ขูดหินปูนเอง ทำได้หรือไม่

ขูดหินปูนเอง ทำได้หรือไม่

การขูดหินปูนเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยขจัดคราบหินปูนและคราบแบคทีเรียที่เกาะบนฟันและเหงือก ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ เช่น เหงือกอักเสบ ฟันผุ และโรคเหงือก ในปัจจุบันมีผู้สนใจที่จะขูดหินปูนด้วยตัวเองมากขึ้น เนื่องจากต้องการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่การขูดหินปูนเองที่บ้านเป็นสิ่งที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่? บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการขูดหินปูนเอง ข้อดี ข้อเสีย และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี

ขูดหินปูนคืออะไร?

การขูดหินปูน (Dental Scaling) คือการขจัดคราบหินปูนและคราบจุลินทรีย์ที่เกาะอยู่บนผิวฟันและร่องเหงือก โดยใช้เครื่องมือทันตกรรมที่มีความคมและปลายแหลม หรือที่เรียกว่าเครื่องขูดหินปูน (Scaler) การขูดหินปูนเป็นการทำความสะอาดฟันอย่างล้ำลึกที่ไม่สามารถทำได้ด้วยการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันทั่วไป

คราบหินปูนเกิดจากการสะสมของคราบพลัค (Plaque) ที่มีส่วนประกอบของแบคทีเรียและเศษอาหาร เมื่อคราบพลัคนี้ไม่ได้รับการทำความสะอาดจะกลายเป็นคราบหินปูนที่แข็งและเกาะแน่นกับฟัน การปล่อยให้มีคราบหินปูนสะสมมากเกินไปอาจทำให้เหงือกอักเสบและเป็นสาเหตุของโรคเหงือกได้

การขูดหินปูนเองที่บ้าน: ทำได้หรือไม่?

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อการขูดหินปูนเองที่บ้านมากมาย เช่น เครื่องขูดหินปูนไฟฟ้า เจลขจัดหินปูน และอุปกรณ์ขูดหินปูนแบบมือ แต่การใช้เครื่องมือเหล่านี้เองมีความเสี่ยงหลายประการ เนื่องจากขาดความรู้และทักษะในการใช้งานที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังในการขูดหินปูนเองที่บ้าน:

  1. การบาดเจ็บของเหงือกและฟัน: การใช้เครื่องมือขูดหินปูนโดยไม่มีความชำนาญอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อเหงือก ทำให้เหงือกบวม อักเสบ หรือเลือดออกได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ฟันบิ่นหรือมีรอยขูดขีดบนผิวฟัน ซึ่งจะทำให้ฟันไวต่อความร้อนหรือเย็นมากขึ้น
  2. การสะสมของแบคทีเรีย: การใช้เครื่องมือที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก นอกจากนี้การขูดหินปูนโดยไม่สามารถขจัดคราบหินปูนได้อย่างทั่วถึงยังส่งผลให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก เช่น ร่องเหงือก
  3. การรักษาที่ไม่ถูกวิธี: การขูดหินปูนเองที่บ้านไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับการทำโดยทันตแพทย์ เนื่องจากขาดเครื่องมือที่มีความแม่นยำและความรู้ในการประเมินสภาพฟันและเหงือกอย่างถูกต้อง

ข้อดีและข้อเสียของการขูดหินปูนเองที่บ้าน

ข้อดี:

  1. ความสะดวก: ไม่ต้องเดินทางไปพบทันตแพทย์ สามารถทำได้เองที่บ้านตามเวลาที่สะดวก
  2. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการพบทันตแพทย์และค่าบริการขูดหินปูน

ข้อเสีย:

  1. ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ: การใช้อุปกรณ์โดยไม่ถูกวิธีอาจทำให้เหงือกและฟันเสียหาย
  2. ประสิทธิภาพต่ำ: ไม่สามารถขจัดคราบหินปูนได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก เช่น ร่องเหงือกและฟันหลัง
  3. เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: หากอุปกรณ์ไม่สะอาดหรือไม่ได้ฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก

การขูดหินปูนโดยทันตแพทย์

การขูดหินปูนโดยทันตแพทย์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากทันตแพทย์มีความรู้และทักษะในการใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง และสามารถประเมินสภาพฟันและเหงือกของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ โดยขั้นตอนการขูดหินปูนที่ทำโดยทันตแพทย์มีดังนี้:

  1. การตรวจสุขภาพช่องปาก: ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบสภาพฟัน เหงือก และการสะสมของคราบหินปูน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  2. การขูดหินปูน: ทันตแพทย์จะใช้อุปกรณ์ขูดหินปูนไฟฟ้าหรือมือขูดหินปูนในการขจัดคราบหินปูนที่เกาะอยู่บนฟันและร่องเหงือก โดยอุปกรณ์ขูดหินปูนไฟฟ้าจะใช้คลื่นความถี่สูงในการสั่นสะเทือนเพื่อขจัดคราบหินปูนออกอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การขัดฟันและเคลือบฟลูออไรด์: หลังจากขูดหินปูน ทันตแพทย์จะทำการขัดฟันเพื่อขจัดคราบแบคทีเรียที่เหลืออยู่ และเคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุในอนาคต

การดูแลสุขภาพช่องปากหลังการขูดหินปูน

หลังจากการขูดหินปูน ผู้ป่วยอาจมีอาการเสียวฟันหรือเหงือกบวมเล็กน้อย ซึ่งสามารถดูแลรักษาได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้:

  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็งหรือร้อนจัด: ในช่วง 1-2 วันแรกหลังการขูดหินปูน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความแข็งหรือร้อนจัด เพื่อป้องกันการระคายเคืองของเหงือกและฟัน
  2. แปรงฟันอย่างอ่อนโยน: ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่มและยาสีฟันสำหรับฟันที่มีอาการเสียวฟัน เพื่อทำความสะอาดฟันอย่างอ่อนโยนและป้องกันการเกิดคราบหินปูนใหม่
  3. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ: การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือสามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการบวมของเหงือกได้
  4. เข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ: ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อรักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829 Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental https://bpdcdental.com/ ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ขูดหินปูน คืออะไร ทำไมต้องทำ

ขูดหินปูน คืออะไร ทำไมต้องทำ

การขูดหินปูนฟัน (scaling) เป็นกระบวนการที่ทันตแพทย์ใช้เพื่อล้างหินปูนและสารสะสมอื่นๆ ที่อยู่บนผิวฟันและระหว่างเหงือก การขูดหินปูนฟันจะช่วยให้ฟันสะอาดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันและเหงือก.

ขั้นตอนการขูดหินปูนฟันปกติมักจะเป็นดังนี้:

  1. การตรวจสอบ: ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบฟันและเหงือกเพื่อประเมินสภาพและแบบฟันที่มีการสะสมหินปูนมากที่สุด.
  2. การใช้เครื่องขูดหินปูน: ทันตแพทย์จะใช้เครื่องขูดหินปูน (ultrasonic scaler) เพื่อล้างหินปูนและสารสะสมอื่นๆ จากผิวฟันและระหว่างเหงือก. เครื่องขูดหินปูนใช้คลื่นเสียงสูงความถี่เพื่อสร้างความสั่นสะเทือนที่ช่วยในการขูดหินปูนอย่างมีประสิทธิภาพ.
  3. การล้างในรูคลองเหงือก: หลังจากการขูดหินปูนฟัน ทันตแพทย์อาจใช้สายจมูกเล็กๆ หรือเครื่องล้างด้วยน้ำเพื่อล้างสารสะสมที่อยู่ในรูคลองเหงือก.
  4. การสอนการดูแลฟัน: ทันตแพทย์อาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลฟันที่ถูกต้อง เช่น การแปรงฟันอย่างถูกวิธี, การใช้สายสี, และการล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก.

ข้อดีของการขูดหินปูนฟันได้แก่:

  1. ล้างหินปูนและสารสะสมที่อยู่บนผิวฟัน: การขูดหินปูนฟันช่วยล้างหินปูนและสารสะสมอื่นๆ ที่สะสมบนผิวฟัน ซึ่งอาจทำให้ฟันสะอาดและสุขภาพดีขึ้น.
  2. ป้องกันการเกิดโรคฟันและเหงือก: การขูดหินปูนฟันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันและเหงือก เนื่องจากหินปูนและสารสะสมอาจเป็นตัวเตรียมสภาพในการเกิดเชื้อแบคทีเรียและการอักเสบเหงือก.
  3. ช่วยให้การตรวจสอบฟันที่ถูกต้อง: การขูดหินปูนฟันยังช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจสอบฟันและเหงือกได้อย่างละเอียด และตรวจสอบปัญหาทันตกรรมอื่น ๆ ที่อาจพบเจอ.

ข้อเสียของการขูดหินปูนฟันได้แก่:

  1. ความไม่สะดวกและความเจ็บปวด: บางครั้งการขูดหินปูนฟันอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกและความเจ็บปวดบนผิวฟันหรือเหงือก.
  2. ค่าใช้จ่าย: การขูดหินปูนฟันอาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับบริการทางทันตกรรม ซึ่งอาจไม่เข้าคุ้นเคยกับงบประมาณของบางคน.
  3. ความเสี่ยงในการสะเก็ดเกือก: ในบางกรณี การขูดหินปูนฟันอาจทำให้เกิดการสะเก็ดเกือก ซึ่งอาจก่อให้เกิดบาดแผลหรือการเลือดออกในระหว่างกระบวนการ.

อย่างไรก็ตาม การขูดหินปูนฟันเป็นกระบวนการที่ฉีดฟันและเหงือกที่สำคัญ และถือเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลฟันที่ถูกต้อง ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและดูแลฟันอย่างถูกต้องสำหรับคุณ.

ดังนั้น การขูดหินปูนควรทำโดยคนที่มีความสามารถและประสบการณ์ในด้านนี้ เช่น ทันตแพทย์ หรือ ทันตกรรมภูมิศาสตร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากการทำลายเหงือก.

ขูดหินปูน กินอะไรได้บ้าง

อาหารหรือเครื่องดื่มที่สามารถช่วยลดการสะสมของหินปูน หรือแคลเซียมและแมกนีเซียม ในร่างกาย เช่น ในกระบอกปัสสาวะ หรือไต สิ่งเหล่านี้มีตัวอย่างดังนี้:

  1. น้ำดื่มปริมาณมาก: การดื่มน้ำอย่างเพียงพอสามารถช่วยล้างแร่ที่สะสมในระบบปัสสาวะของคุณ.
  2. อาหารที่มีความเป็นกรด: สารกรดเช่น ซิตริก แอสิดที่พบในมะนาวและส้ม สามารถช่วยละลายหินปูน.
  3. ไม่ดื่มน้ำที่มีแร่มากเกินไป: น้ำแร่บางชนิดมีเกลือแร่มากเกินไปและสามารถทำให้หินปูนเกิดขึ้น.
  4. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม: แม้แต่แคลเซียมจะเป็นส่วนหนึ่งของหินปูน แต่การรับประทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยลดการสะสมของแร่ในร่างกาย.

เมื่อคุณกำลังพิจารณาแผนการรับประทานเพื่อลดการสะสมของหินปูน ควรคุยกับแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมและปลอดภัย.

ขูดหินปูน ด้วยตนเอง อันตรายหรือไม่

การขูดหินปูนด้วยตนเองไม่แนะนำเนื่องจากเหตุผลหลายๆ ประการ:

  1. อุปกรณ์ไม่เหมาะสม: อุปกรณ์ที่ขายในร้านค้าปกติไม่เทียบเท่ากับอุปกรณ์ที่ทันตแพทย์ใช้ ดังนั้น คุณอาจไม่สามารถลบหินปูนที่สะสมอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  2. การทำลายเนื้อเยื่อในปาก: หากคุณไม่มีความสามารถและประสบการณ์เหมือนทันตแพทย์ คุณอาจจะทำลายเนื้อเยื่อในปาก ทำให้เกิดการอักเสบ แผล หรือการเลือดออก.
  3. การปฏิบัติต่อเชื้อแบคทีเรีย: หากคุณไม่มีวิธีการที่ถูกต้องในการทำความสะอาดอุปกรณ์ คุณอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียในปากของคุณ.
  4. การไม่สามารถตรวจสอบปัญหาทันตกรรมอื่นๆ: ทันตแพทย์ไม่ได้ทำการขูดหินปูนเพียงอย่างเดียวในการตรวจสอบประจำปี แต่ยังจะตรวจเช็คสภาพฟันและเหงือกเพื่อจำแนกประเภทของปัญหาทันตกรรมอื่น ๆ ที่คุณอาจพบเจออีกด้วย

ดังนั้น การทำการขูดหินปูนควรมอบให้กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ทำไมเราต้องไปขูดหินปูนทุก 6 เดือน

ทำไมเราต้องไปขูดหินปูนทุก 6 เดือน

หินปูนคืออะไรแล้วทำไมเราต้องไปขูดหินปูนทุก 6 เดือน วันนี้ทีมงานได้รวบรวมข้อมูลสาระดีๆ เนื่องจากมีเพื่อนๆหลายคนที่สงสัยว่า หลังทำการขูดหินปูนแล้วฟันห่างจริงหรือเปล่า? ขูดหินปูนบ่อยๆมีโอกาสฟันจะสึกแค่ไหน?

หินปูนมักจะเกิดบริเวณซอกฟัน ช่องว่างของฟัน โดยเฉพาะบริเวณที่เราทำความสะอาดไม่ทั่วถึงมักจะเกิดคราบพลัค แบคทีเรีย เกาะตามคอฟัน เนื่องจากในช่องปากที่มีน้ำลาย เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่มักจะตกตะกอนกับแคลเซียม จนบ่มกลายเป็นหินปูน ที่อยู่ตามซอกฟันและบริเวณที่เราแปรงฟันไม่ทั่วถึงนั่นเอง สรุปง่าย ๆ ก็คือ หินปูนเกิดจากการตกตะกอนของแคลเซียมที่อยู่ในน้ำลายนั่นเอง

ขูดหินปูนทุก 6 เดือนมันจะดีอย่างไร

เมื่อเกิดหินปูนขึ้นแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป ถ้ามีคราบหินปูนไม่เยอะมากนัก คุณหมอมักจะแนะนำให้ใช้วิธีการขูดหินปูน ที่เป็นการขูดบริเวณเหนือเหงือกในช่องปากของคนไข้ จากนั้นก็จะเหลือคราบนิดๆหน่อยๆ ถ้าเราดูแลความสะอาดได้ดีหรือหมั่นขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เนิ่น ๆ ทุก ๆ 3 เดือน หรือ 6 เดือน โดยคนไข้ควรหมั่นมาพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนอย่างต่อเนื่อง เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น การดูแลรักษาความสะอาดบ้าน หากเราดูแลรักษาความสะอาดไม่ทั่วถึงก็จะยิ่งสร้างความสกปรกมากเท่านั้น เช่นเดียวกับฟันของเรานั่นเอง ถ้าหากหมั่นมาตรวจเช็คสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์อยู่สม่ำเสมอ ปัญหาหินปูนก็จะน้อยลงตามไปนั่นเอง

รู้หรือไม่ว่า หากไม่มีขี้ฟัน หรือคราบอาหารติดตามซอกฟัน โอกาสที่แคลเซียมในน้ำลายที่ทำให้เกิดหินปูนที่มักจะตามไปเกาะอยู่บริเวณคอฟันจะมีน้อยลงอีกด้วย ดังนั้น วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การแปรงฟัน เป็นขั้นตอนการรักษาความสะอาดบริเวณซอกฟันที่ดีที่สุดนั่นเอง จึงมีคนไข้จำนวนไม่น้อยที่ดูแลรักษาความสะอาดช่องปากได้ดี ส่งผลให้ระยะเวลาในการขูดหินปูนก็อาจจะยืดไปถึง 1 ปีอีกด้วย

หากรู้วิธีป้องกัน เชื่อว่าหินปูนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และถ้าเราไม่มีหินปูนโรคที่ตามมาก็จะไม่มี

หินปูนทำให้เกิดโรคได้นะรู้ยัง? โรครำมะนาดหรือโรคเหงือก เกิดจากหินปูนที่เยอะขึ้นและกัดเซาะฟันลึกขึ้น เกาะตามบริเวณคอฟันกระดูกที่เคยโอบรากฟัน ทำให้เนื้อกระดูกก็จะน้อยลงไปตามหินปูนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ฟันที่มีก็จะเริ่มโยกและเริ่มคลอน เหงือกก็จะเริ่มอักเสบหรือเป็นหนอง รวมทั้งมีกลิ่นปาก แรกๆคนไข้หลายคนคิดว่าเป็นอาการเล็กๆน้อยๆ แต่หากปล่อยปละละเลย อาการก็จะเป็นมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นลำดับถัดมาหลังจากที่เราขูดหินปูนแล้ว หากไม่ดูแลรักษาช่องปากให้ดี จากโรคเหงือกอักเสบเล็กๆน้อยๆก็จะกลายเป็นโรคเหงือกหรือที่เรียกว่า โรครำมะนาด ที่เกิดจากหินปูนที่กัดเซาะฟันนั่นเอง

โรครำมะนาดที่เกิดจากหินปูนนั้น จะมีอาการอักเสบรวมทั้งเหงือกร่นตามมา ส่งผลให้ฟันโยกเอียงไปมา เนื่องจากหินปูนกัดเซาะกระดูกให้ละลาย จนบางเคสเห็นรากฟัน บางเคสมีอาการเสียวฟัน หรือขณะแปรงฟันมีเลือดออก และรูปทรงฟันที่เปลี่ยนไป เช่น แลดูยาวขึ้น เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นสัญญาณของโรครำมะนาด  หลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอด ถึงอาการข้างต้นคือ ผลของฟันเสื่อมสภาพตามวัย แต่รู้หรือไม่ว่า ฟันสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตถ้าทุกคนรักษาความสะอาดจริงจัง แต่หากดูแลไม่ดี ก็สามารถกลายมาเป็นโรครำมะนาดได้นั่นเอง

หากหินปูนกัดเซาะกระดูกฟันเยอะแล้ว จำเป็นต้องอาศัยการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญหรือทันตแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด หรือ บางเคสต้องมาปลูกกระดูกฟันเพิ่ม ดังนั้น การป้องกันไม่ให้คราบหินปูนเกิดขึ้นจนฝั่งแน่น จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ

เนื่องจาก โรครำมะนาดไม่ใช่ว่าเป็นแล้วจะสามารถหายได้เอง เนื่องจากกระดูกฟันของเรานั้นโดนกัดเซาะจนทำให้เหงือกร่นโอกาสที่ฟันหลวมและหลุดง่ายขึ้น กระดูกเนื้อฟันบางและบางเลย เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยปละละเลยจากการขูดหินปูนที่เกาะตามบริเวณคอฟัน โอกาสเสี่ยงของการเกิดโรครำมะนาดยิ่งมากขึ้นเช่นกัน

บางรายเป็นเยอะก็อาจจะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม เช่น มีการถอนฟันและใส่รากเทียมแทนนี่ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าเสียดายที่เกิดจากการที่เราไม่ได้ขูดหินปูนอย่างต่อเนื่อง ทุก 3 หรือ 6 เดือน

หากเป็นแบบนี้จะรักษาอย่างไร

วิธีรักษาโรครำมะนาดที่เกิดจากหินปูนเมื่อเราไม่ได้ขูดหินปูนจนปล่อยให้หินปูนลึกขึ้น กระดูกก็จะเริ่มมีการละลาย คุณหมอจะเริ่มรักษาด้วยการทำการ deep clean หรือขูดลึกขึ้นด้วยเครื่องมือพิเศษในการขูด แม้ฟันจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ฟันจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนเดิมเนื่องจากกระดูกที่มีความร่นไปแล้วก็จะไม่กลับขึ้นมาได้นั่นเอง

หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงสงสัยไม่น้อยว่า หากเราขูดหินปูนบ่อยๆ ฟันจะมีโอกาสห่างจริงหรือไม่

เนื่องจากคนไข้หลายท่านเมื่อทำการขูดหินปูน ปรากฏว่า เห็นซอกฟันเพิ่มขึ้น นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกว่าขูดเสร็จแล้วฟันเรามีช่องจึงเป็นที่มาของถามของหลายๆคนที่มักสงสัยว่าขูดหินปูนแล้วทำฟันห่างลงหรือบางลงนั่นเองแต่จริงๆแล้วฟันไม่ได้ห่างแต่เนื่องจากจำนวนหินปูนที่เกาะบริเวณฟันหลังจากคุณหมอขูดออก เห็นได้ชัดถึงพื้นที่ว่างที่หินปูนเคยเกาะอยู่นั่นเอง และกอปรกับจำนวนหินปูนที่ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้เหงือกร่นจนทำให้เกิดช่องว่างของฟันมากยิ่งขึ้นตามมานั่นเอง

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายขูดหินปูน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#หินปูน #ขูดหินปูน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการขูดหินปูน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการขูดหินปูน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการขูดหินปูน ทำบ่อยแค่ไหนถึงจะดี

รู้หรือไม่ว่าแค่แปรงฟันอย่างเดียว ไม่ช่วยให้ช่องปากของเรามีสุขภาพที่ดี นั่นเป็นเพราะนอกจากการแปรงฟันแล้ว เรายังต้อง “ขูดหินปูน” ด้วยค่ะ คราบหินปูนเป็นคราบที่ใช้แค่เพียงขนแปรงสีฟันไม่สามารถที่จะขัดออกได้ โดยเฉพาะหากใครที่ปล่อยคราบหินปูนนั้นเกาะแน่นเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนจึงต้องไปขูดหินปูน แต่ทำไมบางคนก็ขูดบ่อย บางคนก็แทบจะไม่ขูดเลย จริง ๆ แล้ว เราควรขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน เราจะมาหาคำตอบ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

จุลินทรีย์ในช่องปากเกิดขึ้นได้อย่างไร

อาหารชั้นดีของจุลินทรีย์คือน้ำตาล ที่จะสร้างกรดและสารพิษ ซึ่งกรดตัวนี้จะเป็นตัวทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันผุและเหงือกอักเสบ หากใครที่มีคราบหินปูนที่หนา ลองเอาลิ้นสัมผัสไปตามฟันจะรู้สึกได้เลยว่ามีคราบหินปูนเกาะอยู่ ถ้าเราแปรงฟันไม่สะอาด ก็จะเกิดการสะสมของหินปูนหนาและแข็งมากขึ้นจนไม่สามารถเอาออกได้ด้วยแค่การแปรงฟัน จะต้องใช้เครื่องมือของทันตแพทย์ เพื่อขูดหินปูนที่อยู่ทั้งเหนือและใต้เหงือก

ผลข้างเคียงจากคราบหินปูน

เมื่อคราบหินปูนปล่อยกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน จะทำให้เหงือกอักเสบ ละเมื่อปล่อยออกมานาน ๆ กระดูกที่รองรับรากฟันจะค่อย ๆ ละลาย ทำให้ฟันโยกไม่แข็งแรง โดยปัญหาที่เกิดจากคราบหินปูน ได้แก่ เลือดออกขณะแปรงฟัน มีกลิ่นปาก เหงือกร่น โรคปริทันต์  ฟันผุ ฯลฯ

ขูดหินปูน ควรทำบ่อยแค่ไหน?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันมากว่า ขูดหินปูน ควรทำบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ในความเป็นจริงแล้ว การขูดหินปูนอาจไม่จำเป็นต้องขูดกันบ่อย ๆ สามารถขูดปีละครั้ง หรือ 6 เดือนครั้งก็ได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูนภายในช่องปากด้วยค่ะ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง หรือจะไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและเหงือกเป็นประจำ จะทำให้เราทราบว่าเราจำเป็นต้องขูดหินปูนไหม

การขูดหินปูนสามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนการจะขูดบ่อยแค่ไหนนั้น  ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถดูแลรักษาฟันได้ดีแค่ไหน และหากสามารถทำความสะอาดได้ดี ไม่มีโรคเหงือกอักเสบและไม่มีร่องลึกปริทันต์ การ
ขูดหินปูนอาจจะไม่จำเป็นเลยก็ได้ค่ะ

โดยปกติแล้ว ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้มาตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน ปีละ 1 ครั้ง สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากเบื้องต้นที่ทุกคนก็ทำได้ คือ การแปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และไม่ลืมที่จะใช้ไหมขัดฟันแซะเศษอาหารตามซอกฟันก่อนแปรงฟันในช่วงเวลาเย็นเป็นประจำ รวมถึงการแปรงลิ้น จะทำให้ไม่มีเศษอาหารตกค้าง ซึ่งจะเอื้อต่อการเกิดแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดหินปูน และเหงือกอักเสบตามมา

ขูดหินปูนบ่อย ๆ ทำให้ฟันสึกจริงหรือ?

หลายคนไม่กล้าไปขูดหินปูนเพราะกลัวว่าขูดไปแล้วฟันสึกบ้าง ฟันบางบ้าง หรือบางคนที่กังวลว่าขูดหินปูนบ่อย ๆ โอกาสจะทำให้ฟันเป็นแบบนั้นมันจริงหรือเปล่า ต้องบอกเลยค่ะว่า การขูดหินปูน เป็นการใช้ความถี่ในการสั่นของเครื่องมือ เพื่อเป็นการกะเทาะให้หินปูนแตก และร่อนเป็นแผ่น ๆ ออกมา ไม่ใช่เป็นการไปขูด หรือไปทำการกรอฟัน ดังนั้น การขูดหินปูน จะไม่ทำให้เนื้อฟันสึกกร่อน หรือฟันบางได้เลยค่ะ แต่อาจจะมีความรู้สึกว่าขูดหินปูนแล้วฟันสะอาดขึ้น รู้สึกโล่งมากขึ้น และเมื่อเอาลิ้นสัมผัสตามร่องฟันแต่ละซี่ได้ จะรู้สึกว่าเหมือนฟันกำลังสึกกร่อน ฟันบางลงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยที่ว่า ขูดหินปูนบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าดูแลรักษาฟันอย่างไร มีพฤติกรรมอะไรที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดคราบหินปูนหนาหรือไม่ หากไม่มี อัตราความถี่ในการขูดหินปูนก็จะน้อยลงตามไปด้วย โดยทั่วไปแล้วก็มักจะทำหลังจากการไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพช่องปากประจำปี

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายขูดหินปูน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#หินปูน #ขูดหินปูน

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เคลียร์ช่องปากคืออะไร สำคัญกับการจัดฟันจริงหรือไม่

เราต้องเคยได้ยินกันมาบ้างล่ะค่ะ ว่าก่อนจัดฟันจะต้อง “เคลียร์ช่องปาก” แล้วเคลียร์ช่องปาก คืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง แล้วคนที่จะจัดฟัน การเคลียร์ช่องปากจำเป็นมากไหม อยากจัดฟัน แต่ไม่เคลียร์ช่องปากได้หรือเปล่า เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามมากมายเหล่านี้อยู่ในใจ แต่ไม่รู้ว่าจะไปถามใครดี วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลียร์ช่องปากมาฝากกันค่ะ

เคลียร์ช่องปาก คืออะไร ?

เคลียร์ช่องปาก คือ การเตรียมเหงือกและฟันของเราให้พร้อมสำหรับการจัดฟัน เป็นการกำจัดปัญหาที่อาจส่งผลต่อแผนการจัดฟันของเราในอนาคต โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก เพื่อดูสภาพฟันและเหงือกว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เช่น เช็คฟันผุ ขูดหินปูน รวมถึงการ X-ray ฟัน และพิมพ์ฟัน เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้า

เคลียร์ช่องปาก ต้องทำอะไรบ้าง ?

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า การเคลียร์ช่องปากคือการเตรียมสภาพช่องปากของฟันและเหงือกก่อนเริ่มจัดฟัน นั่นแปลว่า ทันตแพทย์จะต้องเช็คสุขภาพช่องปากของเราทั้งปาก ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

  1. ตรวจสุขภาพช่องปากโดยละเอียด

ทันตแพทย์จะตรวจเช็คช่องปากโดยละเอียด เพื่อดูว่ามีฟันผุ ฟันคุด เหงือกอักเสบ หรือปัญหาด้าน

อื่น ๆ ภายในช่องปากหรือไม่ หากพบปัญหาก็จะต้องไปรักษาตามจุดที่เป็นปัญหานั้นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียในระยะยาว หากต้องจัดฟัน

  • อุดฟัน

จากข้อ 1 เมื่อเรามารับการเคลียร์ช่องปาก ตรวจสุขภาพช่องปากแล้วพบว่า มีฟันผุ ทันตแพทย์จะ

แนะนำให้อุดฟันที่ผุก่อน ไม่ว่าฟันนั้นจะผุมากหรือผุน้อย เพราะหากปล่อยฟันผุเอาไว้ ไม่รับการรักษาก่อนจัดฟัน ฟันผุนั้นอาจจะมาขัดขวางการจัดฟัน หรือสร้างปัญหาระหว่างการจัดฟันในระยะยาวได้ ยิ่งไปกว่านั้น การจัดฟันจะต้องติดเครื่องมือจัดฟัน การทำความสะอาดฟันจะยิ่งทำได้ยากมากขึ้น หากมีฟันที่ผุอยู่แล้ว แต่ไม่ได้รับการอุด ก็จะยิ่งส่งผลเสีย อย่างฟันผุมากขึ้น หรือรอยผุลุกลามเข้าที่รากฟัน จนอาจจะเสียฟันซี่นั้นไป และยังต้องเสียค่ารักษาสูงอีกด้วย

  • ขูดหินปูน

การเคลียร์ช่องปากอย่างต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การขูดหินปูน ซึ่งหินปูนคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้

เกิดปัญหาช่องปากตามมาอีกหลายโรค เมื่อเราจัดฟัน ก่อนเราติดเครื่องมือจัดฟัน เราจะต้องทำความสะอาดผิวฟันให้สะอาดเสียก่อน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย โดยพอเราติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว การทำความสะอาดฟันจะกลายเป็นเรื่องยากขึ้น หากเราทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ โอกาสจะเกิดคราบหินปูนก็ง่ายขึ้นด้วย ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ขูดหินปูนก่อนการจัดฟัน และควรขูดหินปูนเป็นระยะ ๆ อีกด้วย

  • การผ่าฟันคุด

ในกรณีที่เมื่อตรวจเช็คฟันแล้วพบฟันคุด ควรพิจารณาการถอนหรือผ่าจะดีกว่าค่ะ เพราะฟันคุดคือฟัน

ที่ขึ้นไม่ปกติตามธรรมชาติของฟันที่ควรจะขึ้น บางคนอาจจะพบกรณีที่ฟันพยายามแทงตัวเองขึ้นมา แต่ขึ้นมาไม่ได้ เนื่องจากขึ้นช้ากว่าซี่อื่น จึงไม่เหลือพื้นที่ให้ขึ้นมาได้ ส่งผลให้เหงือกบริเวณนั้นอักเสบ แต่บางคนก็ไม่พบอาการอะไร นอกจากมีฟันบางส่วนขึ้นมาแล้ว ดังนั้น ฟันคุดจึงเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ การเคลียร์ช่องปากด้วยการผ่าฟันคุดจึงเป็นทางออกที่ดี หากใครที่คิดจะจัดฟัน เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลา หากระหว่างจัดฟันไปแล้วพบว่าฟันคุดพยายามดันฟันซี่อื่น ๆ นั่นก็จะส่งผลต่อฟันซี่ข้าง ๆ

  • ถอนฟัน

สำหรับข้อนี้ ก็เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยในการเคลียร์ช่องปากว่า ทำไมบางคนถอนฟัน บางคนก็ไม่

ถอน ซึ่งการถอนฟันหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างและการเรียงตัวของฟันว่ามีปัญหาการเรียงตัวมากน้อยเพียงใด รวมถึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่าจะมีแผนการรักษาอย่างไร

ดังนั้น สรุปได้ว่าการเคลียร์ช่องปากสำคัญกับการจัดฟันจริงค่ะ ซึ่งเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเคลียร์ช่องปาก
รวดเดียวก็ได้ หากวางแผนที่จะจัดฟัน แนะนำให้ทยอยเคลียร์ช่องปาก เพื่อให้ทันตแพทย์ประเมินสภาพช่องปากก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน เคลียร์ช่องปาก
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#เคลียร์ช่องปาก #จัดฟัน

การขจัดคราบบนผิวฟันด้วยระบบ Airflow

การขจัดคราบบนผิวฟันด้วยระบบ Airflow

เคยลองคิดกันไหมคะว่า แค่การแปรงฟันอย่างเดียวจะทำให้ฟันของเราสะอาดไปได้ตลอดหรือไม่ เนื่องจากในแต่ละวันเรากินอาหารจำนวนมากมาย โดยเฉพาะอาหารจำพวกเครื่องดื่มชาและกาแฟ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันของเราเกิดคราบพลัค ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกตามมา สิ่งหนึ่งที่ทันตแพทย์แนะนำเมื่อมาตรวจสุขภาพฟัน นั่นคือ การขูดหินปูน เป็นวิธีการทำความสะอาดคราบพลัคที่สะสมจนก่อตัวเป็นคราบที่แข็งและหยาบที่เรียกว่าหินน้ำลายหรือที่เรารู้จักกันดีว่าหินปูนนั่นเอง แต่ปัจจุบันนี้ ได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยทำความสะอาดฟันได้ดียิ่งขึ้น เราจะไปทำความรู้จักการขูดหินปูนและการขจัดคราบบนผิวฟันด้วยระบบ Airflow กันค่ะ

การขูดหินปูนคืออะไร
         
การขูดหินปูน เป็นการรักษาที่ง่ายและรวดเร็ว โดยปัจจุบันนี้ เครื่องขูดหินปูน มักเป็นระบบแรงดันน้ำผสมกับแรงสั่นสะเทือนของหัวขูดหินปูน ที่ถูกผลิตและพัฒนาขึ้นมา ให้มีแรงที่สามารถกระเทาะได้เฉพาะหินปูนเท่านั้น ซึ่งมีผลดีคือไม่ทำให้ฟันกร่อนหรือบางลงได้ เครื่องขูดหินปูนนี้มักใช้ขูดหินปูนที่อยู่เหนือเหงือก ส่วนหินปูนที่อยู่ลึกลงไปใต้เหงือก จะใช้เครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าเข้าไปขูดหินปูนออกจากผิวรากฟันในส่วนที่ลึกลงไปใต้เหงือก และเมื่อขูดหินปูนเรียบร้อย ทันตแพทย์จะทำการขจัดคราบโดยการใช้ผงขัดฟันขัดซ้ำที่ผิวฟันทั้งปาก ในบางกรณีที่ผงขัดไม่สามารถขจัดคราบได้หมด เช่นคราบที่เหนียวมาก หรือมีสีเข้มจัด เช่น คราบชา กาแฟ ไวน์แดง บุหรี่ เป็นต้น คราบเหล่านี้ต้องใช้ระบบ Airflow ช่วยขจัดออก จะทำให้ผิวฟันสะอาดใส วาว เนียนเรียบได้เร็วยิ่งขึ้น

Airflow คืออะไร
         
Airflow เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แรงดันน้ำและผงเคมีสำหรับขัดในการทำความสะอาดคราบออกจากผิวฟัน โดยใช้หลักของการพ่นละอองที่มีส่วนผสมของอากาศ น้ำ และผงขัดทำความสะอาดชนิดพิเศษ (Phophylaxis Powder) ช่วยขจัดคราบฟันคราบฝังแน่นและคราบพื้นผิวออกจากหลุมร่องฟันและช่องว่างระหว่างฟัน ในจุดที่ที่ทำความสะอาดได้ยาก เพื่อการทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวฟันเรียบเนียนไม่ทำให้เกิดการสึกกร่อน

ประโยชน์ของ Airflow
         
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า ระบบ Airflow เข้ามาใช้รักษา ขูดหินปูนในจุดที่เครื่องขูดหินปูนธรรมดาทำไม่ได้ แต่ประโยชน์ของระบบนี้ยังมีนอกเหนือจากนี้ ได้แก่
            1. ช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
         
พลังของเครื่อง Airflow จะช่วยควบคุมแรงดันของน้ำและผงเคมีที่ใช้สำหรับขัด แต่ไม่เพียงแค่ขัดพื้นผิวฟันทั้งหมด แต่ยังช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่ตัวทำให้ฟันเปลี่ยนสีและสกปรกออกด้วย รวมถึงสามารถขูดลึกเข้าไปในร่องลึกปริทันต์ได้ลึกถึง 5 มม. มีประสิทธิภาพมากกว่าการขูดหินปูนแบบธรรมดา การปล่อยคราบทิ้งไว้เป็นอันตรายอาจทำให้เกิดโรคปริทันต์อักเสบและเนื้อเยื่อรอบรากเทียมอักเสบได้ ยิ่งไปกว่านั้นมีความปลอดภัยกับรากฟันเทียมวีเนียร์สำหรับครอบฟันและสะพานฟัน
            2. เพิ่มความสะดวกสบายให้คนไข้
         
ใครก็ตามที่เคยใช้เครื่องมือขูดที่ขูดเข้าไปในเหงือกหรือใช้แผ่นขัดลงบนเคลือบฟัน จะสนใจการใช้ระบบ  Airflow ซึ่งเป็นวิธีการทำความสะอาดที่ไม่เจ็บปวดและยังรวดเร็ว แม้กระทั่งร่องลึกปริทันต์และพื้นที่ใกล้เคียงก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทำให้เกิดความไม่สบายปากและเครื่องมือเทคนิคนี้จะไม่สร้างความร้อนหรือการสั่นสะเทือนใด ๆ ผงขัดปลอดสารพิษ มีรสชาติหลากหลายที่ดีกว่าผงขัดด้วยเครื่องขูดหินปูนธรรมดา
            3. ลดอาการเสียวฟัน
         
การขัดฟันแบบ Airflow เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟัน สิ่งนี้ไม่เพียงเกิดจากการขาดการสัมผัสโดยตรง ไม่มีความร้อนและการสั่นสะเทือน แต่เนื่องจากอนุภาคขนาดเล็กของผงขัดสามารถเติมเต็มท่อเนื้อฟันที่สัมผัสและลดความไวที่จะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ การขัดผิวด้วยระบบ Airflow สามารถกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคืนแร่ธาตุใหม่ของฟันที่เสียหายได้ กล่าวคือเป็นการทำให้ฟลูออไรด์กระจายเข้าสู่ผิวเคลือบฟัน
            4. ทำความสะอาดได้เร็วขึ้น
         
จากการศึกษาพบว่า Airflow สามารถขจัดคราบที่ฝังแน่นและคราบจุลินทรีย์ได้เร็วกว่าวิธีการทั่วไปถึงสามเท่า ซึ่งหมายความว่าคนไข้จะมีเวลาอยู่บนเก้าอี้น้อยลงและมีการหยุดชะงักที่น้อยลงด้วย รวมถึง ยังทำความสะอาดฟันที่ทำให้เกิดความเสียหายสึกกร่อนน้อยกว่า


            หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ขูดหินปูนมานานแล้ว หรืออาจจะเริ่มสังเกตเห็นคราบบนผิวฟัน ที่สีแตกต่างออกไปจากสีของฟัน นี่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่คุณควรจะไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันแล้วก็ได้ค่ะ และอย่าลืมศึกษาหรือจะทดลองการขจัดคราบบนผิวฟันด้วย Airflow กันนะคะ แล้วคุณจะลืมการขูดหินปูนแบบเก่า ๆ ไปเลย

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายทำ Air Flow

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829

Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

www.bpdcdental.com

#BPDC #ตรวจสุขภาพฟัน #ขูดหินปูน # AirFlow #เคลือบฟลูออไรด์

5-ข้อดีของการขูดหินปูน

5 ข้อดีของการขูดหินปูน

คราบหินปูน  คือคราบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียรวมตัวกับโปรตีนหรือเศษอาหารกลายเป็นแผ่นจุลินทรีย์เกาะตามขอบฟันที่ติดกับเหงือก เมื่อทับถมกันมากเข้าก็จะมีลักษณะเป็นคราบหินปูน และเกาะแน่นที่ฟันจนอาจทำให้เกิดโรคปริทันต์ หรือโรคเหงือกได้   ดังนั้นเราต้องทำการขูดหินปูน  แต่รู้ไหมว่าข้อดีของการขูดหินปูน มีอะไรบ้าง

5 ข้อดีของการขูดหินปูน

  1. สุขภาพช่องปากแข็งแรง

อย่างที่ทราบกันดีว่าคราบหินปูนเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ โรคเหงือก อาจเกิดเลือดไหลขณะแปรงฟัน เหงือกร่น หรือเหงือกบวม  การขูดหินปูนช่วยทำให้สุขภาพในช่องปากของเราแข็งแรงขึ้น

  1. เสริมสร้างความมั่นใจ

คราบหินปูนที่ก่อตัวขึ้นที่ฟันเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง การยิ้มแล้วฟันเหลืองทำให้เสียความมั่นใจ ดังนั้นถ้าเราขูดหินปูนช่วยให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจ

  1. ฟันแข็งแรงกินอะไรก็อร่อย

การมีคราบหินปูนหรือคราบพลัคสะสมอยู่ที่ฟันเป็นจำนวนมาก เวลารับประทานอาหารทำให้การรับรู้รสชาติของอาหารที่อาจลดน้อยลง นอกจากนี้แล้วการมีคราบหินปูนยังทำให้เหงือกบวมและฟันสึกกร่อนได้  การขูดหินปูนทำให้เราสามารถรับรู้รสชาติอาหารที่กินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ช่วยให้ฟันมีอายุการใช้งานได้ยาวขึ้น

การดูแลรักษาฟัน ไม่ให้มีคราบหินปูนมาเกาะ ช่วยให้รากฟันและเหงือกแข็งแรง ทำให้ฟันไม่สึกกร่อน และฟันผุ   เราจึงมีฟันที่อยู่กับเราไปได้จนแก่

  1. ส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดี

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่ยิ้มฟันขาวสะอาดจะมีความมั่นใจกว่าคนที่ยิ้มแล้วมีคราบหินปูนเกาะตามฟัน และส่งเสริมให้มีความมั่นใจในการพบปะผู้คนอีกด้วย นอกจานี้ มีการสำรวจพบว่าผู้ที่มีหินปูนเกาะติดฟันเป็นจำนวนมากมักมีกลิ่นปาก หากอ้าปากพูดอาจทำให้เสียบุคลิกภาพได้

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#covid19 #คลินิกทันตกรรม #BPDC