หลายคนมักให้ความสำคัญกับฟันขาวสวย แต่ลืมไปว่ารากฐานของฟันที่แข็งแรงคือ “เหงือกและกระดูกรองรับฟัน” ซึ่งเป็นหัวใจของสุขภาพช่องปากที่แท้จริง หากเปรียบช่องปากเป็นบ้าน ฟันก็คือเสา และ “เหงือกกับกระดูก” ก็คือฐานรากที่ต้องมั่นคง
โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) คือภัยเงียบที่ทำลายฐานรากนี้อย่างช้าๆ โดยที่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัว เพราะมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงเริ่มต้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล อาจลุกลามจนสูญเสียฟันโดยไม่รู้ตัว
ในบทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จักกับ “โรคปริทันต์ การดูแลและการป้องกัน” อย่างลึกซึ้ง ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย พร้อมคำแนะนำเชิงวิชาการจากมุมมองทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้คุณสามารถปกป้องรอยยิ้มของตัวเองได้อย่างมั่นใจ
โรคปริทันต์คืออะไร?
โรคปริทันต์ คือโรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อปริทันต์ ซึ่งประกอบด้วยเหงือก, เอ็นยึดปริทันต์, และกระดูกเบ้าฟัน ทำให้โครงสร้างที่ยึดฟันค่อยๆ เสื่อมลง
สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ๆ คือ:
1. โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis)
เป็นระยะเริ่มต้น เกิดจากคราบพลัคและแบคทีเรียสะสมบริเวณขอบเหงือก
อาการ:
-
เหงือกบวม แดง
-
มีเลือดออกขณะแปรงฟัน
-
มีกลิ่นปาก
จุดสำคัญคือ โรคเหงือกอักเสบสามารถ รักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น
2. โรคปริทันต์ (Periodontitis)
เป็นระยะที่โรคลุกลามจากเหงือกอักเสบเข้าสู่ระดับลึก
ทำลายกระดูกและเนื้อเยื่อที่ยึดฟันไว้
อาการ:
-
เหงือกร่น ฟันดูยาวขึ้น
-
ฟันโยก
-
มีหนองบริเวณเหงือก
-
กลิ่นปากแรง
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ฟันอาจหลุดโดยไม่ต้องถอน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคปริทันต์
-
การแปรงฟันไม่สะอาด / ไม่ใช้ไหมขัดฟัน
-
สูบบุหรี่
-
เบาหวาน (ควบคุมน้ำตาลไม่ดี)
-
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง (เช่น วัยรุ่น/หญิงตั้งครรภ์)
-
ความเครียดสะสม
-
พันธุกรรม
-
ฟันซ้อน ฟันเบียดที่ทำให้ทำความสะอาดยาก
วิธีการดูแลรักษาโรคปริทันต์
การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยแบ่งเป็น:
🔹 1. ขูดหินปูน (Scaling)
ขั้นตอนพื้นฐานในการเอาคราบหินปูนและแบคทีเรียออกจากขอบเหงือก
มักใช้กับผู้ที่มีอาการเหงือกอักเสบระยะแรก
🔹 2. รักษารากฟันลึก (Root Planing)
เป็นการขูดลึกลงไปใต้เหงือก เพื่อลดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณรากฟัน
เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคปริทันต์ระยะปานกลาง
🔹 3. ผ่าตัดเหงือก (Periodontal Surgery)
ในกรณีที่ลึกเกินกว่าจะรักษาด้วยวิธีขูด อาจต้องเปิดเหงือกเพื่อทำความสะอาดใต้เหงือกและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย
🔹 4. การปลูกกระดูกหรือเนื้อเยื่อ (Bone/Gum Grafting)
ใช้ในเคสที่มีการสูญเสียกระดูกหรือเหงือกอย่างรุนแรง เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างรอบฟัน
การดูแลและป้องกันโรคปริทันต์ในชีวิตประจำวัน
เพื่อให้เหงือกแข็งแรงและห่างไกลโรคปริทันต์ สิ่งสำคัญคือ วินัยในการดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ:
✅ 1. แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
-
ใช้แปรงขนนุ่ม
-
แปรงโดยเอียงขนแปรง 45 องศาเข้าขอบเหงือก
-
ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีต่อครั้ง
✅ 2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
ขจัดคราบพลัคบริเวณซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
ช่วยลดความเสี่ยงโรคปริทันต์ได้ถึง 40%
✅ 3. บ้วนปากด้วยน้ำยาที่ไม่มีแอลกอฮอล์
เช่น น้ำยาบ้วนปากสูตรต้านแบคทีเรีย
ลดการอักเสบและระงับกลิ่นปาก
✅ 4. พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
เพื่อขูดหินปูน และตรวจเช็กสุขภาพเหงือกอย่างสม่ำเสมอ
หากพบสัญญาณของโรคปริทันต์ จะได้เริ่มรักษาได้ทันท่วงที
✅ 5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่ลดภูมิคุ้มกันของเหงือก
และทำให้การไหลเวียนเลือดในเหงือกแย่ลง
ผลกระทบของโรคปริทันต์ที่ไม่ควรมองข้าม
-
ฟันหลุดก่อนวัย
-
กลิ่นปากเรื้อรัง
-
เสียบุคลิกภาพจากเหงือกดำ เหงือกร่น
-
เสี่ยงต่อโรคทางระบบ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคสมองเสื่อม
(เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจากช่องปากเข้าสู่กระแสเลือด)
โรคปริทันต์กับผู้จัดฟัน หรือใส่ฟันปลอม
👉 ผู้จัดฟัน:
ต้องดูแลเหงือกเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสสะสมคราบพลัคสูง
หากเกิดเหงือกอักเสบขณะจัดฟัน อาจทำให้ผลการรักษาแย่ลง
👉 ผู้ใส่ฟันปลอม:
หากมีโรคปริทันต์แล้วปล่อยไว้ อาจทำให้ฟันข้างเคียงโยก
ส่งผลให้ฟันปลอมไม่พอดี ต้องแก้ไขบ่อย
แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้ต้องการป้องกันโรคปริทันต์
🪥 ผลิตภัณฑ์ดูแลเหงือกโดยเฉพาะ
-
แปรงสีฟันขนนุ่มเฉพาะทาง
-
ยาสีฟันลดอาการเหงือกบวม มีฟลูออไรด์
-
ไหมขัดฟัน/แปรงซอกฟันขนาดต่าง ๆ
-
น้ำยาบ้วนปากสูตรไม่มีแอลกอฮอล์
🦷 บริการขูดหินปูน และตรวจสุขภาพเหงือกโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง
-
ตรวจระดับลึกของร่องเหงือก (Periodontal Charting)
-
ประเมินสุขภาพกระดูกฟันด้วยฟิล์มเอ็กซ์เรย์
-
วางแผนการดูแลช่องปากรายบุคคล
📍 สนใจปรึกษา → [คลิกเพื่อลงทะเบียนตรวจสุขภาพเหงือกฟรี]
สรุป: โรคปริทันต์ ดูแลได้ ป้องกันได้ เริ่มต้นจากวันนี้
“โรคปริทันต์ การดูแลและการป้องกัน” อาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว
แต่แท้จริงแล้ว ทุกคนมีโอกาสเป็นได้หากละเลยการดูแลช่องปากที่ถูกวิธี
การแปรงฟันอย่างถูกต้อง การใช้ไหมขัดฟัน และการเข้าพบทันตแพทย์สม่ำเสมอ คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีเหงือกแข็งแรงและฟันที่มั่นคงไปตลอดชีวิต
รอยยิ้มที่สดใส เริ่มต้นจากการดูแลเหงือกให้แข็งแรง
อย่ารอให้ฟันโยก…แล้วค่อยกลับมารักษา
สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)
#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม