รากเทียมเจ็บหรือไม่

รากเทียมเจ็บหรือไม่

การทำรากเทียม ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด เนื่องจากแพทย์จะมีการให้ยาชาเฉพาะที่หรือยาระงับความรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการทำ โดยแพทย์จะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่อย่างน้อยสองตำแหน่ง ดังนั้นคนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บแต่ภายหลังการทำอาจมีอาการปวดบวมได้บ้าง ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง

หลังการทำทันตกรรมรากเทียมแพทย์จะมีการนัดมาตัดไหมและติดตามผลการรักษาภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งแพทย์จะประเมินลักษณะของแผล,ความเจ็บปวดและปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น โดยคนไข้ต้องดูแลตนเองตามที่แพทย์สั่งหลังการทำทันตกรรมรากเทียมอย่างเคร่งครัด

ส่วนใหญ่จะเข้าใจกันว่าการทำรากฟันเทียมหรือการฝังรากเทียมนั้น คือการผ่าตัดโดยทำการเปิดเหงือก ซึ่งมันฟังดูน่ากลัวใช่ไหมล่ะ? แต่ด้วยกระบวนการรักษารากเทียมนั้น กระบวนการที่ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บที่สุดคือการถอนฟัน มากกว่าการใส่รากเทียม เนื่องจากมีอาการเจ็บปวดจากกระดูกรากฟันที่ถูกถอนออกไป แต่การใส่รากเทียมคือการนำวัสดุที่ใช้ทดแทนรากจริงเพื่อแทนที่เท่านั้น เพราะฉะนั้นอาการเจ็บปวดจากการทำรากเทียมและบาดแผลนั้นแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย และด้วยเทคโนโลยีด้านทันตกรรมมีความก้าวหน้าขึ้นก็มีส่วนช่วยในกระบวนการรักษาที่จะไม่ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บและน่ากลัว และในปัจจุบันการทำรากเทียมก็มีตัวเลือกมากมายเพื่อให้เหมาะสมกับคนไข้อีกด้วยนะ

เพราะที่จริงแล้วการทำรากเทียมนั้นไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่คิดเลย พิจารณาว่าควรทำรากเทียมดีหรือไม่นั้น วันนี้ BPDC Dental มาช่วยหาคำตอบเพื่อต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพเหงือกและฟันที่ดีพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา หรือหากใครที่มีข้อสงสัยหรือต้องการได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถเข้ารับบริการได้ที่ BPDC Dental

การกลับมามีชีวิตที่ดี โดยที่ไม่ยาก ไม่เจ็บเหมือนเมื่อก่อน สบายใจได้มากกว่าที่คุณคิด เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นด้วยฟันชุดใหม่ กลับมาบดเคี้ยวอาหารได้อย่างดี ช่วยระบบย่อยจากภายใจ กินอาหารได้อย่างมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน ทวงคืนรอยยิ้มที่มั่นใจของคุณกลับมา

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam

ขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียม

ขั้นตอนการปลูกรากฟันเทียม

การปลูกรากฟันเทียมจำเป็นจะต้องมีขั้นตอนและวิธีการที่ซับซ้อนกว่าทันตกรรมประเภทอื่นๆ เพราะว่าต้องมีการประเมิณการรักษา การฝังรากเทียมลงกระดูก การปรับสภาพเหงือก ฯลฯ ที่มีอีกหลายขั้นตอนกว่าจะรักษาได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีและด้วยประสบการณ์ของทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญงานฝังรากฟันเทียม (IMPLANT) จะช่วยให้ขั้นตอนนั้นง่ายขึ้น ซึ่งวันนี้เรามีกรรมวิธีคร่าวสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกรากฟันเทียมกันครับ

  1. ตรวจประเมิน วางแผนการรักษา
    ตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาก่อนเริ่มการรักษาทันตแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยและทำการถ่ายเอ๊กซเรย์เพื่อการวิเคราะห์ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  2. ฝังรากเทียม ลงในกระดูก

การปลูกกระดูกรองรับฟัน (กรณีที่จำเป็น)
สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีคุณภาพหรือความหนาของกระดูกรองรับฟันที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการปลูกกระดูกรองรับฟัน (bone grafts) ให้ก่อน หรืออาจสามารถทำพร้อมกับการฝังรากฟันเทียม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์เฉพาะทาง

  1. ปรับสภาพเหงือกให้พร้อมสำหรับทำครอบฟัน

ขั้นตอนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมไททาเนียม
สำหรับขั้นตอนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น โดยทั่วไปจะสามารถทำเสร็จได้ในวันเดียวด้วยการใช้เพียงยาชาในการผ่าตัดและผู้ป่วยสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการที่จะเลือกใช้ยาสลบและพักผ่อนที่โรงพยาบาลหลังการผ่าตัดก็เป็นทางเลือกที่ สามารถทำได้เช่นกัน และถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องโดยทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ แล้วนั้นอัตราการเสี่ยงจะต่ำมาก

  1. ระยะรอพักฟื้น
    ในการที่จะให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งาน การพักรอให้กระดูกรองรับฟันสร้างตัวเพื่อปกคลุมและยึดรากฟันเทียมจะใช้เวลาโดยทั่วไปนานประมาณ 6-8 สัปดาห์ในระหว่างนี้การดูแลสุขภาพในช่องปากเป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อความสำเร็จในการรักษาเป็นอย่างมาก และยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาอันไม่พึงประสงค์ต่างๆเช่น การติดเชื้ออักเสบและปวดบวมได้
  2. ทันตกรรมประดิษฐ์
    หลังจากที่รากฟันเทียมมีความมั่นคงบนกระดูกรองรับฟันแล้ว ทันตแพทย์จะติดเสา(dental implant posts) เพื่อใช้เชื่อมระหว่างรากเทียมและทันตกรรมประดิษฐ์เช่น ครอบฟัน สะพานฟันหรือแผงฟันปลอม แล้วจึงทำการเตรียมและใส่ทันตกรรมประดิษฐ์นั้นๆ ในบางกรณีทันตแพทย์อาจสามารถทำการขั้นตอนนี้พร้อมกับการปลูกรากฟันเทียม ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและดุลยพินิจของทันตแพทย์
  3. การดูแลและเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ
    สุขภาพในช่องปากที่ดีและการเข้ารับการตรวจและทำความสะอาดกับทันตแพทย์ทั่วไปอย่างเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือตามระยะเวลาที่เหมาะสมจะสามารถช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้กับรากฟันเทียม

ที่คลินิกทันตกรรม BPDC ของเรามีทีมทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ด้านการรักษารากฟันเทียม วัสดุรากฟันเทียมมาตรฐานยุโรป รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมี Software CAD / CAM Dentistry ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำรากฟันเทียมให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อทำรากฟันเทียม

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

BPDC #คลินิกทันตกรรม #รากฟันเทียม #รักษารากฟันเทียม #CadCam

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม คืออะไร ?

รากฟันเทียม หรือรากเทียม คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน ทำมาทดแทนรากฟันจริง โดยจะทำมาจากไททาเนียม ที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะ ใช้สำหรับฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ ที่สามารถรองรับ การทำฟันปลอม, การครอบฟัน และ การทำสะพานฟันได้ ปัจจุบัน รากฟันเทียม ถือเป็นฟันปลอมที่ดีที่สุด คล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุดเลยทีเดียว

 

ก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียมนั้นมีขั้นตอนการรักษาที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญของทันตแพทย์เป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผลลัพธ์ของการฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นก่อนการตัดสินจำทำรากฟันเทียม จึงต้องมั่นใจว่าทันตแพทย์ที่เราตัดสินใจให้มารักษาเรานั้นมีความเชี่ยวชาญจริงๆ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาทำให้ผู้ป่วยตัดสินใจเลือกทำรากฟันเทียมได้ง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery เทคโนโลยีที่ทำให้ทันตแพทย์ระบุตำแหน่งฝังรากเทียมได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดขนาดแผล ลดเวลาในการผ่าตัด และลดความเจ็บปวดหลังผ่าตัดได้อีกด้วย

 

Computer Guided Implant Surgery คืออะไร?

Computer Guided Implant Surgery เป็นการวางแผนการฝังรากเทียมด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ร่วมกับเทคโนโลยีทางภาพถ่ายรังสีแบบ 3 มิติ (Cone-Beam CT) เพื่อช่วยในการวางแผนรักษาและกำหนดตำแหน่งฝังรากฟันเทียมที่เหมาะสมที่สุด ภาพถ่ายรังสีแบบ 3 มิตินี้ ยังช่วยให้ทันตแพทย์สามารถเลือกขนาดรากเทียมได้สอดคล้องกับตำแหน่งฟันที่จะใส่ทดแทน

 

ขั้นตอนการทำรากเทียมด้วย Computer Guided Implant Surgery

  1. เริ่มต้นพิมพ์ปาก หรือใช้เครื่องสแกนถ่ายภาพในช่องปาก และถ่ายภาพรังสีแบบ 3 มิติ (Cone-Beam CT)
  2. นำภาพข้างต้นมาวางแผนการรักษา โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ ที่แสดงผลจากภาพมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณและลักษณะของกระดูก รวมไปถึงอวัยวะสำคัญต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องปาก โดยทันตแพทย์จะประเมินและกำหนด จำนวน ความยาว และขนาดของรากเทียมที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน
  3. ทันตแพทย์จะออกแบบอุปกรณ์ สำหรับกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม
  4. ฝังรากฟันเทียม ตามแผนที่วางไว้ โดยใช้อุปกรณ์กำหนดรากฟันเทียม ที่จะช่วยให้ฝังรากเทียมลงบนตำแหน่งที่แม่นยำมากที่สุด
  5. หลังจากฝังรากฟันเทียม อาจต้องทิ้งช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละรายว่าตอบสนองกับรากเทียมเร็วแค่ไหน หากการฝังรากเทียมมีผลลัพธ์ที่ดี ทันตแพทย์จะเริ่มทำการครอบฟันหรือทำฟันปลอมบนรากฟันเทียมต่อไป

 

ทำไมต้องเลือกเทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery
  1. ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากทันตแพทย์
  2. ลดความผิดพลาดของตำแหน่งรากเทียม
  3. ฝังรากฟันเทียมได้ในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่กระทบอวัยวะส่วนอื่นๆ
  4. ทันตแพทย์ประเมินการรักษาได้แม่นยำมากขึ้นเพราะเห็นรายละเอียดของกระดูกและรูปร่างของฟันแบบ 3 มิติ
  5. ลดขนาดแผลผ่าตัด ลดความเจ็บปวด และลดเวลาในการพักฟื้น

 

การใช้เทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery นั้นจะช่วยให้การทำรากฟันเทียมมีประสิทธิภาพสูงสุดและเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับรักษาที่น่าพึ่งพอใจนั่งเอง

 

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)