือปัญหาด้าน

อื่น ๆ ภายในช่องปากหรือไม่ หากพบปัญหาก็จะต้องไปรักษาตามจุดที่เป็นปัญหานั้นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียในระยะยาว หากต้องจัดฟัน

  • อุดฟัน

จากข้อ 1 เมื่อเรามารับการเคลียร์ช่องปาก ตรวจสุขภาพช่องปากแล้วพบว่า มีฟันผุ ทันตแพทย์จะ

แนะนำให้อุดฟันที่ผุก่อน ไม่ว่าฟันนั้นจะผุมากหรือผุน้อย เพราะหากปล่อยฟันผุเอาไว้ ไม่รับการรักษาก่อนจัดฟัน ฟันผุนั้นอาจจะมาขัดขวางการจัดฟัน หรือสร้างปัญหาระหว่างการจัดฟันในระยะยาวได้ ยิ่งไปกว่านั้น การจัดฟันจะต้องติดเครื่องมือจัดฟัน การทำความสะอาดฟันจะยิ่งทำได้ยากมากขึ้น หากมีฟันที่ผุอยู่แล้ว แต่ไม่ได้รับการอุด ก็จะยิ่งส่งผลเสีย อย่างฟันผุมากขึ้น หรือรอยผุลุกลามเข้าที่รากฟัน จนอาจจะเสียฟันซี่นั้นไป และยังต้องเสียค่ารักษาสูงอีกด้วย

  • ขูดหินปูน

การเคลียร์ช่องปากอย่างต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การขูดหินปูน ซึ่งหินปูนคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้

เกิดปัญหาช่องปากตามมาอีกหลายโรค เมื่อเราจัดฟัน ก่อนเราติดเครื่องมือจัดฟัน เราจะต้องทำความสะอาดผิวฟันให้สะอาดเสียก่อน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย โดยพอเราติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว การทำความสะอาดฟันจะกลายเป็นเรื่องยากขึ้น หากเราทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ โอกาสจะเกิดคราบหินปูนก็ง่ายขึ้นด้วย ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ขูดหินปูนก่อนการจัดฟัน และควรขูดหินปูนเป็นระยะ ๆ อีกด้วย

  • การผ่าฟันคุด

ในกรณีที่เมื่อตรวจเช็คฟันแล้วพบฟันคุด ควรพิจารณาการถอนหรือผ่าจะดีกว่าค่ะ เพราะฟันคุดคือฟัน

ที่ขึ้นไม่ปกติตามธรรมชาติของฟันที่ควรจะขึ้น บางคนอาจจะพบกรณีที่ฟันพยายามแทงตัวเองขึ้นมา แต่ขึ้นมาไม่ได้ เนื่องจากขึ้นช้ากว่าซี่อื่น จึงไม่เหลือพื้นที่ให้ขึ้นมาได้ ส่งผลให้เหงือกบริเวณนั้นอักเสบ แต่บางคนก็ไม่พบอาการอะไร นอกจากมีฟันบางส่วนขึ้นมาแล้ว ดังนั้น ฟันคุดจึงเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ การเคลียร์ช่องปากด้วยการผ่าฟันคุดจึงเป็นทางออกที่ดี หากใครที่คิดจะจัดฟัน เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลา หากระหว่างจัดฟันไปแล้วพบว่าฟันคุดพยายามดันฟันซี่อื่น ๆ นั่นก็จะส่งผลต่อฟันซี่ข้าง ๆ

  • ถอนฟัน

สำหรับข้อนี้ ก็เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยในการเคลียร์ช่องปากว่า ทำไมบางคนถอนฟัน บางคนก็ไม่

ถอน ซึ่งการถอนฟันหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างและการเรียงตัวของฟันว่ามีปัญหาการเรียงตัวมากน้อยเพียงใด รวมถึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่าจะมีแผนการรักษาอย่างไร

ดังนั้น สรุปได้ว่าการเคลียร์ช่องปากสำคัญกับการจัดฟันจริงค่ะ ซึ่งเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปาก
รวดเดียวก็ได้ หากวางแผนที่จะจัดฟัน แนะนำให้ทยอยเคลียร์ช่องปาก เพื่อให้ทันตแพทย์ประเมินสภาพช่องปากก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน เคลียร์ช่องปาก
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#เคลียร์ช่องปาก #จัดฟัน

จัดฟันแบบใส ยิ้มสวย มั่นใจ ไร้เหล็ก

จัดฟันแบบใส ยิ้มสวย มั่นใจ ไร้เหล็ก

จัดฟันแบบใส ยิ้มสวย มั่นใจ ไร้เหล็ก

เมื่อพูดถึงการจัดฟัน สิ่งที่ผู้ทำคาดหวังมากที่สุดคือ ความสวยงาม หลายครั้งการจัดฟันโดยทั่วไปที่ต้องติดเครื่องมือไว้กับฟัน ก็กลายเป็นอุปสรรคในการทำงานของใครหลายคน ที่อาจจะต้องใช้หน้าตา หรือกับบางคนที่รู้สึกว่าการจัดฟันแบบมีเครื่องมือติดไว้ตลอด ดูแลยากเกินไป และหากดูแลไม่ดีพอ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาช่องปากตามมาอีกด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีการจัดฟันแบบใส ที่มองเผิน ๆ เหมือนคนไม่จัดฟัน ใครสนใจการจัดฟันแบบนี้ต้องมาดูเลยค่ะ

จัดฟันแบบใส คืออะไร

จัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันที่สามารถถอดได้ โดยผู้ทำสามารถทราบผลล่วงหน้าด้วยระบบการรักษา 3 มิติ เทคโนโลยี 3-D ที่ส่งข้อมูลฟันคนไข้ไปยังห้องปฏิบัติการที่ประเทศสหรัฐเพื่อทำการผลิตรูปแบบฟันออกมาเป็นแบบรายบุคคลทำให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพสูง

อะไรทำให้การจัดฟันแบบใสดีกว่าแบบอื่น

  • ด้วยเครื่องมือแบบใส ทำให้ดูสวยงามกว่าการจัดฟันแบบธรรมดา ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าไปจัดฟันมา
  • มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวย
  • ลดการเกิดแผลและการระคายเคืองภายในช่องปากจากเครื่องมือที่จะมาเกี่ยว
  • สามารถถอดออกได้ และทำความสะอาดฟันได้สะดวกมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาการสบฟันได้หลายประเภท
  • แก้ปัญหาฟันเก ฟันห่าง ตั้งแต่ความผิดปกติน้อย ๆ ไปยังความผิดปกติที่รุนแรง
  • ไม่ต้องไปพบทันตแพทย์บ่อย ๆ

ประเภทของการจัดฟันแบบใส

สำหรับการจัดฟันแบบใส Invisalign เราสามารถแยกประเภทย่อย ๆ ออกมาได้อีก 3 ประเภท ดังนี้

1. Invisalign Express การจัดฟันแบบใสประเภทนี้ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติของการเรียงตัวของฟันเพียงเล็กน้อย หรือผู้ที่มีการคืนกลับของฟันภายหลังจากการจัดฟัน เนื่องจากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์

2. Invisalign Lite การจัดฟันแบบใสประเภทนี้ใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีฟันห่าง ฟันซ้อนเก ระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น

3. Invisalign Full การจัดฟันแบบใสประเภทนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี สำหรับผู้ที่มีฟันซ้อนเก หรือความซับซ้อนค่อนข้างมาก อาจเป็นผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อน

อายุเท่าไหร่จึงจะเหมาะที่จะจัดฟันแบบใส

การจัดฟันแบบใสสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ฟันแท้เริ่มขึ้นจนครับ และขากรรไกรเริ่มมีการเจริญเติบโต ทำให้การขยายหรือลดรูปร่างขากรรไกรเป็นไปได้ง่าย หรือจะรอให้มีการเจริญเติบโตเต็มที่ ช่วงอายุ 18 ปี ก็ได้เช่นกันค่ะ

ขั้นตอนในการจัดฟันแบบใส

1. พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก พร้อมถ่ายภาพใบหน้า เอกซเรย์ พิมพ์ฟัน และทันตแพทย์จะวางแผนรักษาร่วมกับคนไข้

2. ใช้โปรแกรมสร้างภาพ 3D เพื่อสร้างชุดเครื่องมือจัดฟัน ที่ความใส และบาง พอดีกับฟันแต่ละซี่ ซึ่งเราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลังการจัดฟันได้

3. จัดส่งทำเครื่องมือจัดฟันแบบใส พร้อมนัดคนไข้เข้ามาเพื่อเตรียมช่องปากและรับเครื่องมือจัดฟัน

4. คนไข้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสตามตารางที่ทันตแพทย์กำหนด

5. เมื่อจัดฟันแบบใสเสร็จแล้ว ควรใส่รีเทรนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันเหมือนการจัดฟันประเภทอื่น ๆ

การจัดฟันแบบใสถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่ต้องการความสวยงามและดูแลง่าย รวมถึงมีกำลังมากพอจะจ่าย เพราะปลายทางของการจัดฟันก็ให้ผลที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือการมีฟันที่เรียงตัวสวย และลดปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมีลงไปได้ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญการดูแลฟันให้ดีก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าคุณจะจัดฟันแบบไหนมาก็ตาม

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#จัดฟัน #จัดฟันแบบใส

ฟันสบลึก Deep Bite

ฟันสบลึก Deep Bite

ถ้าพูดถึงฟันสบลึกหลายๆ คนอาจจะงงๆ ว่าคืออะไร แต่ถ้าได้เห็นภาพหรือได้อ่านบทความก็จะสามารถเข้าใจได้ว่า ฟันสบลึก หรือ Deep Bite คืออะไรค่ะ

ฟันสบลึก คือ

ฟันสบลึก หรือจะเรียกว่า ฟันงุ้ม จะเป็นฟันที่มีลักษณะที่เวลายิ้ม ฟันบนหน้า จะปิดฟันล่างทำให้เวลายิ้มแล้วไม่เห็นฟันล่างเลย ซึ่งเป็นความผิดปกติในการจัดเรียงของฟันด้านบนและฟันด้านล่าง หน้าดูมีอายุ ฟันจะสึกกร่อนได้ง่ายเพราะมีการกระทบกันตลอดเวลา ฟันสบลึกไม่ใช่อาการฟันเหยินนะคะ เพราะถ้าฟันเหยิน ฟันหน้าด้านบนของเราจะยื่นออกไปมากเกินจนผิดปกติค่ะ หรือบางกรณีของฟันเหยินจะไม่สามารถหุบริมฝีปากได้เลยเพราะมีฟันยื่นออกมาแทนค่ะ

การสังเกตุอาการของฟันสบลึก

หากสังเกตุดีๆ ถ้าปลายฟันหน้าบน คร่อมปิดปลายฟันหน้าล่างลึกประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของฟันหน้าล่าง ก็ถือว่าเป็นอากการของฟันสบลึกแล้วค่ะ ซึ่งความรุนแรงแต่ละคนจะไม่เท่ากัน หรือเวลาเคี้ยวอาหารหรือกัดฟัน ฟันล่างจะไปกระแทกคอฟันด้านบน ด้านใน ปวดเพดานเหงือกบ่อยๆ

จะแก้ฟันสบลึก ต้องทำอย่างไร

การที่มีอาการแบบนี้ควรไปจัดฟัน ปรับโครงสร้าง รูปหน้า และการจัดเรียงของฟันให้สวยงาม เพราะหากเราปล่อยให้เกิดฟันสบลึกไปตลอดไม่แก้ไข จะทำให้ฟันสึก ปวดฟัน และรูปหน้าผิดปกติ หน้าสั้น เวลายิ้ม ขาดความมั่นใจในการยิ้ม

ซึ่งการจัดฟันที่ไม่ดี ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้ฟันของเรา อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นฟันสบลึกได้

หากต้องการคำปรึกษาสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟันได้ที่

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

คลินิกทันตกรรม #BPDC #จัดฟัน #ฟันสบลึก #ฟันงุ้ม #DeepBite

จัดฟันด้วยเทคโนโลยี CAD / CAM

จัดฟันด้วยเทคโนโลยี CAD / CAM

CAD / CAM คืออะไร

เป็นคำย่อของการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย / การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ใช้มานานหลายทศวรรษในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อผลิตเครื่องมือชิ้นส่วนและรถยนต์ที่มีความแม่นยำเทคโนโลยี CAD / CAM ได้ถูกรวมเข้ากับทันตกรรมมากขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

ทันตแพทย์และห้องปฏิบัติการทันตกรรมใช้เทคโนโลยี CAD / CAM และวัสดุที่ปราศจากโลหะเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการครอบฟันเซรามิกวีเนียร์ออนเลย์อินเลย์และสะพานฟัน CAD / CAM ทางทันตกรรมยังใช้ในการประดิษฐ์ตัวยึดสำหรับรากฟันเทียมซึ่งใช้เพื่อทดแทนฟันที่หายไป

เนื่องจากวัสดุและเทคโนโลยีที่มีอยู่สำหรับทันตกรรม CAD / CAM ได้รับการปรับปรุงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ป่วยจึงได้รับการบูรณะจากรูปแบบของทันตกรรมดิจิทัลนี้ด้วยเช่นกัน การบูรณะ CAD / CAM ในปัจจุบันมีความกระชับทนทานและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น (หลายสีและโปร่งแสงคล้ายกับฟันธรรมชาติ) มากกว่าการบูรณะด้วยเครื่องจักรก่อนหน้านี้

ตัวเลือก CAD / CAM ในห้องปฏิบัติการในสำนักงานและทันตกรรม

เทคโนโลยี CAD / CAM ทางทันตกรรมมีให้สำหรับการปฏิบัติทางทันตกรรมและห้องปฏิบัติการทางทันตกรรมทำให้ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ (หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการ) สามารถออกแบบการบูรณะบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ คอมพิวเตอร์ CAD / CAM จะแสดงภาพฟันหรือฟันที่คุณเตรียมไว้ 3 มิติซึ่งได้จากการจับการเตรียมแบบดิจิทัลด้วยเครื่องสแกนออปติคัล หรืออีกวิธีหนึ่งคือสามารถรับภาพ 3 มิติได้โดยการสแกนแบบจำลองดั้งเดิมที่ได้จากการแสดงผลแบบเดิมของการเตรียมการ

จากนั้นทันตแพทย์หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการจะใช้ภาพ 3 มิติและซอฟต์แวร์ CAD เพื่อวาดและออกแบบการบูรณะขั้นสุดท้าย ระยะเวลาที่ทันตแพทย์นักออกแบบการบูรณะในสำนักงานหรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการใช้ในการออกแบบการบูรณะจะแตกต่างกันไปตามทักษะประสบการณ์และความซับซ้อนของเคสและการรักษา บางกรณีอาจใช้เวลาไม่กี่นาทีในขณะที่บางกรณีอาจต้องใช้เวลาออกแบบครึ่งชั่วโมงขึ้นไปเพื่อให้ได้คุณภาพ

เมื่อได้รับการออกแบบการบูรณะขั้นสุดท้ายแล้วเม็ดมะยมฝังแผ่นไม้อัดหรือสะพานจะถูกขัดสีจากวัสดุเซรามิกบล็อกเดียวในห้องกัด จากนั้นการบูรณะสามารถปรับแต่งด้วยคราบและเคลือบเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นก่อนที่จะนำไปเผาในเตาอบ (คล้ายกับเซรามิกและเครื่องปั้นดินเผา) จากนั้นจึงขัดและขัดให้เสร็จ

ประโยชน์ของทันตกรรม CAD / CAM

การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการบูรณะ CAD / CAM ในปัจจุบันนั้นแข็งแกร่งกว่าการบูรณะจากวัสดุรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีโอกาสน้อยที่จะแตกหัก

ข้อดีอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี CAD / CAM

คือหากทันตแพทย์ของคุณมีเทคโนโลยีในสำนักงานการทำฟันในวันเดียวกันอาจเป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับคุณ สามารถใช้เทคโนโลยีทางทันตกรรม CAD / CAM เช่น CEREC ในสำนักงานหรือ E4D Dentist System เพื่อทำการบูรณะฝังฟันครอบฟันหรือวีเนียร์ในการนัดหมายครั้งเดียวในขณะที่คุณรอ

หากทันตแพทย์ของคุณเสนอ CAD / CAM ในสำนักงานคุณไม่จำเป็นต้องมีการแสดงผลแบบเดิมการบูรณะชั่วคราวหรือการนัดหมายครั้งที่สอง คุณจะได้รับยาชาเฉพาะที่ (ชา) เพียงครั้งเดียวสำหรับการเตรียมฟันที่จำเป็น

ข้อยกเว้นสำหรับกระบวนการนี้คือสะพานเซรามิกทั้งหมดเนื่องจากถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยใช้เทคโนโลยี CAD / CAM การบูรณะสะพานเซรามิกทั้งหมดต้องมีการเยี่ยมชมสำนักงานครั้งที่สองเพื่อแทรกสะพาน ในกรณีเช่นนี้จำเป็นต้องมีการบูรณะชั่วคราว

ข้อยกเว้นอีกประการหนึ่งคือหากทันตแพทย์ของคุณต้องการสร้างการบูรณะ CAD / CAM ในขณะที่คุณไม่ได้อยู่ในสำนักงานทำให้ต้องมีการนัดหมายสองครั้ง ทันตแพทย์บางคนชอบแนวทางนี้เพื่ออุทิศเวลาให้กับกระบวนการออกแบบและการกำหนดลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง CAD / CAM มากขึ้น ในกรณีนี้จำเป็นต้องมีการชั่วคราวด้วย

ข้อควรพิจารณาพิเศษสำหรับทันตกรรม CAD / CAM

เทคโนโลยี CAD / CAM ไม่สามารถทดแทนความแม่นยำและความสามารถที่จัดทำโดยทันตแพทย์หรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการทันตกรรม ทันตแพทย์ต้องมีความแม่นยำในการเตรียมฟันเบื้องต้น ทั้งทันตแพทย์และช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการต้องมีความถูกต้องแม่นยำเมื่อทำการแสดงผลดิจิทัลและวาดภาพการบูรณะ

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความแม่นยำและทักษะในการออกแบบการบูรณะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความเหมาะสมของการบูรณะมีความสำคัญต่อการป้องกันความเสียหายของฟันในอนาคต ตัวอย่างเช่นการครอบฟันที่ไม่เหมาะสมไม้วีเนียร์การฝังหรือการฝังสามารถเว้นช่องว่างระหว่างฟันหรือระหว่างการเตรียมฟันและการบูรณะ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อหรือโรค

เมื่อใดควรเลือกทันตกรรม CAD / CAM

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกซี่ที่สามารถรักษาด้วยการบูรณะ CAD / CAM ได้ ทันตแพทย์ของคุณจะพิจารณาว่าการฟื้นฟู CAD / CAM เป็นทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของคุณหรือไม่ นอกจากนี้แม้จะมีการปรับปรุงความสวยงามของวัสดุ CAD / CAM ผู้ป่วยอาจพบว่าการบูรณะ CAD / CAM บางส่วนดูทึบเกินไปและขาดลักษณะที่เป็นธรรมชาติ

ทันตแพทย์ของคุณอาจเลือกใช้เทคนิคการประดิษฐ์ในห้องปฏิบัติการแบบเดิมที่มีประวัติยาวนานและได้รับการพิสูจน์มากขึ้นเพื่อความแม่นยำในการพอดี ดังนั้นผู้ป่วยจะต้องหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และความต้องการของตนเองกับทันตแพทย์ซึ่งจะตัดสินใจในการรักษาขั้นสุดท้ายโดยอาศัยการตรวจอย่างละเอียด

ค่าใช้จ่ายในการบูรณะ CAD / CAM

การบูรณะด้วยเซรามิกทั้งหมดรวมถึงการประดิษฐ์ในห้องปฏิบัติการทันตกรรมโดยใช้เทคโนโลยี CAD / CAM มีแนวโน้มที่จะเป็นวิธีการบูรณะที่มีราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าวัสดุสำหรับการบูรณะ CAD / CAM อาจมีราคาสูงกว่า แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากห้องปฏิบัติการทันตกรรมและ / หรือทันตแพทย์อาจไม่ถูกส่งไปยังผู้ป่วย

นอกจากนี้ยังไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการบูรณะในการเยี่ยมชมครั้งเดียวเมื่อเทียบกับสองครั้ง การชดใช้เงินประกันจะคล้ายกันสำหรับการทำฟันในสำนักงานในวันเดียวกันหรือการบูรณะในห้องปฏิบัติการ

ที่คลินิกทันตกรรม BPDC ของเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ด้านการรักษารากฟันเทียม วัสดุรากฟันเทียมมาตรฐานยุโรป รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมี Software CAD / CAM Dentistry ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำรากฟันเทียมให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam

จัดฟันแบบ-Invisalign-หรือจัดฟันใส-เป็นยังไง

จัดฟันแบบ Invisalign หรือจัดฟันใส เป็นยังไง? ที่นี่มีคำตอบ!

เชื่อว่าใครหลายคนอาจเคยได้ยิน ได้รู้จักกับการจัดฟันแบบใส หรือแบบ invisalign กันมาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่รู้ถึงกระบวนการทำงานของมันว่าจะสามารถจัดเรียงฟันของเราให้สวยปิ๊งได้ยังไง เพื่อให้คุณทำความรู้จักและเข้าใจการจัดฟันแบบ invisalign กันมากขึ้น บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกและหาคำตอบกันค่ะ

  • การจัดฟันแบบ invisalign หรือการจัดฟันแบบใส คืออะไร?

การจัดฟัน invisalign เป็นรูปแบบหนึ่งของนวัตกรรมการจัดฟันที่ทันสมัยและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยใช้เครื่องมือที่มีลักษณะเป็นที่ครอบพลาสติกใส สามารถถอดเข้าออกได้ง่าย ไร้เหล็กดัด และออกแบบมาอย่างเฉพาะเพื่อใช้สำหรับแต่ละบุคคล ส่วนในเรื่องของกระบวนการรักษานั้นก็ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนใดๆเลย ขั้นตอนแรก แพทย์จะทำการให้คำปรึกษาและวางแผนแนวทางการรักษาโดยออกแบบผ่าน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีชื่อว่า Clincheck ออกมาในรูปแบบของวิดีโอ 3D เพื่อให้เราเข้าใจและรับรู้ทุกกระบวนการรักษาอย่างถูกต้องและครบถ้วน หลังจากนั้นก็จะจัดทำเครื่องมืออุปกรณ์จัดฟันแบบใสขึ้นมาเป็นชุด ตามลำดับและขนาดที่แพทย์ได้กำหนดเอาไว้ ขั้นตอนต่อมาคือคุณต้องใส่ที่ครอบพลาสติกใสหรือเครื่องมือจัดฟันที่แพทย์จัดมาให้ทุกวัน โดยสามารถถอดออกได้เฉพาะ ช่วงรับประทานอาหารและช่วงทำความสะอาดฟันเท่านั้น และมีข้อปฏิบัติคือ คุณต้องมาเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันเป็นชุดใหม่ ทุกๆ 2 สัปดาห์ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบระยะเวลาที่แพทย์กำหนด เพียงแค่นี้กระบวนการจัดฟันแบบใสก็เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ

  • การจัดฟัน invisalign แตกต่างและดีกว่าการจัดฟันรูปแบบอื่นอย่างไร?

การจัดฟัน invisalign นั้นถือเป็นนวัตกรรมทางด้านทันตกรรมที่ได้รับการศึกษาวิจัยและพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูง เพราะสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว ชัดเจนและเสริมบุคลิกภาพของผู้ทำ แตกต่างจากการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆที่ ใช้เวลานาน มีความยุ่งยากในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ มีความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับสุขภาพปากและไม่ส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้ทำ ทั้งนี้ทั้งนั้นการจัดฟันแบบ invisalign ก็ต้องการวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟันมากๆ และเหมาะสมกับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพฟันที่ซับซ้อนมากนัก ร่วมถึงมีราคาที่ค่อนข้างสูงต่อครั้งเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็กดัด แต่ราคาที่ค่อนข้างสูงต่อครั้งก็มาพร้อมกับระยะเวลาที่สั้นกว่าการจัดฟันแบบปกติมาก เมื่อเทียบดีๆแล้วในระยะยาว การจัดฟันแบบใสอาจไม่ได้มีราคาที่สูงกว่าหรือในบางเคสอาจถูกและคุ้มค่ากว่าการจัดฟันแบบปกติอีกด้วย

ผู้เขียนหวังว่าในบทความนี้หลายท่านคงจะได้ทำความรู้จักกับการจัดฟันแบบ invisalign กันมากขึ้น และอย่างไรก็ดีรูปแบบการเลือกวิธีการจัดฟันนั้นก็อาจแตกต่างกันไปตามงบประมาณและปัญหาสุขภาพฟันส่วนบุคคล ซึ่งหากท่านใดสนใจการจัดฟันแบบ invisalign ผู้เขียนแนะนำว่าควรปรึกษาเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ แล้วไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สำหรับบทความนี้สวัสดีค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

ขั้นตอนการจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟัน

ฟันของแต่ละคนมีการเรียงตัวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างฟัน ขนาดฟัน ฟันเขี้ยว ฟันเก ฟันเหยิน ฟันซ้อน ฟันห่าง สบฟันไม่ดี รวมถึงความสัมพันธ์ของขากรรไกรฟัน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ขาดความมั่นใจ รวมถึงบุคลิกภาพไม่ดี  การจัดฟันจึงเป็นการรักษาและแก้ไขปัญหาของฟันเรียงตัวไม่เหมาะสม เพื่อให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยลดปัญหาการเคี้ยวอาหาร ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดฟันเนื่องจากฟันมีการเรียงตัวเป็นระเบียบ สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยให้โครงสร้างฟันมีการเรียงตัวเป็นระเบียบช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย และป้องกันการเกิดฟันผุและโรคเหงือกด้วย

ขั้นตอนการจัดฟัน

  1. ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเพื่อวางแผนการรักษา ฟังคำแนะนำ แนวทางการรักษา รวมถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการรักษา
  2. หากต้องการจัดฟัน ทางทันตแพยทย์จะส่งตัวไป X Ray ฟันเพื่อจัดฟัน หลังจากนั้นจึงพิมพ์ปากแบบจำลองฟันเรา เพื่อดูสบฟัน แล้วนำมาวางแผนการรักษา
  3. ก่อนจัดฟัน จะมีการเคลียร์ช่องปากก่อน เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้จัดฟัน
  4. หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดหมายเพื่อทำการติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน โดยทางทันตแพทย์อาจเลือกติดตั้งเครื่องมือบน หรือล่างก่อน เพื่อดูการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อประกอบการวางแผนรักษา
  5. หลังจากนั้น ทางทันตแพทย์จัดฟันจะนัดทุกๆ 1 เดือนเพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน โดยใช้เวลาการรักษา 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟันและปัญหาของผู้จัดฟัน

ข้อแนะนำ ควรหมั่นแปรงฟันให้สะอาด หรือขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพราะการใส่เหล็กจัดฟันอาจทำให้ทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาเหงือกบวม หรืออักเสบ รวมถึงฟันผุได้

  1. เมื่อทำการรักษาเสร็จสิ้น ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟัน และทำรีเทนเนอร์ให้ใส่เพื่อคงสภาพฟันไว้  ระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับผู้รับบริการแต่ละราย  และควรกลับมารับการตรวจเช็คประจำทุกปี หลังจัดฟันแล้วเสร็จ พร้อมนำรีเทนเนอร์ มาตรวจความสมบูรณ์ด้วย

 

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

ข้อดีของการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

การจัดฟัน  เป็นสาขาหนึ่งทางทันตกรรมที่แยกเฉพาะทางเพื่อวินิจฉัย ป้องกันและรักษาความผิดปกติการขึ้นของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีระบบบดเคี้ยวดีขึ้น  การรักษาส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและสบฟันที่ผิดปกติ  นอกจากนี้ยังช่วยปรับโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าให้ดีและสวยงามขึ้น  การจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่   

        ข้อดีของการจัดฟัน

  1. เพื่อความสวยงามและเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี การมีรอยยิ้มที่สวยงามจะทำให้เจ้าของรอยยิ้มมีบุคลิกที่ดี กล้าแสดงออก และมีเสน่ห์ ตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันที่มีการใช้รูปร่างหน้าตา บุคลิกในการประกอบอาชีพ  คนที่มีรอยยิ้มและบุคลิกภาพที่ดีมักได้รับโอกาสที่ดีมากกว่า  ดังนั้นการจัดฟันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
  2. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟัน เมื่อมีสบฟันที่ดีขึ้น จะช่วยเรื่องการเคี้ยวอาหารได้ละเอียดและดีขึ้นกว่าเดิม
  3. เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน ทำให้สามารถทำความสะอาดฟันและช่องปากได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ
  4. ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ การจัดฟันช่วยลดปัญหากลิ่นปาก
  5. ปรับเปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนมีระเบียบวินัย
  6. โครงหน้าเข้ารูปและดูดีมากขึ้น หรือหน้าดูเรียวมากขึ้น
  7. การจัดฟันเป็นแฟชั่นที่อินเทรนด์ และช่วยเพิ่มจุดเด่นให้คนอื่นจำเราได้ง่ายขึ้น
  8. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากการจัดฟันทำให้ต้องพิถีพิถันในการเลือกกินอาหาร ทำให้ช่วงเวลาที่จัดฟันอาจมีน้ำหนักลดลง
  9. ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่างหรือฟันมีลักษณะการสบฟันหน้าแบบสบเปิด (กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่ขาด) หลังจัดฟันเสร็จแล้ว จะช่วยให้มีการออกเสียงพูดได้ถูกต้องและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเสียง “ส.เสือ”

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC

จัดฟัน

เมื่อตัดสินใจจัดฟัน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เมื่อตัดสินใจจัดฟัน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

 

การจัดฟันคือหนึ่งในวิธีทางการแพทย์ทึ่ช่วยจัดเรียงฟันให้สวยเข้ารูป ช่วยให้มั่นใจ กล้ายิ้มและช่วยเสริมบุคลิกภาพ นอกจากช่วยในเรื่องความสวยงามเป็นหลักแล้ว การจัดฟันยังช่วยในด้านของสุขอนามัยด้วย เพราะเมื่อฟันเรียงตัวก็จะช่วยให้แปรงฟันได้สะอาดทั่วถึงมากขึ้น ลดการเกิดฟันผุ และลดการเกิดเหงือกอักเสบได้อีกด้วย

 

ขั้นตอนมาตรฐานในการจัดฟัน

  1. ตรวจสุขภาพฟันเบื้องต้น
  2. เอกซเรย์ฟัน พิมพ์ปาก
  3. เคลียร์ช่องปาก
  4. ติดเครื่องมือ
  5. นัดปรับเครื่องมือ (แต่ละคนใช้ระยะเวลาในการจัดฟันไม่เท่ากัน)
  6. ถอดเครื่องมือ ใส่รีเทนเนอร์

 

ในขั้นตอนก่อนการติดเครื่องมือนั้นจะมีขั้นตอนที่เรียกว่า “การเคลียร์ช่องปาก” นั่นก็คือการเตรียมความพร้อมของช่องปากก่อนที่จะเริ่มต้นจัดฟัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย การขูดหินปูน, อุดฟัน, ผ่าฟันคุด หรือการรักษารากฟัน โดยทันตแพทย์จะพิจารณาแล้วแต่เคสไป แม้ว่าบางคนอาจจะไม่อยากทำขั้นตอนเหล่านี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อฟันได้รับการติดเครื่องมือไปแล้ว ช่องปากก็จะทำความสะอาดยากขึ้น อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันตามมาได้ ดังนั้นการเคลียร์ช่องปากจึงถือเป็นหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญมาก

เริ่มต้นที่การขูดหินปูน

โดยทั่วไปแล้ว คนเราควรขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพฟันที่ดี เพราะหากมีหินปูนสะสมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบตามมา หากเป็นมากอาจลุกลาม มีหนอง มีกลิ่นปากอย่างรุนแรง ทำให้เหงือกร่น ฟันโยก และอาจถึงขั้นต้องถอนฟันทิ้งไป ดังนั้นด่านแรกของสุขภาพฟันที่ดีก็คือการเริ่มต้นจากการขูดหินปูนสม่ำเสมอนั่นเอง

อุดฟันให้เรียบร้อย

“ฟันผุ” อีกหนึ่งปัญหาฟันที่ควรรีบรักษา เพราะการที่มีฟันผุนั้นมันสามารถลุกลามได้ ถ้าปล่อยไว้ไม่ยอมรักษาให้ทันเวลา ก็อาจเกิดปัญหาถึงโพรงประสาทฟัน จนไม่สามารถอุดฟันซี่นั้นได้ ทำให้ต้องถอนฟันทิ้ง หรือต้องเลือกเป็นการรากฟันที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อที่จะเก็บรักษาฟันไว้ในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องตรวจฟันให้ครบทุกซี่ ซี่ไหนผุก็รีบจัดการอุดให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในการติดเครื่องมือจัดฟัน

 

ผ่าฟันคุดก่อนจัดฟัน

ฟันคุดที่ฝังอยู่ในเหงือกนั้น ก็เปรียบได้กับระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าวันใดฟันซี่นี้จะผุดแทรกขึ้นมาจากเหงือก หากฟันเหล่านี้งอกขึ้นมาขณะจัดฟัน ฟันซี่นี้ก็จะเบียดฟันซี่อื่นๆ ที่เรียงตัวสวยแล้วจนผิดรูปได้ ดังนั้นก่อนการจัดฟันจึงมีการเอ็กซเรย์เพื่อดูปัญหาฟันคุดร่วมด้วย และเมื่อตรวจเจอฟันคุดแล้ว ทันตแพทย์จะตัดสินใจให้ผ่าออกให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะทำการจัดฟันนั่นเอง

 

การเคลียร์ช่องปาก ไม่ใช่การจัดการฟันทั้งปากได้ภายในวันเดียว แต่อาจจะเป็นการทยอยรักษาไปในแต่ละจุด จนครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อเราเตรียมช่องปากของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการติดเครื่องมือได้เลย โดยแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการจัดฟันที่ปรึกษาทันตแพทย์ไว้ตั้งแต่ต้นว่าตนเองเหมาะกับการจัดฟันในรูปแบบไหนนั่นเอง

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)