การดูแลรักษาสียางจัดฟันเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการจัดฟัน ที่ช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังรักษาสุขอนามัยในช่องปากได้ดี:
- การเปลี่ยนยางจัดฟันทุกเดือน: ยางจัดฟันจำเป็นต้องเปลี่ยนทุกเดือนเพื่อรักษาความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการจัดฟัน ยางจัดฟันที่สวมใส่ตลอดเวลาสามารถเสื่อมสภาพได้เนื่องจากการรับแรงดึงจากฟัน การเปลี่ยนยางจัดฟันจึงช่วยให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพและรักษาความสะอาดของช่องปาก.
- การเลือกสียาง: การเลือกสียางจัดฟันที่เหมาะสมกับสีผิวและสีฟันของคุณสามารถช่วยให้ฟันดูขาวและเพิ่มความมั่นใจในการยิ้มได้.
- การดูแลรักษาในช่วงจัดฟัน: ควรใช้แปรงสีฟันที่ออกแบบมาสำหรับคนจัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟันและเครื่องมือจัดฟัน นอกจากนี้ ควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง และใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ.
- หลังการจัดฟัน: หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน มักจะต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟันกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม ซึ่งทำให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพยาวนาน.
การดูแลรักษาสียางจัดฟันและเครื่องมือจัดฟันอย่างถูกวิธีมีส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดกระบวนการจัดฟัน.
ยางจัดฟัน มีอันตรายหรือไม่ ต้องเลือกวัสดุอย่างไร
ยางจัดฟันเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการจัดฟัน และมีความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน หากใช้ตามคำแนะนำของทันตแพทย์และดูแลรักษาอย่างถูกต้อง มีหลายประเภทของยางจัดฟัน ซึ่งแต่ละแบบมีหน้าที่และวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
- ยางจัดฟันเชน (Elastic Power-Chains): มีลักษณะเป็นแพต่อยาวที่ช่วยเคลื่อนฟันให้มาชิดเข้าหากันและร่นระยะช่องห่างของฟัน.
- ยางดึงฟัน (Elastic Rubber Bands): เป็นยางห่วงกลมขนาดเล็กที่ใช้ยึดระหว่างฟันบนกับฟันล่าง หรือยึดกันในแนวราบ เพื่อช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ.
- ยางไนล่อน เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อแรงดึง และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ยางยาง เป็นวัสดุที่ทนทานต่อแรงดึงสูง แต่ไม่ยืดหยุ่นเท่ายางไนล่อน
- ยางยางผสมไนล่อน เป็นวัสดุที่ผสมผสานคุณสมบัติของยางไนล่อนและยางยางเข้าด้วยกัน โดยมีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อแรงดึงสูง
ยางจัดฟันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้หากเป็นยางจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐานหรือคุณภาพต่ำ โดยอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ดังนี้
- อาการแพ้ ยางจัดฟันบางชนิดอาจทำจากวัสดุที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น สารปรอท สารตะกั่ว สารหนู เป็นต้น หากมีอาการแพ้ยางจัดฟัน เช่น คันปาก บวม แดง ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนยางจัดฟัน
- การติดเชื้อ ยางจัดฟันอาจเป็นแหล่งสะสมของคราบอาหารและแบคทีเรีย หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากได้
- ฟันผุ ยางจัดฟันอาจทำให้เศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ติดค้างอยู่บริเวณซี่ฟันที่ยึดยางจัดฟัน หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดฟันผุได้
การเลือกวัสดุยางจัดฟันจึงมีความสำคัญ โดยควรเลือกยางจัดฟันที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองจากอย. นอกจากนี้ ควรดูแลรักษาความสะอาดยางจัดฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากยางจัดฟัน
สำหรับการดูแลรักษายางจัดฟัน มีแนวทางที่สำคัญคือ:
- แปรงฟันสะอาดสม่ำเสมอ
- ใช้สายจมูกและแปรงฟันกลางวัน
- ตรวจสอบยางจัดฟันอย่างสม่ำเสมอ.
ยางจัดฟันจำเป็นต้องเปลี่ยนทุกเดือน ส่วนยางดึงฟันต้องเปลี่ยนทุก 12 – 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความยืดหยุ่นและป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย.
การเลือกวัสดุของยางจัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการรักษาและความต้องการของผู้รับการจัดฟัน นอกจากนี้ ยางจัดฟันยังถือเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นสำหรับบางคน โดยมีหลากหลายสีให้เลือกใช้
สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)
#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม