ปวดฟันทำยังไงดี

ปวดฟันทำยังไงดี

วันนี้ผมมีคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม มาแนะนำว่าปัญหาจากการปวดฟัน เราจะแก้ไขหรือทำยังไงให้หายปวดฟันดี

ซึ่งอาการของการปวดฟันนั้นคือเป็นการเกิดปัญหาที่โพรงประสาทฟัน ฟันผุจึงทำให้เกิดการปวดฟันขึ้นมา และหากเราต้องการไปหาทันตแพทย์นั้น แพทย์จะต้องทำการ X-ray ฟันดูก่อนว่าฟันเป็นอย่างไรและจะ วินิจฉัยว่าฟันนั้นเป็นอย่างไร ลำดับอาการรุนแรงแค่ไหน และควรต้องทำอย่างไรกับฟันดี

วิธีแก้ปัญหาปวดฟัน

– ถอนฟัน
ถอนฟันที่เป็นปัญหาเพื่อแก้ไขปัญหาการปวดของฟัน แต่ว่าการถอนฟันนั้นจะทำให้เราจะสูญเสียฟันนั้นไปตลอดชีวิตเลย ปัญหาในการบดเคี้ยวอาหารก็จะไม่ดีเหมือนกับตอนมีฟันปกติ ซึ่งควรตัดสินใจให้ดีว่าจะถอนหรือจะรักษารากฟัน การถอนฟันจะราคาถูกกว่าการรักษารากฟันหลายเท่า เพราะกระบวนการและขั้นตอนต่างกันมาก และหากทำการถอนฟันฟันข้างๆ ในระยะเวลานานวันขึ้น ฟันจะล้มหรือเอียง และอาจจะทำให้เกิดปัญหามากกว่าตอนที่ถอนฟันเสียอีก

รักษารากฟัน
การรักษารากฟันคือการทำความสะอาดที่เกิดปัญหา และทำการฝังรากฟันใหม่เข้าไปแทนที่หายไปและทำการอุดฟัน ครอบฟัน ไปตามกระบวนการของการรักษารากฟัน การรักษารากฟันจะต้องมีเวลามาพบแพทย์บ่อยๆ และต้องใช้เวลาในการรักษารากฟัน ต้องอ้าปากในเวลานาน การรักษารากฟันจะทำให้เราไม่สูญเสียฟันของเราไป แต่ต้องทำการรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น

– อุดฟัน
ถ้าฟันของเราไม่ถูกทำลายไปถึงโพรงประสาทฟันก็สามารถที่จะอุดฟันได้เพราะการอุดฟันนั้นอาการจะถือว่ายังไม่ค่อยรุนแรงมาก

การแก้ปัญหาฟันที่ถูกไปเรามีวิธีแนะนำคือ

– ใส่ฟันปลอม
– ฝังรากฟันเทียม

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

ฟันคุดควรผ่าออกหรือไม่

ฟันคุดควรผ่าออกหรือไม่

หลายๆคนอาจจะเคยพบปัญหาของฟันคุดกันเป็นจำนวนมากซึ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ควรปล่อยไว้ไหม หรือว่า ควรไปผ่าเอาออก วันนี้ผมจะมาสรุปว่า ฟันคุดควรผ่าออกหรือควรทำยังไงกับมันดี

ฟันคุดคืออะไร

ฟันคุดคือฟันที่อยู่ด้านใน ด้านริม มีฟันอยู่ใต้เหงือก ฟันโผล่มาครึ่งซีก ฟันคุดเป็นฟันแท้ แต่งอกมาได้ไม่เต็มที่ หรือบางครั้งจะติดกับโครงกระดูกกรามของเรา ฟันคุดจะเกิดขึ้นประมาณช่วง 15 ปี ที่เริ่มเป็นฟันแท้ขึ้นมา เริ่มมีการใช้ฟันเยอะ

ปัญหาฟันคุด

– ส่งผลต่อการจัดฟัน จะทำให้จัดฟันไม่ได้
– เกิดอาการปวดบวมของฟันและเหงือก หรือเหงือกอักเสบได้
– ปล่อยไว้นานจะทำให้ฟันซี่อื่นๆ เกิดปัญหา เช่นฟันล้ม ฟันเก ฯลฯ
– เศษอาหารอาจจะเข้าไปติดในร่องได้ง่าย ทำให้เกิดฟันผุ

วิธีแก้ปัญหาฟันคุด

– ทำการผ่าเอาฟันคุดออก โดยการผ่าเหงือก

อาการหลังผ่าฟันคุด

– อาจมีไข้ขึ้นสูง
– มีการบวมอักเสบของเหงือก
– ทานอาหารไม่ได้
– มีเลือดออกเรื่อย ๆ ไม่หยุด

การผ่าเอาฟันคุดออกต้องได้รับการยืนยันและวิเคราะห์จากแพทย์ก่อน ว่าสามารถผ่าได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะผ่าก็ผ่าได้เลย เพราะมีผู้ป่วยบางโรคที่ทำการผ่าเอาฟันคุดออกไม่ได้ โรคเบาหวานระยะสุดท้าย โรคตับ โรงมะเร็งต่างๆ จะไม่สามารถทำการผ่าฟันคุดได้

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมาย
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental

home


ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

“รักษารากฟัน” คืออะไร มาทำความเข้าใจก่อนเข้ารับการรักษา

รักษารากฟัน คืออะไร

“รักษารากฟัน” คืออะไร มาทำความเข้าใจก่อนเข้ารับการรักษา

“รักษารากฟัน” คืออะไร มาทำความเข้าใจก่อนเข้ารับการรักษา

รักษารากฟัน คือหนึ่งในวิธีการรักษาปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ที่เกิดจากสาเหตุเล็กๆ อย่างอาการฟันผุ หรือฟันแตก แล้วผู้ป่วยปล่อยทิ้งไว้ ไม่ทำการรักษาหรืออุดฟัน ทำให้รอยผุของฟันขยายใหญ่ขึ้นและลึกขึ้น รุนแรงจนทะลุไปถึงโพรงประสาทฟัน ส่งผลให้เกิดการอักเสบ บางรายอาจมีฝีที่รากฟัน เป็นหนอง มีอาการปวดทรมาน ที่สำคัญคือเมื่อถึงระยะนี้แล้วเราจะไม่สามารถฟันไว้ได้ด้วยการอุดฟัน แต่ต้องรักษาด้วยการรักษารากฟัน โดยทันตแพทตย์จะทำการกำจัดเนื้อเยื่อมีการติดเชื้อและอักเสบในบริเวณโพรงฟันและคลองรากฟัน รวมไปถึงทำความสะอาดในคลองรากฟันให้ปลอดเชื้อ จากนั้นจึงอุดคลองรากฟันและบูรณะตัวฟันเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

 

ก่อนเอื่น ต้องอธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่า “ฟัน” จะมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนด้วยกันคือ Enamel, Dentin และ Dental pulp

Enamel หรือ ผิวเคลือบฟัน – ส่วนนี้จะอยู่ด้านนอกสุดและเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดของฟัน

Dentin หรือ เนื้อฟัน – ส่วนที่อยู่ระหว่างผิวเคลือบฟันกับโพรงประสาทฟัน

Dental pulp หรือ โพรงประสาทฟัน – ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของฟัน โดยจะประกอบไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมากเพื่อนำสารอาหารมาหล่อเลี้ยงฟัน หากเคลือบฟันและเนื้อฟันถูกทำลายจนถึงชั้นโพรงประสาทฟัน ก็จะทำให้เกิดอาการปวดฟันได้

 

สาเหตุที่ต้องได้รับการรักษารากฟัน

  1. ฟันผุลึกมากจนทะลุโพรงประสาทฟัน
  2. ฟันแตกหัก หรือสึกจนทะลุโพรงประสาทฟัน
  3. ฟันได้รับการแรงกระแทกจากอุบัติเหตุจนทำให้ฟันแตกหัก จนถึงโพรงประสาทฟัน
  4. ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือก
  5. ผู้ที่นอนกัดฟันรุนแรง หรือ มีพฤติกรรมการบดเคี้ยวที่ค่อนข้างรุนแรง

 

อาการ

ลักษณธอาการของซี่ฟันที่ต้องได้รับการรักษารากฟันนั้น สักเกตจากอาการต่อไปนี้

  1. มีอาการปวดฟันแบบเป็นๆหายๆ หรือปวดรุนแรงจนนอนไม่หลับ
  2. มีอาการเสียวฟันมากเวลาดื่มของร้อนหรือเย็น
  3. มีอาการเจ็บฟันเวลาเคี้ยวอาหาร
  4. มีอาการเหงือกบวม มีตุ่มหนอง หรือมีอาการบวมบริเวณใบหน้า
  5. ฟันเปลี่ยนสี มีสีคล้ำ

 

ขั้นตอนการรักษารากฟัน

  1. การเตรียมตัว

ขั้นตอนแรกทันตแพทย์จะทำการเอกซเรย์ฟันซี่ที่มีปัญหา เพื่อวางแผนการรักษา โดยภาพเอกซเรย์ฟันจะทำให้เห็นความเสียหายของรากฟัน และยังสามารถตรวจสอบว่ามีการติดเชื้อรอบๆ กระดูกบริเวณดังกล่าวหรือไม่

  1. กำจัดเนื้อฟันที่อักเสบหรือติดเชื้อออก

ทันตแพทย์จะเริ่มขั้นตอนการรักษา ด้วยการใส่ยาชา ใส่แผ่นยางกันน้ำลาย จากนั้นกรอฟันเพื่อเปิดทางขยายโพรงประสาทฟัน และทำการกำจัดเนื้อเยื่อที่มีการติดเชื้อออกด้วยเครื่องมือที่มีขนาดเล็ก และใส่ยาฆ่าเชื้อ ลงไปในคลองรากฟัน

  1. ปิดรากฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราว

อุดคลองรากฟันเพื่อปิดช่องว่างไม่ให้เชื้อโรคกลับเข้ามา เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ โดยปกติจะใช้เวลาการรักษาประมาณ 2-3 ครั้งขึ้นอยู่กับความยากง่ายและสภาพการติดเชื้อของฟันแต่ละซี่

  1. อุดปิดคลองรากฟันถาวร

ทันตแพทย์จะอุดปิดคลองรากฟันถาวร เมื่อไม่มีการอักเสบของรากฟันแล้ว

  1. บูรณะตัวฟัน

การบูรณะตัวฟันเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกตินั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การอุดฟัน, การใส่เดือยฟัน, การครอบฟัน ทั้งนี้ทันตแพทย์จะพิจารณาจากสภาพเนื้อฟันที่เหลืออยู่

 

ระหว่างการรักษา

ช่วงระหว่างการรักษา ผู้ป่วยไม่ควรใช้ฟันซี่ที่รักษาอยู่กัดหรือเคี้ยวอาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันแตกหรือหักได้ รวมทั้งอาจพบอาการปวดได้ในช่วง 1-3 วันแรก โดยผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หากอาการไม่ดีขึ้นให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที


การดูแลหลังจากการรักษารากฟัน

การดูแลหลังจากการรักษารากฟันนั้น สามารถดูแลได้เหมือนฟันปกติ โดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันหลังมื้ออาหาร และก่อนนอน รวมทั้งเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน

 

นอกเหนือจากการรักษารากฟันแล้วนั้น ยังมีวิธีรักษาอีกวิธีสำหรับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน นั่นก็คือ “การถอนฟัน” แต่การถอนฟันนั้น จะทำให้เราเสียฟันแท้ไป อีกทั้งยังเสี่ยงกับปัญหาช่องว่างระหว่างฟันที่จะทำให้เกิดฟันล้มได้อีกด้วย ดังนั้น หากฟันยังอยู่ในระยะที่สามารรถรักษารากฟันได้ ทันตแพทย์ก็จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีนี้ เพื่อรักษาฟันแท้ของคุณไว้ให้ได้นานที่สุด

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม กับเทคนิคฝังรากฟันด้วยระบบ Computer-guided surgery

รากฟันเทียม คืออะไร ?

รากฟันเทียม หรือรากเทียม คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน ทำมาทดแทนรากฟันจริง โดยจะทำมาจากไททาเนียม ที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะ ใช้สำหรับฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ ที่สามารถรองรับ การทำฟันปลอม, การครอบฟัน และ การทำสะพานฟันได้ ปัจจุบัน รากฟันเทียม ถือเป็นฟันปลอมที่ดีที่สุด คล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุดเลยทีเดียว

 

ก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียมนั้นมีขั้นตอนการรักษาที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญของทันตแพทย์เป็นอย่างมาก เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผลลัพธ์ของการฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นก่อนการตัดสินจำทำรากฟันเทียม จึงต้องมั่นใจว่าทันตแพทย์ที่เราตัดสินใจให้มารักษาเรานั้นมีความเชี่ยวชาญจริงๆ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาทำให้ผู้ป่วยตัดสินใจเลือกทำรากฟันเทียมได้ง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery เทคโนโลยีที่ทำให้ทันตแพทย์ระบุตำแหน่งฝังรากเทียมได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดขนาดแผล ลดเวลาในการผ่าตัด และลดความเจ็บปวดหลังผ่าตัดได้อีกด้วย

 

Computer Guided Implant Surgery คืออะไร?

Computer Guided Implant Surgery เป็นการวางแผนการฝังรากเทียมด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ร่วมกับเทคโนโลยีทางภาพถ่ายรังสีแบบ 3 มิติ (Cone-Beam CT) เพื่อช่วยในการวางแผนรักษาและกำหนดตำแหน่งฝังรากฟันเทียมที่เหมาะสมที่สุด ภาพถ่ายรังสีแบบ 3 มิตินี้ ยังช่วยให้ทันตแพทย์สามารถเลือกขนาดรากเทียมได้สอดคล้องกับตำแหน่งฟันที่จะใส่ทดแทน

 

ขั้นตอนการทำรากเทียมด้วย Computer Guided Implant Surgery

  1. เริ่มต้นพิมพ์ปาก หรือใช้เครื่องสแกนถ่ายภาพในช่องปาก และถ่ายภาพรังสีแบบ 3 มิติ (Cone-Beam CT)
  2. นำภาพข้างต้นมาวางแผนการรักษา โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ ที่แสดงผลจากภาพมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณและลักษณะของกระดูก รวมไปถึงอวัยวะสำคัญต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องปาก โดยทันตแพทย์จะประเมินและกำหนด จำนวน ความยาว และขนาดของรากเทียมที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน
  3. ทันตแพทย์จะออกแบบอุปกรณ์ สำหรับกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม
  4. ฝังรากฟันเทียม ตามแผนที่วางไว้ โดยใช้อุปกรณ์กำหนดรากฟันเทียม ที่จะช่วยให้ฝังรากเทียมลงบนตำแหน่งที่แม่นยำมากที่สุด
  5. หลังจากฝังรากฟันเทียม อาจต้องทิ้งช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละรายว่าตอบสนองกับรากเทียมเร็วแค่ไหน หากการฝังรากเทียมมีผลลัพธ์ที่ดี ทันตแพทย์จะเริ่มทำการครอบฟันหรือทำฟันปลอมบนรากฟันเทียมต่อไป

 

ทำไมต้องเลือกเทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery
  1. ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากทันตแพทย์
  2. ลดความผิดพลาดของตำแหน่งรากเทียม
  3. ฝังรากฟันเทียมได้ในตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่กระทบอวัยวะส่วนอื่นๆ
  4. ทันตแพทย์ประเมินการรักษาได้แม่นยำมากขึ้นเพราะเห็นรายละเอียดของกระดูกและรูปร่างของฟันแบบ 3 มิติ
  5. ลดขนาดแผลผ่าตัด ลดความเจ็บปวด และลดเวลาในการพักฟื้น

 

การใช้เทคโนโลยี Computer Guided Implant Surgery นั้นจะช่วยให้การทำรากฟันเทียมมีประสิทธิภาพสูงสุดและเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับรักษาที่น่าพึ่งพอใจนั่งเอง

 

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

จัดฟัน

เมื่อตัดสินใจจัดฟัน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เมื่อตัดสินใจจัดฟัน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

 

การจัดฟันคือหนึ่งในวิธีทางการแพทย์ทึ่ช่วยจัดเรียงฟันให้สวยเข้ารูป ช่วยให้มั่นใจ กล้ายิ้มและช่วยเสริมบุคลิกภาพ นอกจากช่วยในเรื่องความสวยงามเป็นหลักแล้ว การจัดฟันยังช่วยในด้านของสุขอนามัยด้วย เพราะเมื่อฟันเรียงตัวก็จะช่วยให้แปรงฟันได้สะอาดทั่วถึงมากขึ้น ลดการเกิดฟันผุ และลดการเกิดเหงือกอักเสบได้อีกด้วย

 

ขั้นตอนมาตรฐานในการจัดฟัน

  1. ตรวจสุขภาพฟันเบื้องต้น
  2. เอกซเรย์ฟัน พิมพ์ปาก
  3. เคลียร์ช่องปาก
  4. ติดเครื่องมือ
  5. นัดปรับเครื่องมือ (แต่ละคนใช้ระยะเวลาในการจัดฟันไม่เท่ากัน)
  6. ถอดเครื่องมือ ใส่รีเทนเนอร์

 

ในขั้นตอนก่อนการติดเครื่องมือนั้นจะมีขั้นตอนที่เรียกว่า “การเคลียร์ช่องปาก” นั่นก็คือการเตรียมความพร้อมของช่องปากก่อนที่จะเริ่มต้นจัดฟัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย การขูดหินปูน, อุดฟัน, ผ่าฟันคุด หรือการรักษารากฟัน โดยทันตแพทย์จะพิจารณาแล้วแต่เคสไป แม้ว่าบางคนอาจจะไม่อยากทำขั้นตอนเหล่านี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อฟันได้รับการติดเครื่องมือไปแล้ว ช่องปากก็จะทำความสะอาดยากขึ้น อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันตามมาได้ ดังนั้นการเคลียร์ช่องปากจึงถือเป็นหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญมาก

เริ่มต้นที่การขูดหินปูน

โดยทั่วไปแล้ว คนเราควรขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพฟันที่ดี เพราะหากมีหินปูนสะสมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบตามมา หากเป็นมากอาจลุกลาม มีหนอง มีกลิ่นปากอย่างรุนแรง ทำให้เหงือกร่น ฟันโยก และอาจถึงขั้นต้องถอนฟันทิ้งไป ดังนั้นด่านแรกของสุขภาพฟันที่ดีก็คือการเริ่มต้นจากการขูดหินปูนสม่ำเสมอนั่นเอง

อุดฟันให้เรียบร้อย

“ฟันผุ” อีกหนึ่งปัญหาฟันที่ควรรีบรักษา เพราะการที่มีฟันผุนั้นมันสามารถลุกลามได้ ถ้าปล่อยไว้ไม่ยอมรักษาให้ทันเวลา ก็อาจเกิดปัญหาถึงโพรงประสาทฟัน จนไม่สามารถอุดฟันซี่นั้นได้ ทำให้ต้องถอนฟันทิ้ง หรือต้องเลือกเป็นการรากฟันที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อที่จะเก็บรักษาฟันไว้ในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องตรวจฟันให้ครบทุกซี่ ซี่ไหนผุก็รีบจัดการอุดให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในการติดเครื่องมือจัดฟัน

 

ผ่าฟันคุดก่อนจัดฟัน

ฟันคุดที่ฝังอยู่ในเหงือกนั้น ก็เปรียบได้กับระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าวันใดฟันซี่นี้จะผุดแทรกขึ้นมาจากเหงือก หากฟันเหล่านี้งอกขึ้นมาขณะจัดฟัน ฟันซี่นี้ก็จะเบียดฟันซี่อื่นๆ ที่เรียงตัวสวยแล้วจนผิดรูปได้ ดังนั้นก่อนการจัดฟันจึงมีการเอ็กซเรย์เพื่อดูปัญหาฟันคุดร่วมด้วย และเมื่อตรวจเจอฟันคุดแล้ว ทันตแพทย์จะตัดสินใจให้ผ่าออกให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะทำการจัดฟันนั่นเอง

 

การเคลียร์ช่องปาก ไม่ใช่การจัดการฟันทั้งปากได้ภายในวันเดียว แต่อาจจะเป็นการทยอยรักษาไปในแต่ละจุด จนครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อเราเตรียมช่องปากของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการติดเครื่องมือได้เลย โดยแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการจัดฟันที่ปรึกษาทันตแพทย์ไว้ตั้งแต่ต้นว่าตนเองเหมาะกับการจัดฟันในรูปแบบไหนนั่นเอง

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

ฟันน้ำนมผุ กับการทำฟันสำหรับเด็ก

ฟันน้ำนมผุ กับการทำฟันสำหรับเด็ก

ฟันน้ำนมผุ กับการทำฟันสำหรับเด็ก

 

ฟันน้ำนม

ฟันน้ำนม คือ ฟันชุดแรกที่มีทั้งหมดประมาณ 20 ซี่ โดยเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมซี่แรกจะเริ่มขึ้นและทยอยขึ้นมาจนครบทั้ง 20 ซี่ ฟันน้ำนมนั้นจะคงอยู่กับเด็กไปจนเด็กอายุประมาณ 6 ปี หลังจากนั้น ฟันน้ำนมก็จะเริ่มทยอยหลุดออกและมีฟันแท้ขึ้นมาทดแทน แต่ในช่วงระหว่างที่เด็กๆ ต้องใช้งานฟันน้ำนมอยู่นี้ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็จะทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้นั่นเอง

 

ปัญหาฟันน้ำนมผุ

การที่เด็กต้องประสบกับปัญหาฟันผุนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุส่วนใหญ่นั้นมักเกิดจากการดูแลของผู้ปกครองเป็นสำคัญ เรามักพบปัญหาฟันผุในเด็กที่ถูกปล่อยให้นอนหลับคาขวดนม ซึ่งการกระทำเช่นนี้ จะทำให้น้ำตาลในนมสะสมและเข้าทำลายเคลือบฟันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นฟันผุ นอกจากนี้ เด็กๆ ที่ชอบรับประทานขนมหวานต่างๆ แล้วดูแลฟันไม่ดีหรือแปรงฟันไม่สะอาดพอ ก็เป็นอีกตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดฟันผุเช่นกัน

 

อาการของฟันผุ

ฟันผุระยะแรก – ฟันจะมีสีเป็นขาวขุ่น ผิวฟันไม่เรียบ

ฟันผุที่เนื้อฟัน – เนื้อฟันเกิดรอยผุเป็นรู และอาจมีอาการเสียวฟัน ปวดฟันร่วมด้วย

ฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน – หากปล่อยให้ฟันผุจนถึงระยะนี้ จะมีอาการปวดฟันและการอักเสบของเหงือกร่วมด้วย

 

การรักษาฟันน้ำนมผุ

ทันตแพทย์จะรักษาฟันน้ำนมผุโดยเริ่มจากการประเมินระยะของโรค และประเมินความเสียหายของเนื้อฟัน หากบุตรหลานของท่านมีปัญหาฟันน้ำนมผุในระยะเริ่มต้น คุณหมอจะจัดการทำฟันและรักษาด้วยการอุดฟันหรือครอบฟัน แต่หากฟันผุทะลุถึงโพรงประสาทฟันแล้วจะต้องทำการรักษาด้วยการรักษารากฟัน

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำว่า การเก็บรักษาฟันน้ำนมไว้ใช้จนถึงระยะเวลาที่ฟันแท้ขึ้นมาทดแทนนั้นจะดีที่สุด เพราะจะช่วยลดปัญหาฟันซ้อนและปัญหาฟันล้มในอนาคตได้ดีที่สุดนั่นเอง

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

Inivisalign braces or aligner. A way to have a beautiful smile and white teeth.

รีเทนเนอร์ คือ

คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก รีเทนเนอร์ แต่สำหรับคนที่จัดฟันหรือมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน จะต้องรู้จัก รีเทนเนอร์ อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำให้รู้จักกับ รีเทนเนอร์ กันครับ

รีเทนเนอร์ หรือ (Retainer) เป็นอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ปรับสภาพของฟัน หรือเครื่องมือที่ไว้ใช้คงสภาพของฟันหลังจากที่เราได้จัดฟันไว้ เพราะว่าบางคนจัดฟัน จะต้องทำการถอนฟันบางซี่ เพื่อการจัดฟันให้ได้รูปลักษณ์ที่ดี เจ้า รีเทนเนอร์ นี่ล่ะที่ไว้ใช้ปรับสภาพเหงือกและฟันให้คงที่ในรูปแบบของฟันที่ดี ซึ่งการใส่รีเทนเนอร์ จำเป็นจะต้องใส่อยู่เป็นประจำไม่อย่างนั้นฟันที่เราได้จัดไว้จะกลับไปเป็นรูปแบบเดิม ซึ่งการใส่ รีเทนเนอร์ในช่วงแรกๆ จะรู้สึกไม่ถนัด น้ำลายจะออกมามาก และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ พยายามเก็บรักษาและรักษาความสะอาดของ รีเทนเนอร์ไว้ให้ดี

 

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

ทันตกรรมขูดหินปูน

การดูแลตัวเองหลังจัดฟัน

เมื่อหลังจากที่เราได้ทำการจัดฟันแล้ว เราจะต้องดูแลรักษาฟันหลากหลายวิธี คือ

  • การใช้แปรงสีฟันสำหรับคนที่จัดฟัน
  • อาหารการกินต้องเลือก ไม่กินของที่เหนียวหรือแข็งมากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ฟันผุ เช่นของหวาน ขนม ทอฟฟี่ และน้ำอัดลม
  • ควรรับการตรวจฟันทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพฟันที่ดีอยู่เสมอ
  • ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บฟันและอาจมีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงในสัปดาห์ที่ 2 การดื่มน้ำให้มาก จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อลดการเกิดฟันผุในระหว่างการจัดฟัน
  • ในระหว่างการจัดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน ทำความสะอาดฟันและตรวจฟันผุทุก ๆ 6 เดือน

 

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

จัดฟันมีกี่แบบ

จัดฟันมีกี่แบบ

ถ้าพูดถึงเรื่องการจัดฟัน หลายๆ คนก็จะคิดว่ามีเพียงไม่กี่แบบ เพราะปัจจุบันที่เราเห็น บางคนก็จัดฟันแบบแฟชั่น บางคนก็จัดฟันแบบจริงจังใช้เวลาหลายปี ซึ่งวันนี้ผมจะมาให้อธิบายเรื่องของการจัดฟันอย่างถูกต้องและละเอียดให้ฟังกันครับ

การจัดฟันคือ

การรักษาความผิดปกติของฟันเพื่อให้ถูกต้องตามตำแหน่งที่เหมาะสม มีระเบียบ ให้ดูสวยงาม รวมถึงรูปร่างใบหน้าที่ดีขึ้น จะสังเกตุได้ว่า คนที่จัดฟันหน้าจะเรียวขึ้น ซึ่งการจัดฟันที่ดีจะสามารถทำได้ดีในช่วง 10-14 ปี ไปจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งในการจัดฟันนั้นมีหลายรูปแบบดังนี้

รูปแบบของการจัดฟันมีทั้งหมด 5 แบบ

  1. จัดฟันแบบโลหะ
    เป็นการจัดฟันด้วยโลหะทั่วไป อุปกรณ์ติดแน่นบนฟัน ซึ่งเราพบเห็นกันบ่อยๆมีสีสันสดใส เป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่น ราคาไม่สูงมากนัก แต่ต้องพบทันตแพทย์ทุกๆ เดือนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน
  2. จัดฟันแบบเซรามิก
    เป็นการแบบติดแน่นที่ใช้อุปกรณ์ดัดฟันสีเหมือนฟัน สีจะใกล้เคียงสีฟันจริง เมื่อมองดูจากไกล ๆแทบดูไม่ออกเลยว่ากำลังจัดฟันอยู่ มีลักษณะ Bracket เป็นเซรามิกสีใสและยางรัด O – ring สีใส ลวดเป็นโลหะสีเงิน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและทุกอาชีพ
  3. จัดฟันแบบ Damon
    การจัดฟันแบบดามอนเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากจัดฟันแบบไม่ต้องเจ็บตัว ด้วยเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของเครื่องมือแบบบานพับและลวดชนิดพิเศษที่ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างนุ่มนวล ระคายเคืองช่องปากน้อยกว่า และสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายกว่าเพราะไม่มียางรัด
  4. จัดฟันแบบ STb light lingual ด้านใน
    เป็นการจัดฟันคนทั่วไปจะมองไม่เห็น เพราะจะติดเครื่องมืออยู่ที่ด้านในหรือด้านหลังของฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้เห็นเครื่องมือจัดฟันเวลาพูดหรือยิ้ม
  5. จัดฟันแบบใส Invisalign

จัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันแบบที่ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน เครื่องมือจะเป็นแผ่นวัสดุใสๆ บางๆ โดยจะจัดทำขึ้นโดยการแสกนฟันร่วมกับการเอกซเรย์โครงสร้างกระดูกและใบหน้า เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมร่วมกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในการที่จะสร้างอุปกรณ์จัดฟันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกับคนไข้แต่ละคน สามารถถอด และใส่เองได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น ผู้มารับบริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยากจัดฟันแต่ไม่อยากติดเครื่องมือจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน

  • เพื่อความสวยงามและเพื่อบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ฟันดูสวยงาม
  • เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปากและฟัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้
  • โครงหน้าเข้ารูปและดูดีมากขึ้น หรือหน้าดูเรียวมากขึ้น
  • การจัดฟันเป็นแฟชั่น จัดแล้วดูน่ารัก
  • ช่วยลดการมีกลิ่นปาก เนื่องจากการแปรงฟันไม่สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ

ขั้นตอนการจัดฟัน

  1. ทำการนัดหมายทันตแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาและวางแผนในการรักษา
  2. ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์แบบฟัน เพื่อบันทึกรายละเอียด และมีการเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกร
  3. ตรวจฟันก่อนว่าจะต้องทำการรักษาฟันก่อนหรือไม่ เช่น ถอนฟัน อุดฟัน รักษาโรคเหงือก รากฟัน ฯลฯ เพราะจำเป็นต้องรักษาให้หายก่อนใส่เครื่องมือจัดฟัน ทั้งนี้เพื่อความแข็งแรงและเพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ฟังคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ และตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดฟันกับทันตแพทย์
  5. ทันตแพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟันให้ ในช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บบ้าง (ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันด้วย) แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์

 

—————————————————————————————————————-

ติดต่อคลินิกทันตกรรม บางพลี
จัดฟัน รากฟันเทียม ทำฟันเด็ก เคลือบฟัน ทำฟันประกันสังคม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรมบางพลี BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)