บริการทันตกรรมเด็กมีอะไรบ้าง

บริการทันตกรรมเด็กมีอะไรบ้าง? คู่มือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลสุขภาพฟันของลูกน้อย

การดูแลฟันของเด็กตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าบริการทันตกรรมสำหรับเด็กนั้นมีอะไรบ้าง และควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เมื่อไหร่ การรู้จักกับบริการทันตกรรมเด็กสามารถช่วยให้คุณเตรียมตัวและมั่นใจว่าลูกของคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดเพื่อฟันที่แข็งแรงและสวยงาม

บริการทันตกรรมเด็กมีอะไรบ้าง?

ทันตกรรมสำหรับเด็กมีบริการหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อดูแลฟันและเหงือกของเด็กตั้งแต่ทารกจนถึงวัยรุ่น บริการเหล่านี้มีเป้าหมายหลักในการป้องกันปัญหาฟันผุ รวมถึงส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมการดูแลฟันที่ดีในระยะยาว

1. การตรวจฟันประจำ

การตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาทางทันตกรรม การตรวจฟันในเด็กช่วยให้ทันตแพทย์สามารถตรวจสอบการเจริญเติบโตของฟัน และตรวจพบปัญหาฟันผุหรือโรคเหงือกได้ในระยะเริ่มต้น หากพบปัญหาทันตแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

2. การเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์เป็นการป้องกันฟันผุที่มีประสิทธิภาพ ฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นเคลือบฟัน ทำให้ฟันของเด็กต้านทานการผุได้ดียิ่งขึ้น บริการนี้มักจะดำเนินการในระหว่างการตรวจฟันประจำเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับฟันของเด็ก

3. การเคลือบร่องฟัน

ฟันกรามของเด็กมักมีร่องลึกที่เสี่ยงต่อการสะสมคราบพลัคและเศษอาหาร การเคลือบร่องฟันเป็นการใช้สารเคลือบพิเศษปิดร่องลึกเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ เป็นบริการที่เหมาะสำหรับฟันกรามหลังที่เพิ่งขึ้นมาใหม่

4. การอุดฟัน

หากฟันของเด็กเริ่มผุ การอุดฟันเป็นวิธีการรักษาที่ช่วยหยุดการลุกลามของฟันผุ การอุดฟันจะช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของฟันและป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ส่วนอื่นของฟันที่ยังคงแข็งแรง ทันตแพทย์จะใช้วัสดุอุดฟันที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น คอมโพสิตเรซิน ซึ่งมีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ

5. การรักษารากฟันน้ำนม

แม้ว่าฟันน้ำนมจะหลุดไปตามธรรมชาติ แต่หากฟันน้ำนมมีการติดเชื้อหรือผุอย่างรุนแรง การรักษารากฟันอาจจำเป็น การรักษารากฟันในเด็กช่วยรักษาฟันน้ำนมให้อยู่ในตำแหน่งจนกว่าฟันแท้จะขึ้นมา การรักษานี้ช่วยให้เด็กยังสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างปกติ และป้องกันปัญหาการเรียงตัวของฟันในอนาคต

6. การถอนฟัน

ในบางกรณี ฟันน้ำนมที่ผุอย่างหนักหรือมีการติดเชื้ออาจต้องถอนออก เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังฟันแท้ที่กำลังขึ้น การถอนฟันในเด็กควรดำเนินการโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการติดเชื้อหลังการรักษา

7. การใส่เครื่องมือจัดฟัน

ในบางกรณี เด็กอาจมีปัญหาการเรียงตัวของฟัน เช่น ฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันห่าง การใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทันตแพทย์จะประเมินความจำเป็นในการใส่เครื่องมือจัดฟันเมื่อเด็กเริ่มมีฟันแท้ขึ้น การจัดฟันในวัยเด็กช่วยปรับโครงสร้างฟันและกรามให้เข้าที่ ทำให้การเจริญเติบโตของฟันในอนาคตเป็นไปอย่างสมบูรณ์

8. การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลฟัน

การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลฟันเป็นสิ่งสำคัญที่ทันตแพทย์มักจะทำหลังจากการตรวจฟัน โดยทันตแพทย์จะสอนเด็กและคุณพ่อคุณแม่ถึงวิธีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพฟัน เช่น การลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารที่มีกรดสูง

เมื่อใดที่ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์?

คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มพาลูกไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน หรือเมื่อฟันซี่แรกของลูกขึ้น เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจสอบการเจริญเติบโตของฟันและให้คำแนะนำในการดูแลฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก การเริ่มต้นการดูแลฟันตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ลูกน้อยมีฟันที่แข็งแรงและลดโอกาสเกิดปัญหาฟันผุในอนาคต

นอกจากนี้ หากพบว่าลูกมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาไปพบทันตแพทย์ทันที:

  • ฟันผุหรือมีรูฟันที่เห็นได้ชัด
  • มีอาการปวดฟันหรือเหงือกบวม
  • ฟันน้ำนมหลุดก่อนเวลา
  • ฟันซ้อนหรือฟันเกอย่างชัดเจน
  • ฟันกรามขึ้นแล้วแต่ไม่ได้ทำความสะอาดได้ทั่วถึง

วิธีการเตรียมตัวพาลูกไปพบทันตแพทย์

การพาลูกไปพบทันตแพทย์อาจเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก การเตรียมตัวให้ลูกพร้อมจะช่วยลดความกลัวและทำให้การพบหมอฟันเป็นเรื่องสนุก นี่คือเคล็ดลับที่ช่วยให้การไปพบทันตแพทย์เป็นไปอย่างราบรื่น:

  • สอนลูกเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลฟันตั้งแต่เล็กๆ
  • เล่าเรื่องเกี่ยวกับการไปหาหมอฟันในทางที่สนุกสนาน
  • อ่านหนังสือหรือดูวิดีโอเกี่ยวกับการตรวจฟันให้ลูกฟัง
  • หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่ทำให้เด็กกลัว เช่น “ไม่ต้องกลัว” หรือ “ไม่เจ็บ”

การสร้างประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปหาหมอฟันจะช่วยให้เด็กไม่กลัวการพบทันตแพทย์ในครั้งถัดไป

สรุป

บริการทันตกรรมเด็กครอบคลุมหลายด้านที่มุ่งเน้นการป้องกันและรักษาปัญหาฟันในวัยเด็ก ตั้งแต่การตรวจฟันประจำ การเคลือบฟลูออไรด์ การอุดฟัน ไปจนถึงการรักษารากฟัน การดูแลฟันตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เด็กมีฟันที่แข็งแรงและป้องกันปัญหาทางทันตกรรมในอนาคต การพาลูกไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอและสอนให้ลูกมีพฤติกรรมการดูแลฟันที่ดีจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดชีวิต

ทำไมต้องเคลือบฟลูออไรด์

ทำไมต้องเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride varnish) บนฟันเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดอัตราการเกิดฟันผุ ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ทำให้การเคลือบฟลูออไรด์เป็นทางเลือกที่นิยมในการดูแลสุขภาพช่องปาก

  1. เสริมสร้างเคลือบฟัน: ฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันโดยกระบวนการรีมิเนอรัลไลเซชั่น (remineralization) ซึ่งเป็นการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเคลือบฟันและทำให้ฟันมีความต้านทานต่อการผุมากขึ้น
  2. ป้องกันการผุของฟัน: ฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการหยุดหรือชะลอการเกิดฟันผุ โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยในกระบวนการผุฟันและยังช่วยลดความสามารถของแบคทีเรียในการผลิตกรดที่ทำลายเคลือบฟัน
  3. ป้องกันการสะสมของคราบพลัค: ฟลูออไรด์สามารถช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและลดการเกิดโรคเหงือก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเกิดฟันผุและโรคเหงือก
  4. การใช้งานที่ง่ายและปลอดภัย: การเคลือบฟลูออไรด์เป็นกระบวนการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถทำได้ง่ายในคลินิกทันตกรรม นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยทุกวัย รวมถึงเด็กๆ
  5. ต้นทุนต่ำ: เมื่อเทียบกับการรักษาฟันผุ การเคลือบฟลูออไรด์มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว
  6. ประสิทธิภาพสูง: หลายๆ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเคลือบฟลูออไรด์มีประสิทธิภาพสูงในการลดการเกิดฟันผุ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

การเคลือบฟลูออไรด์จึงเป็นวิธีการที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการผุและส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดีครับ

ข้อดีของการเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์มีข้อดีหลายประการที่สำคัญต่อสุขภาพฟันและช่องปาก ได้แก่:

  1. ป้องกันฟันผุ: ฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันการเกิดฟันผุ โดยการเคลือบฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันและป้องกันการสูญเสียแร่ธาตุ
  2. รีมิเนอรัลไลเซชั่น: ฟลูออไรด์ช่วยกระบวนการรีมิเนอรัลไลเซชั่น ซึ่งคือการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเคลือบฟัน ทำให้ฟันมีความต้านทานต่อการผุมากขึ้น
  3. ลดความเสี่ยงของโรคช่องปาก: การเคลือบฟลูออไรด์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและการสูญเสียฟันอื่นๆ โดยการลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย
  4. ใช้งานง่ายและรวดเร็ว: การเคลือบฟลูออไรด์เป็นกระบวนการที่รวดเร็วและง่ายดาย ทำได้ภายในเวลาไม่นานในคลินิกทันตกรรม
  5. ปลอดภัยสำหรับทุกวัย: การเคลือบฟลูออไรด์เหมาะสำหรับผู้ป่วยทุกวัย รวมถึงเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดฟันผุ
  6. ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับการรักษาฟันผุ การเคลือบฟลูออไรด์มีต้นทุนที่ต่ำกว่าและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อป้องกันฟันผุในระยะยาว
  7. เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม: ฟันที่แข็งแรงและสุขภาพดีช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ทั่วไปของช่องปาก

การเคลือบฟลูออไรด์จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการดูแลรักษาสุขภาพฟัน โดยเฉพาะสำหรับเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดฟันผุครับ

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ทำไมต้องเคลือบฟลูออไรด์

ทำไมต้องเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride varnish) บนฟันเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดอัตราการเกิดฟันผุ ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ทำให้การเคลือบฟลูออไรด์เป็นทางเลือกที่นิยมในการดูแลสุขภาพช่องปาก:

  1. เสริมสร้างเคลือบฟัน: ฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันโดยกระบวนการรีมิเนอรัลไลเซชั่น (remineralization) ซึ่งเป็นการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเคลือบฟันและทำให้ฟันมีความต้านทานต่อการผุมากขึ้น
  2. ป้องกันการผุของฟัน: ฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการหยุดหรือชะลอการเกิดฟันผุ โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยในกระบวนการผุฟันและยังช่วยลดความสามารถของแบคทีเรียในการผลิตกรดที่ทำลายเคลือบฟัน
  3. ป้องกันการสะสมของคราบพลัค: ฟลูออไรด์สามารถช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและลดการเกิดโรคเหงือก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเกิดฟันผุและโรคเหงือก
  4. การใช้งานที่ง่ายและปลอดภัย: การเคลือบฟลูออไรด์เป็นกระบวนการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถทำได้ง่ายในคลินิกทันตกรรม นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยทุกวัย รวมถึงเด็กๆ
  5. ต้นทุนต่ำ: เมื่อเทียบกับการรักษาฟันผุ การเคลือบฟลูออไรด์มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว
  6. ประสิทธิภาพสูง: หลายๆ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเคลือบฟลูออไรด์มีประสิทธิภาพสูงในการลดการเกิดฟันผุ โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

การเคลือบฟลูออไรด์สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ การบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ และการเคลือบฟลูออไรด์โดยทันตแพทย์

การเคลือบฟลูออไรด์เป็นวิธีการป้องกันฟันผุที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ง่าย และปลอดภัย เด็กและผู้ใหญ่ทุกคนควรได้รับการเคลือบฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ

นอกจากการเคลือบฟลูออไรด์แล้ว การดูแลสุขภาพฟันที่ดียังสามารถทำได้โดยแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน

ข้อดีของการเคลือบฟลูออไรด์

การเคลือบฟลูออไรด์มีข้อดีหลายประการที่สำคัญต่อสุขภาพฟันและช่องปาก ได้แก่:

  1. ป้องกันฟันผุ: ฟลูออไรด์มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันการเกิดฟันผุ โดยการเคลือบฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันและป้องกันการสูญเสียแร่ธาตุ
  2. รีมิเนอรัลไลเซชั่น: ฟลูออไรด์ช่วยกระบวนการรีมิเนอรัลไลเซชั่น ซึ่งคือการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเคลือบฟัน ทำให้ฟันมีความต้านทานต่อการผุมากขึ้น
  3. ลดความเสี่ยงของโรคช่องปาก: การเคลือบฟลูออไรด์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหงือกและการสูญเสียฟันอื่นๆ โดยการลดการสะสมของคราบแบคทีเรีย
  4. ใช้งานง่ายและรวดเร็ว: การเคลือบฟลูออไรด์เป็นกระบวนการที่รวดเร็วและง่ายดาย ทำได้ภายในเวลาไม่นานในคลินิกทันตกรรม
  5. ปลอดภัยสำหรับทุกวัย: การเคลือบฟลูออไรด์เหมาะสำหรับผู้ป่วยทุกวัย รวมถึงเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดฟันผุ
  6. ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับการรักษาฟันผุ การเคลือบฟลูออไรด์มีต้นทุนที่ต่ำกว่าและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อป้องกันฟันผุในระยะยาว
  7. เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม: ฟันที่แข็งแรงและสุขภาพดีช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ทั่วไปของช่องปาก

การเคลือบฟลูออไรด์จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการดูแลรักษาสุขภาพฟัน โดยเฉพาะสำหรับเด็กและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดฟันผุ

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

เราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือไม่

เราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือไม่

ข้อเท็จจริง เราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือไม่

เดี๋ยวนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน เราก็มักจะเจอกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็ดูจะเป็นเรื่องง่ายดีนะคะ ที่ฟันของเราจะได้รับการเคลือบฟลูออไรด์ แค่เพียงแปรงฟันเท่านั้นเอง หรือฟลูออไรด์ในรูปแบบเจลที่เรามักเห็นในคลินิกทำฟันนั่นล่ะ เราสามารถซื้อมาเพื่อเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือเปล่า?

เพราะฟลูออไรด์เป็นสิ่งสำคัญต่อฟันของเรา เป็นเสมือนเกราะป้องกันผิวฟันของเราไม่ให้ถูกทำลายโดยคราบแบคทีเรียจากการทานอาหารต่าง ๆ เข้าไป และเราอาจจะแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้เกิดแบคทีเรียตกค้าง สะสมอยู่บนผิวฟันจนเกิดเป็นฟันผุได้อย่างง่าย ๆ

ฟลูออไรด์มีกี่ประเภท

โดยทั่วไปตามคลินิกทันตกรรมจะพบฟลูออไรด์อยู่ทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่

  1. ฟลูออไรด์ชนิดรับประทาน : เราสามารถพบได้ในน้ำดื่ม หรือน้ำปะปา ในต่างประเทศมักจะมีการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่ม อีกทั้ง เรายังพบฟลูออไรด์ชนิดรับประทานได้ในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ฟลูออไรด์ชนิดเม็ด, ฟลูออไรด์ชนิดน้ำ
  2. ฟลูออไรด์ชนิดเฉพาะที่ : เราจะสามารถแบ่งแยกย่อยออกเป็น 2 ชนิด คือ
  3. ฟลูออไรด์เจล : นิยมใช้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรได้รับการเคลือบฟลูออไรด์ทุก ๆ 6 เดือน ยกเว้นในรายที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดฟันผุได้ง่าย ทันตแพทย์จะพิจารณาให้เคลือบถี่ขึ้น
  4. ฟลูออไรด์ที่ผสมในยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก : จะมีค่าฟลูออไรด์อยู่ที่ 1,000-1,500 PPM หรือส่วนในล้านส่วน โดยในยาสีฟันเด็กจะต้องมีค่าตัวนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 PPM

เราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือไม่

สำหรับคำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันมากเลยค่ะ ซึ่งคำตอบคือ ขึ้นอยู่กับประเภทของฟลูออไรด์ที่ใช้ หากเป็นฟลูออไรด์เจล จะต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้ทำให้ แต่หากเป็นฟลูออไรด์ในยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก รวมถึง ฟลูออไรด์อีกประเภทที่เราเรียกว่า ฟลูออไรด์วานิช (fluoride varnish) ซึ่งเหมาะกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี และผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุสูง โดยฟลูออไรด์ตัวนี้สามารถป้องกันฟันผุในฟันแท้ได้ 46% และในฟันน้ำนม 33% ซึ่งเราสามารถทำได้เองง่าย ๆ เลยค่ะ

จะทำอย่างไรให้ฟลูออไรด์อยู่ในปากได้นานๆ

ภายหลังจากการเคลือบฟลูออไรด์หรือแปรงฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ งดการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารหลังจากการเคลือบอย่างน้อย 30 นาที เนื่องจากหากเราดื่มหรือรับประทานอาหารทันที ฟลูออไรด์ก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแปรงแห้ง ดังนี้

  1. บ้วนน้ำสะอาดก่อนแปรง เพื่อเอาคราบอาหารชิ้นใหญ่ ๆ ออกไปก่อน
  2. บีบยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ โดยแปรงสีฟันไม่ต้องผ่านน้ำ และแปรงได้เลย
  3. ควรแปรงเป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที แปรงแบบขยับปัดทุกด้าน และอย่าลืมแปรงลิ้นด้วยนะคะ
  4. ถุยฟองออกมาให้มากที่สุด หรือบ้วนน้ำเพียง 1 ครั้งหลังการแปรงฟัน
  5. ไม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหลังจากแปรงฟันในทันที นั่นทำให้การแปรงฟันของเราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

หลังจากขูดหินปูน เราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ต่อได้หรือไม่

การเคลือบฟลูออไรด์หลังการขูดหินปูน จะช่วยป้องกันการเกิดอาการเสียวฟัน แต่ทั้งนี้การเคลือบฟลูออไรด์จะมีในส่วนของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นการจะเคลือบหรือการแปรงฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เห็นผลลัพธ์ที่เหมือนกัน

เราก็ได้รู้กันแล้วนะคะว่าจริง ๆ แล้วเราสามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้เองหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับประเภทของฟลูออไรด์และความเหมาะสมในการใช้เป็นสำคัญ ทั้งนี้เราสามารถป้องกันฟันผุได้อย่างง่าย ๆ ด้วยการแปรงฟันให้สะอาดสม่ำเสมอด้วยวิธีการแปรงแห้งนั่นเอง ฟลูออไรด์เป็นเพียงตัวช่วยให้มากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ดัดฟัน #เคลือบฟลูออไรด์ #เคลือบฟันเอง

เคลือบฟลูออไรด์จำเป็นไหม

หาคำตอบ การเคลือบฟลูออไรด์จำเป็นไหม?

หาคำตอบ การเคลือบฟลูออไรด์จำเป็นไหม?

เราอาจจะเคยได้ยิน ยาสีฟันต้องมีฟลูออไรด์ แล้วนอกจากฟลูออไรด์ในยาสีฟัน ฟลูออไรด์แบบอื่น ๆ จำเป็นต้องเคลือบไหม? มีใครสงสัยเหมือนกันบ้างหรือเปล่าคะ ว่าตัวช่วยป้องกันฟันผุของเรามีแค่การแปรงฟันอย่างเดียวจริงหรือ เราจะไปหาคำตอบด้วยกันค่ะ

ฟลูออไรด์คืออะไร

ฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการศึกษาวิจัยพบว่าสามารถป้องกันฟันผุได้ โดยเราสามารถพบได้ในน้ำดื่ม น้ำตามธรรมชาติทั่วไป กระบวนการทำงานของมัน คือ ฟลูออไรด์จะเข้าไปจับตามผิวฟันซึ่งมีแคลเซียมกับฟอสฟอรัส ผิวฟันจะมีความต้านทานต่อกรดได้มากขึ้น นั่นก็จะช่วยทำให้โครงสร้างของผิวฟันแข็งแรงขึ้นได้ ลองคิดง่าย ๆ ดูว่า ฟันผุเกิดจากแผ่นคราบจุลินทรีย์ อาจจะมาจากการที่เราแปรงฟันไม่สะอาด มีแบคทีเรียที่ใช้น้ำตาลจากการที่เราทานเข้าไป จากนั้นก็จะปล่อยกรดมาที่ผิวฟัน เมื่อเกิดการสะสมนาน ๆ เข้า ก็จะทำให้ผิวฟันเป็นรู รูก็จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้นการป้องกันฟันผุจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ เราต้องพยายามไม่ให้ฟันหรือภายในช่องปากของเรามีแบคทีเรียหรือแผ่นคราบจุลินทรีย์ ซึ่งการแปรงฟันให้สะอาดคือการป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี อีกอย่างคือ จะต้องไม่ให้อาหารแบคทีเรีย อย่างการทานอาหารหวานให้น้อยลง และอย่างสุดท้ายคือการทำให้ผิวฟันแข็งแรง นั่นแปลว่าเราจะต้องได้รับฟลูออไรด์

ฟลูออไรด์ส่วนเรื่องอะไรได้บ้าง

อย่างที่เรารู้กันดี ฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ จากการที่ฟลูออไรด์เข้าไปจับกับผิวฟันที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส อีกทั้งฟลูออไรด์ยังสามารถดึงทั้งสองแร่ธาตุนั้นเข้ามาในเนื้อฟันได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยบรรเทาหรือรักษาอาการฟันผุในระยะแรกเริ่มให้กลับมาเป็นปกติได้

ใครบ้างที่ควรเคลือบฟลูออไรด์

  • กลุ่มแรก เด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี หรือเด็กที่กำลังมีฟันน้ำนมซี่แรก ควรจะได้รับการเคลือบฟลูออไรด์โดยการใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ ซึ่งโดยมากทันตแพทย์จะแนะนำให้ผู้ปกครองแปรงฟันให้กับเด็ก ๆ ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น ควรใช้ยาสีฟันเพียงเล็กน้อย อาจจะแตะ ๆ นิดหน่อย สำหรับแปรงฟัน
  • กลุ่ม 2 เด็กอายุ 3 ปี สามารถที่จะแปรงฟันได้เองบ้าง เน้นการใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กที่ส่วนผสมของฟลูออไรด์ที่มีค่าอยู่ที่ 1,000 PPM
  • กลุ่ม 3 เด็กอายุ 6 ปี – 18 ปี จะใช้เป็นฟลูออไรด์อีกชนิดหนึ่ง เรียกว่าฟลูออไรด์เจล จะมีค่าฟลูออไรด์มากกว่า 10,000 PPM ซึ่งไม่สามารถทำได้เอง จะต้องทำโดยทันตแพทย์เท่านั้น ดังนั้นจึงควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อพิจารณว่าควรจำหรือไม่ โดยทั่วไปจะนิยมทำ 1-2 ครั้งต่อปี
  • กลุ่ม 4 ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อฟันผุ เช่น อาจจะเป็นผู้สูงอายุที่มีภาวะน้ำลายน้อย หรือได้รับยาบางชนิดทำให้น้ำลายน้อยซึ่งจะทำให้เกิดภาวะฟันผุได้ง่าย เนื่องจากน้ำลายเป็นตัวชะล้างให้ผิวฟันสะอาด, ผู้ที่ฉายรังสีบริเวณใบหน้าและขากรรไกร ซึ่งส่งผลให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายได้น้อย ทำให้ปากแห้ง ส่งผลให้ฟันผุง่ายขึ้น
  • กลุ่ม 5 ผู้ที่มีปัญหาด้านช่องปาก เช่น ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเหงือกร่น มีรากฟันโผล่ และเสี่ยงต่อรากฟันผุ

เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้หรือไม่

จริง ๆ ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้ค่ะ ซึ่งจะใช้เป็นฟลูออไรด์ที่เข้มข้นสูงทาลงบนผิวฟัน แนะนำให้ผู้ปกครองปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ทันตแพทย์พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องทำหรือไม่

สรุปแล้ว การเคลือบฟลูออไรด์จำเป็นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล หากเป็นในเด็กควรที่จะต้องเคลือบเพื่อป้องกัน ส่วนในวัยผู้ใหญ่ จะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่าแต่ละคนนั้นมีความจำเป็นหรือเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายจัดฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#เคลือบฟัน #เคลือบฟลูออไรด์

ทันตกรรมสำหรับเด็ก

ทันตกรรมสำหรับเด็ก

บริการให้คำปรึกษา ดูแลรักษาฟันน้ำนม ตรวจสุขภาพฟัน โดยทันตแพทย์เฉพาะทางด้านเด็กซึ่งถูกอบรมมาโดยเฉพาะในการรักษาเด็กเล็ก ถ้าลูกของคุณกลัวการทำฟัน จะเป็นการดีอย่างมากที่จะพามาพบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านเด็ก

ในการพาเด็กๆ ไปพบหมอฟัน ทันตแพทย์จะตรวจประเมินสุขภาพช่องปากและความเสี่ยงของการเกิดฟันผุตามระยะเวลาต่างๆ

ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
การดูดนิ้ว
การสบฟันที่ผิดปกติ

ในการตรวจสุขภาพฟันประจำปี ทันตแพทย์จะช่วยตรวจจุดที่อาจจะมีฟันผุ และขัดฟันทำความสะอาดให้ เมื่อปัญหาของฟันถูกพบในระยะเริ่มต้น การรักษาจะง่ายและไม่เจ็บปวด

การใส่เครื่องมือกันฟันล้มเพื่อคงช่องว่างไว้ให้ฟันแท้ขึ้นลดปัญหาฟันซ้อนเก
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านเด็กจะแนะนำให้ทำเครื่องมือกันฟันล้ม ในกรณีที่ลูกของคุณสูยเสียฟันน้ำนมไปก่อนเวลาที่เหมาะสม เครื่องมือนี้จะคงช่องว่างไว้เพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาในตำแหน่งดังกล่าว

การเคลือบหลุมร่องฟัน
คือ การเคลือบฟัน (Sealant) บริเวณด้านบดเคี้ยวของฟันกราม ช่วยปิดบริเวณหลุมและร่องฟันที่ลึกไม่ให้สิ่งสกปรกลงไปสะสมและสามารถแปรงฟันทาความสะอาดได้ง่ายขึ้นเป็นการป้องกันฟันผุ

ในการถอนฟัน ทันตแพทย์จะทำให้ฟันหลวมออกจากกระดูกขาขากรรไกรและเส้นเอ็น จากนั้นใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าคีมหรือปากคีบจับฟันแล้วค่อย ๆ ดึงออกมา ทั้งนี้ฟันที่ถอนยาก ไม่สามารถเอาออกมาได้ในคราวเดียว อาจต้องถอนโดยแยกเป็นชิ้นส่วนหลายครั้ง

การอุดฟัน เป็นวิธีการเปลี่ยนฟันที่เสียหาย เช่น ฟันผุ หรือฟันแตก นอกจากนี้เรายังสามารถใช้การอุดฟันในกรณีของความสวยงามได้ด้วย เช่น การปิดช่องว่างระหว่างฟัน

เพื่อป้องกันฟันผุ ทันตแพทย์จะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลสุขภาพฟันของลูก ดูแลฟัน ทำความสะอาดช่องปาก และแปรงฟันอย่างถูกวิธี และแนะนำให้ลูกเคลือบฟลูออไรด์ที่อย่างน้อยปีละ 2 ครั้งเพื่อสุขภาพฟันที่แข็งแรง และดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงทีหากตรวจพบว่าลูกมีฟันผุ

เพราะเด็กๆ ก็มีหัวใจ อยากยิ้มสวยไร้ฟันผุ ฟันผุป้องกันได้ “เพียงพบทันตแพทย์ ทุกๆ 6 เดือน”.ติดต่อนัดเคลือบฟลูออไรด์ นัดหมายเพื่อปรึกษากับทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก.โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก).www.bpdcdental.com.ซื้อคูปองผ่าน Line Shop : https://shop.line.me/@bpdc.

#BPDC#คลินิกทันตกรรม #ทันตกรรมเด็ก #เคลือบฟลูออไรด์