ในทุกช่วงต้นปี หลายคนก็มักจะตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสุขภาพกาย พัฒนาการงาน หรือกระทั่งจัดระเบียบชีวิตส่วนตัวให้ดีขึ้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนมักมองข้ามไปอยู่เสมอ นั่นก็คือ “สุขภาพช่องปาก” ของเราเอง ทั้งที่ความจริงแล้ว สุขภาพช่องปากนั้นสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นๆ เลย ในปี 2025 ที่เทคโนโลยีทางการแพทย์และทันตกรรมพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จึงถึงเวลาที่เราทุกคนควรหันมาใส่ใจสุขภาพช่องปากให้มากขึ้น พร้อมด้วยการอัปเดตตัวเองให้ทันเทคโนโลยีเพื่อความสะอาดและความแข็งแรงของฟันในระยะยาว
1. นัดหมายตรวจสุขภาพฟันประจำปีกับทันตแพทย์
การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุกปี (หรือทุก 6 เดือนยิ่งดี) คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพช่องปาก ทันตแพทย์จะช่วยตรวจเช็คสุขภาพฟันและเหงือกของคุณอย่างละเอียด ค้นหาปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ การตรวจพบและรักษาตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยป้องกันปัญหาลุกลามและประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว
คำแนะนำ: อย่ารอให้มีอาการปวดฟันหรือมีปัญหาแล้วค่อยไปพบทันตแพทย์ การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำคือการป้องกันที่ดีที่สุด! โทรนัดหมายกับทันตแพทย์ของคุณล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่หลายคนอาจต้องการเข้ารับบริการ
2. ขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันอย่างล้ำลึก
การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งคราบพลัคและหินปูนที่สะสมอยู่ตามซอกฟันก็ยากที่จะกำจัดออกเอง การขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์จะช่วยกำจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ เหงือกอักเสบ และกลิ่นปาก
คำแนะนำ: ควรขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือน หรือตามคำแนะนำของทันตแพทย์ อย่าลืมถามทันตแพทย์เกี่ยวกับการทำความสะอาดฟันแบบพิเศษ เช่น การขัดฟันด้วยผงขัดฟัน (Airflow) ซึ่งจะช่วยขจัดคราบบนผิวฟันได้ดียิ่งขึ้น
3. ฟลูออไรด์วาร์นิช: เกราะป้องกันฟันผุ
ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันและป้องกันฟันผุ การทาฟลูออไรด์วาร์นิชโดยทันตแพทย์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดฟันผุ
คำแนะนำ: สอบถามทันตแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการทาฟลูออไรด์วาร์นิช โดยเฉพาะหากคุณมีประวัติฟันผุบ่อย
4. ประเมินความจำเป็นในการอุดฟันหรือรักษาโรคเหงือก
หากตรวจพบว่ามีฟันผุหรือโรคเหงือก ควรรีบรับการรักษาโดยเร็วที่สุด การอุดฟันจะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุลุกลามไปยังโพรงประสาทฟัน ส่วนการรักษาโรคเหงือกจะช่วยป้องกันการสูญเสียฟันในอนาคต
คำแนะนำ: อย่าลังเลที่จะปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับวิธีการรักษาที่เหมาะสม ยิ่งรักษาเร็ว ผลลัพธ์ก็ยิ่งดี
5. พิจารณาการฟอกสีฟันเพื่อรอยยิ้มที่สดใส
การฟอกสีฟันเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการทำให้ฟันขาวขึ้น ช่วยขจัดคราบสีที่ฝังแน่นบนผิวฟัน สร้างรอยยิ้มที่สดใสและเพิ่มความมั่นใจ
คำแนะนำ: ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับประเภทของการฟอกสีฟันที่เหมาะสมกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสีฟันที่คลินิก (In-office bleaching) หรือการฟอกสีฟันที่บ้าน (Home bleaching)
6. จัดฟัน: แก้ไขการเรียงตัวของฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
การจัดฟันไม่เพียงแต่ช่วยให้ฟันเรียงตัวสวยงาม แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาการสบฟัน ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารและการออกเสียง นอกจากนี้ยังช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคเหงือก
คำแนะนำ: หากคุณมีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันไม่สบกัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการจัดฟันเพื่อประเมินและวางแผนการรักษา
7. รากฟันเทียม: ทดแทนฟันที่สูญเสียไปอย่างถาวร
หากคุณสูญเสียฟันไป รากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการทดแทนฟันที่หายไป รากฟันเทียมทำจากวัสดุไทเทเนียมซึ่งเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ฝังลงในกระดูกขากรรไกรเพื่อทำหน้าที่เป็นรากฟัน จากนั้นจึงครอบฟันเทียมลงไป ทำให้ได้ฟันที่แข็งแรง สวยงาม และใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ
คำแนะนำ: ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษา
8. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
อาหารและเครื่องดื่มที่คุณรับประทานมีผลต่อสุขภาพช่องปากโดยตรง ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน และลูกอม เพราะเป็นอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งจะผลิตกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน นำไปสู่ฟันผุ
คำแนะนำ: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อฟัน เช่น ผัก ผลไม้ นม และชีส ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ
9. เลิกสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคเหงือก มะเร็งช่องปาก และทำให้ฟันเหลือง นอกจากนี้ยังทำให้แผลในช่องปากหายช้า ลดประสิทธิภาพของการรักษาทางทันตกรรม
คำแนะนำ: หากคุณสูบบุหรี่ ควรพยายามเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวมที่ดี
10. ดูแลอุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน
อย่าลืมดูแลอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันของคุณด้วย! เปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3-4 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเริ่มบาน ล้างแปรงสีฟันให้สะอาดหลังใช้งาน และเก็บไว้ในที่แห้ง สำหรับไหมขัดฟัน ควรใช้เส้นใหม่ทุกครั้ง
คำแนะนำ: เลือกแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม และอย่าลืมทำความสะอาดที่วางแปรงสีฟันเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
11. การดูแลฟันปลอม (สำหรับผู้ใส่ฟันปลอม)
หากคุณใส่ฟันปลอม ควรทำความสะอาดฟันปลอมทุกวัน ถอดฟันปลอมออกก่อนนอน และแช่ในน้ำสะอาดหรือน้ำยาแช่ฟันปลอม นอกจากนี้ควรไปพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจเช็คสภาพฟันปลอมและเนื้อเยื่อในช่องปาก
คำแนะนำ: สอบถามทันตแพทย์เกี่ยวกับวิธีการดูแลฟันปลอมที่ถูกต้อง
12. การดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับเด็ก
การปลูกฝังนิสัยการดูแลฟันที่ดีให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งสำคัญ ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกเมื่อฟันซี่แรกขึ้น หรือภายในอายุ 1 ขวบ สอนให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี และเลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
คำแนะนำ: ทำความสะอาดฟันให้เด็กจนกว่าเด็กจะสามารถแปรงฟันเองได้ และควรดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าเด็กจะอายุประมาณ 7-8 ขวบ
13. สังเกตอาการผิดปกติในช่องปาก
หมั่นสังเกตความผิดปกติในช่องปากของคุณ เช่น มีเลือดออกขณะแปรงฟัน เหงือกบวมแดง มีกลิ่นปาก เสียวฟัน หรือมีแผลในช่องปาก หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบทันตแพทย์
คำแนะนำ: อย่าละเลยอาการผิดปกติ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพช่องปากที่ร้ายแรง
14. อย่าลืม! ลิ้นก็ต้องการการดูแล
หลายคนมักละเลยการทำความสะอาดลิ้น แต่รู้หรือไม่ว่าลิ้นเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก ควรแปรงลิ้นเบา ๆ ทุกครั้งหลังแปรงฟัน หรือใช้ที่ขูดลิ้น
คำแนะนำ: เลือกที่ขูดลิ้นที่ทำจากวัสดุที่อ่อนโยนต่อลิ้น
15. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
น้ำเปล่าช่วยชะล้างเศษอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก ลดการเกิดคราบพลัคและหินปูน ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
คำแนะนำ: จิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร
เช็คลิสทันตกรรม 2025 ที่ต้องทำรับปีใหม่ นี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการดูแลสุขภาพช่องปาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลฟันอย่างสม่ำเสมอ พบทันตแพทย์เป็นประจำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเริ่มต้นปีใหม่ด้วยรอยยิ้มที่สดใสและสุขภาพฟันที่ดีตลอดปี!
สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)
#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม