ประเภทเครื่องมือจัดฟัน มีอะไรบ้าง

ประเภทเครื่องมือจัดฟัน มีอะไรบ้าง

เครื่องมือจัดฟันมีหลายประเภทที่ทันตแพทย์ใช้ในการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการกัด โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียต่างกันไป นี่คือประเภทหลักๆ ของเครื่องมือจัดฟัน:

  1. จัดฟันด้วยโลหะ (Metal Braces):
    • เครื่องมือจัดฟันแบบดั้งเดิมที่ใช้โลหะสเตนเลสเป็นหลัก
    • มีลวดโลหะและแบร็คเก็ตที่ติดกับฟันและยางหรือโลหะรัดลวดเข้ากับแบร็คเก็ต
    • มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อน แต่มีความเด่นชัด
  2. จัดฟันเซรามิก (Ceramic Braces):
    • แบร็คเก็ตทำจากเซรามิกสีขาวหรือโปร่งใส ทำให้มองเห็นได้ยากกว่าโลหะ
    • ลวดมักจะมีสีที่เข้ากับสีฟันเพื่อความสวยงาม
    • ราคาสูงกว่าและอาจแตกง่ายกว่าแบร็คเก็ตโลหะ
  3. จัดฟันด้านใน (Lingual Braces):
    • ติดตั้งแบร็คเก็ตและลวดที่ด้านในของฟัน ทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก
    • ยากต่อการทำความสะอาดและอาจไม่สบายต่อเหงือกและลิ้นในช่วงแรก
    • ต้องใช้ความชำนาญสูงในการติดตั้งและปรับแต่ง
  4. เครื่องมือจัดฟันใส (Clear Aligners):
    • เช่น Invisalign, เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ทำจากพลาสติกใสและสามารถถอดออกได้
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ต้องการเครื่องมือที่มองเห็นได้
    • ใช้แก้ไขปัญหาการเรียงฟันที่ไม่ซับซ้อนและต้องมีการเปลี่ยนเครื่องมือทุก 1-2 สัปดาห์
  5. เครื่องมือจัดฟันแบบบางส่วน (Partial Braces):
    • ใช้เฉพาะส่วนที่มีปัญหา เช่น ฟันหน้า
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเพียงบางส่วนของฟัน
  6. อุปกรณ์เสริม (Orthodontic Appliances):
    • เช่น อุปกรณ์ขยายขากรรไกร (Palatal Expanders), เครื่องมือยกฟัน (Elastics), หรืออุปกรณ์ดันฟัน (Headgear)
    • ใช้ร่วมกับเครื่องมือจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะเจาะจง
  7. เครื่องมือจัดฟันแบบเซลฟ์-ไลเกติ้ง (Self-Ligating Braces):
    • ใช้คลิปแทนยางรัดฟัน
    • ทำความสะอาดง่าย ปรับแต่งน้อยครั้งกว่า
  8. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ (Removable Appliances):
    • ใช้สำหรับการรักษาเฉพาะจุด หรือในเด็ก
    • ถอดได้ แต่ประสิทธิภาพอาจน้อยกว่าแบบติดแน่น
  9. เครื่องมือจัดฟันแบบผสม (Hybrid Braces):
    • ผสมผสานเทคโนโลยีหลายแบบ
    • ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคล

การเลือกประเภทเครื่องมือจัดฟันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพฟัน ความรุนแรงของปัญหา ความต้องการของผู้ป่วย และงบประมาณ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกเครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมกับคุณ

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829 Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental https://bpdcdental.com/ ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ต้องทำอย่างไรถึงมีฟันสวยแบบดารา

ต้องทำอย่างไรถึงมีฟันสวยแบบดารา

การมีฟันสวยแบบดาราต้องอาศัยการดูแลและรักษาสุขภาพฟันอย่างดี นี่คือขั้นตอนและเคล็ดลับที่สามารถช่วยให้คุณมีฟันที่สวยงาม:

  1. แปรงฟันอย่างถูกวิธี:

    • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
    • ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มและเปลี่ยนแปรงทุก 3-4 เดือน
    • แปรงฟันอย่างน้อย 2 นาทีในแต่ละครั้ง
  2. ใช้ไหมขัดฟัน:

    • ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อขจัดคราบและเศษอาหารระหว่างฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
  3. บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก:

    • ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์เพื่อเสริมสร้างฟันและลดคราบแบคทีเรีย
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์:

    • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน
    • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เช่น นม โยเกิร์ต ปลา ผักใบเขียว
  5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อฟัน:

    • ไม่ควรใช้ฟันกัดสิ่งของแข็ง เช่น ปากกาหรือถั่วเปลือกแข็ง
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
  6. ไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ:

    • ไปตรวจสุขภาพฟันและทำความสะอาดฟันทุก 6 เดือนเพื่อป้องกันปัญหาฟันผุและโรคเหงือก
  7. พิจารณาการรักษาทางทันตกรรมเพื่อความงาม:

    • หากต้องการฟันที่ขาวขึ้น สามารถใช้การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)
    • หากฟันไม่เรียงกันหรือมีปัญหาการกัด สามารถพิจารณาการจัดฟัน (Orthodontics)
    • การทำวีเนียร์ (Veneers) หรือครอบฟัน (Crowns) เพื่อแก้ไขรูปร่างและสีของฟัน

การดูแลฟันอย่างถูกวิธีและการพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีฟันที่สวยและสุขภาพดีเช่นเดียวกับดารา

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ดื่มน้ำเปล่ามากๆ: ช่วยชะล้างเศษอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก
  • ลดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีสี: สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ฟันเหลืองและหมองคล้ำได้
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน: เช่น ผัก ผลไม้ นม และโยเกิร์ต

วีเนียร์ (Veneer) เป็นการเคลือบฟันเทียมที่สามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ดาราและคนทั่วไปนิยมใช้กันมากเพราะมีข้อดีหลายประการ:

วีเนียร์คืออะไร?

วีเนียร์คือการเคลือบฟันเทียมบางๆ ที่ทำจากวัสดุเช่น พอร์ซเลน (Porcelain) หรือคอมโพสิต (Composite) ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับฟันธรรมชาติ และติดบนพื้นผิวของฟันเพื่อปรับปรุงรูปร่าง สี และขนาดของฟัน

ข้อดีของวีเนียร์

  1. ปรับปรุงรูปลักษณ์:

    • แก้ไขปัญหาฟันที่เปลี่ยนสี ฟันแตก หรือฟันห่าง
    • ทำให้ฟันดูขาวขึ้นและเรียบเสมอกัน
  2. ดูเป็นธรรมชาติ:

    • วัสดุพอร์ซเลนและคอมโพสิตมีความโปร่งแสง ทำให้ดูเหมือนฟันธรรมชาติ
    • สามารถออกแบบให้เข้ากับสีและรูปร่างของฟันอื่นๆ ในปาก
  3. ทนทานและยาวนาน:

    • วีเนียร์พอร์ซเลนมีความทนทานสูงและสามารถใช้งานได้ยาวนาน
    • ทนต่อการเปลี่ยนสีและการสึกกร่อน
  4. ไม่ต้องถอนฟัน:

    • กระบวนการติดตั้งวีเนียร์ไม่จำเป็นต้องถอนฟัน และสามารถทำได้โดยไม่ต้องทำการเจาะหรือถอนฟัน

ขั้นตอนการทำวีเนียร์

  1. การปรึกษา:

    • ทันตแพทย์จะประเมินฟันและหารือกับผู้ป่วยเกี่ยวกับความต้องการและผลลัพธ์ที่ต้องการ
  2. การเตรียมฟัน:

    • ทันตแพทย์จะเตรียมพื้นผิวฟันโดยการเจียรฟันเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับติดวีเนียร์
    • อาจทำการสแกนหรือพิมพ์ฟันเพื่อสร้างวีเนียร์ที่เหมาะสม
  3. การติดตั้งวีเนียร์ชั่วคราว (ถ้าจำเป็น):

    • ทันตแพทย์อาจติดตั้งวีเนียร์ชั่วคราวในขณะที่รอการสร้างวีเนียร์ถาวร
  4. การติดตั้งวีเนียร์ถาวร:

    • เมื่อตัววีเนียร์ถูกสร้างเสร็จ ทันตแพทย์จะตรวจสอบความเข้ากันและติดตั้งวีเนียร์ถาวรโดยใช้กาวชนิดพิเศษ

ข้อดีของวีเนียร์

  • ช่วยปรับปรุงรอยยิ้มให้สวยงามและมั่นใจมากขึ้น
  • มีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน
  • มีสีที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
  • ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือก

ข้อเสียของวีเนียร์

  • มีค่าใช้จ่ายสูง
  • ต้องกรอผิวฟันออกบางส่วน
  • อาจต้องใช้เวลาในการทำหลายครั้ง

การดูแลรักษาวีเนียร์

  • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการกัดสิ่งของแข็งหรืออาหารที่แข็ง
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสอบและดูแลฟัน

วีเนียร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันและสร้างความมั่นใจในการยิ้มเหมือนดารา ควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

 สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829 Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental https://bpdcdental.com/ ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ทำไมต้องรักษารากฟัน 2024

ทำไมต้องรักษารากฟัน 2024

การรักษารากฟันเป็นกระบวนการทันตกรรมที่สำคัญซึ่งใช้ในการรักษาฟันที่มีปัญหาอย่างรุนแรง เช่น ฟันที่มีการติดเชื้อหรือการอักเสบของเนื้อในฟัน (pulp) ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในรากฟันและประกอบด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาท มีหลายเหตุผลที่ทำให้การรักษารากฟันจำเป็น

  1. การติดเชื้อหรือการอักเสบของเนื้อในฟัน การติดเชื้อหรืออักเสบสามารถเกิดจากฟันผุรุนแรง, การบาดเจ็บ, หรือแม้แต่ฟันแตก. การรักษารากฟันช่วยขจัดเชื้อโรคและป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อ.

  2. ป้องกันการสูญเสียฟัน หากไม่ได้รับการรักษา, ฟันที่ติดเชื้ออาจต้องถูกถอนออก. การรักษารากฟันช่วยให้สามารถรักษาฟันไว้ได้และลดความจำเป็นในการใช้ฟันปลอมหรือการทำฟันเทียม.

  3. บรรเทาอาการปวด เมื่อเนื้อในฟันติดเชื้อหรืออักเสบ, มันอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก. การรักษารากฟันช่วยลดความเจ็บปวดและอาการไม่สบายอื่นๆ.

  4. ป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อ ไม่รักษาฟันที่ติดเชื้ออาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังฟันอื่นๆ และบริเวณเหงือกหรือกระดูกขากรรไกร.

  5. ปรับปรุงการทำงานและรูปลักษณ์ของฟัน การรักษารากฟันช่วยให้ฟันที่เสียหายกลับมามีความแข็งแรงและฟื้นฟูการทำงานที่สำคัญ, พร้อมทั้งช่วยรักษารูปลักษณ์ธรรมชาติของฟัน.

  6. ป้องกันการติดเชื้อในรากฟัน เมื่อเนื้อเยื่ออ่อนภายในฟัน (ปลายประสาท) ถูกทำลาย จากฟันผุลึก การบาดเจ็บ หรือการรักษาฟันอื่นๆ ช่องว่างที่เกิดขึ้นจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หากไม่ได้รับการรักษารากฟันอย่างถูกวิธี เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายลงไปในโพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้

  7. รักษารูปร่างและโครงสร้างฟัน รากฟันมีหน้าที่สำคัญในการค้ำยันฟันให้แน่นหนาและยึดเกาะกับเบ้าฟันและกระดูกขากรรไกร การไม่รักษารากฟันจะทำให้เนื้อเยื่ออ่อนภายในฟันค่อยๆ ถูกทำลาย ส่งผลให้รากฟันอ่อนแอลง จนในที่สุดฟันนั้นจะร่วงโดยง่าย

  8. หลีกเลี่ยงการติดเชื้อร้ายแรงและเรื้อรัง การติดเชื้อในโพรงประสาทฟันอาจลุกลามไปเป็นหนองก้อนหรือฝีที่โพรงประสาทฟันหากปล่อยทิ้งไว้นาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการบวมบริเวณใบหน้าและขากรรไกร มีอาการปวดรุนแรง อาจมีไข้และต่อมน้ำเหลืองบวมจากการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง

  9. เพื่อให้สามารถบูรณะฟันด้วยวิธีการอื่นๆ ได้ การรักษารากฟันเป็นขั้นตอนแรกที่จำเป็นก่อนการทำครอบฟัน สะพานฟัน หรือรากฟันเทียม เพื่อเตรียมโพรงประสาทฟันให้พร้อมรับการบูรณะฟันในภายหลัง

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หากพบปัญหาการติดเชื้อหรือเสื่อมสภาพของรากฟันแล้ว ไม่ควรเพิกเฉยและรีบรักษารากฟันโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการสูญเสียฟันซี่นั้นๆ ในอนาคต รวมถึงป้องกันปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ที่อาจตามมา

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829

Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental https://bpdcdental.com/

ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

5 สัญญาณเตือนบอกถึงปัญหาฟันที่ควรรีบไปพบทันตแพทย์

5 สัญญาณเตือนบอกถึงปัญหาฟันที่ควรรีบไปพบทันตแพทย์

5 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อไหร่ควรไปพบทันตแพทย์ รอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีนั้น ส่งผลต่อทั้งบุคลิกภาพและความมั่นใจของเรา แต่หลายคนอาจละเลยสัญญาณเตือนของปัญหาฟัน จนนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรง

  1. ความเจ็บปวดที่ไม่หายไป: การพูดถึงความเจ็บปวดที่ไม่หายไปในฟันหรือเหงือก, ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาต่างๆ เช่น การติดเชื้อ, โรคเหงือก, หรือฟันผุ.

  2. ฟันหลุดหรือเสียรูป: การเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไปพบทันตแพทย์หากมีฟันหลุดหรือเสียรูป, ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที.

  3. เลือดออกจากเหงือก: อธิบายเหตุผลที่เลือดออกจากเหงือกไม่ควรถูกมองข้าม และวิธีที่มันอาจเป็นสัญญาณของโรคเหงือกหรือปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ.

  4. ความไวของฟัน: การพูดถึงเหตุผลที่ความไวของฟัน, เช่น ความรู้สึกไม่สบายเมื่อทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น, อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางทันตกรรม.

  5. ฟันเปลี่ยนสีหรือมีจุดด่าง: การสำรวจเหตุผลที่การเปลี่ยนแปลงสีของฟันหรือการมีจุดด่างอาจบ่งบอกถึงปัญหาทางทันตกรรม, เช่น การติดเชื้อ, การผุของฟัน, หรือปัญหาอื่นๆ.

  6. แผลในปาก แผลในปากที่ไม่หายไปภายใน 2 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งในช่องปาก

  7. ฟันสีเหลืองหรือมีคราบ ฟันสีเหลืองหรือมีคราบ อาจเกิดจากการสะสมของคราบพลัค คราบชา กาแฟ หรือการสูบบุหรี่ ซึ่งหากปล่อยไว้นาน อาจนำไปสู่ปัญหาฟันผุและโรคเหงือก

  8. ฟันโยกคลอน ฟันโยกคลอนเป็นสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบระยะรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันได้

  9. มีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ แม้ว่าจะดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เสมอ อาจมีสาเหตุจากการมีคราบจุลินทรีย์ตกค้างบริเวณลิ้น หรือฟันผุภายในที่ยังไม่สามารถสังเกตเห็นได้

การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดี

 

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน

โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829

Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental https://bpdcdental.com/

ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

คลินิกทำฟันที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้

คลินิกทำฟันที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้

คลินิกทำฟันที่ดีควรมีคุณสมบัติและลักษณะที่สำคัญดังนี้เพื่อให้สามารถให้บริการดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีคุณภาพ:

  1. ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์: ทันตแพทย์และทีมงานควรมีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องและมีประสบการณ์ในการรักษาทางทันตกรรม
  2. สถานที่ที่สะอาดและปลอดภัย: คลินิกควรมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด รวมถึงมีมาตรฐานสุขอนามัยที่ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อและรักษาสุขภาพของผู้ป่วย
  3. อุปกรณ์ทันสมัย: การมีอุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัยที่ครอบคลุมต่างๆ เช่น เครื่อง X-ray, เครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดฟัน, และอุปกรณ์สำหรับการทำฟันปลอม
  4. บริการที่หลากหลาย: คลินิกควรมีบริการทันตกรรมที่หลากหลาย รวมถึงการตรวจสุขภาพปากและฟัน การทำฟัน การรักษาฟันผุ การติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน และอื่นๆ
  5. การสื่อสารที่ดี: ทันตแพทย์และทีมงานควรสามารถสื่อสารได้ชัดเจน ให้คำปรึกษาและข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการรักษาและตัวเลือกการรักษาที่มี
  6. บริการลูกค้าที่เป็นมิตร: การบริการที่ดีและเป็นมิตร รวมถึงการจัดการนัดหมายที่สะดวกและรวดเร็ว
  7. ความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล: คลินิกควรมีความโปร่งใสในเรื่องของค่าใช้จ่ายและขั้นตอนการรักษา
  8. การรีวิวและคำแนะนำ: การมีรีวิวที่ดีจากผู้ป่วยที่เคยใช้บริการเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกคลินิกที่ดีได้
  9. มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล คลินิกทำฟันที่ดีควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าคลินิกนั้นได้รับการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ

คลินิกทำฟันที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้

  • มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล คลินิกทำฟันที่ดีควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าคลินิกนั้นได้รับการตรวจสอบและรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ
  • มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คลินิกทำฟันที่ดีควรมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ในการรักษาฟันและช่องปาก สามารถให้คำแนะนำและรักษาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  • มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย คลินิกทำฟันที่ดีควรมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • มีบรรยากาศที่สะอาดและปลอดภัย คลินิกทำฟันที่ดีควรมีบรรยากาศที่สะอาดและปลอดภัย เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย
  • มีบริการที่ดี คลินิกทำฟันที่ดีควรมีบริการที่ดี เช่น การต้อนรับที่อบอุ่น การอธิบายรายละเอียดการรักษาให้คนไข้เข้าใจ เป็นต้น

นอกจากนี้ คนไข้ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ที่ตั้งของคลินิก การเดินทาง ความสะดวกในการให้บริการ เป็นต้น

เคล็ดลับในการเลือกคลินิกทำฟัน

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกทำฟันจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ รีวิวจากคนไข้ เป็นต้น
  • ปรึกษาเพื่อนหรือญาติที่เคยทำฟันกับคลินิกนั้นๆ
  • นัดหมายเพื่อปรึกษากับทันตแพทย์ก่อนตัดสินใจทำการรักษา

หากคนไข้เลือกคลินิกทำฟันที่ดี ก็จะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

การเลือกคลินิกทำฟันที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจและมั่นใจในการรักษาที่คุณได้รับครับ。

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ต่อเติมฟันบิ่น มีวิธีการอย่างไร

ต่อเติมฟันบิ่น มีวิธีการอย่างไร

การต่อเติมฟันบิ่นเป็นกระบวนการทันตกรรมที่ใช้สำหรับฟื้นฟูฟันที่เสียหาย อย่างเช่น ฟันที่บิ่นหรือแตก วิธีการนี้ช่วยให้ฟันกลับมามีรูปลักษณ์และการทำงานที่ดีขึ้น ต่อไปนี้คือขั้นตอนทั่วไปในการต่อเติมฟันบิ่น

  1. การประเมินสุขภาพฟัน:
    • ทันตแพทย์จะตรวจสอบฟันที่บิ่นเพื่อประเมินระดับความเสียหายและตัดสินใจว่าวิธีการใดที่เหมาะสมที่สุด
  2. การเตรียมพื้นที่:
    • ทันตแพทย์อาจทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและขจัดส่วนของฟันที่เสียหายออก
  3. การเลือกวัสดุต่อเติม:
    • วัสดุที่ใช้ในการต่อเติมอาจรวมถึงคอมโพสิตเรซิน ซึ่งสามารถจับตัวกับฟันได้ดีและมีสีที่คล้ายกับฟันธรรมชาติ
  4. การต่อเติม:
    • ทันตแพทย์จะใช้วัสดุต่อเติมเพื่อสร้างรูปทรงของฟันที่เสียหาย และปรับให้เข้ากับรูปลักษณ์และการทำงานของฟันที่ดี
  5. การกำจัดส่วนที่เกินและการขัดเงา:
    • หลังจากที่วัสดุต่อเติมถูกวางลงไปแล้ว ทันตแพทย์จะขจัดส่วนที่เกินและขัดเงาพื้นผิวให้เรียบเนียนและเข้ากับฟันที่อยู่รอบข้าง
  6. การตรวจสอบการกัด:
    • ทันตแพทย์จะตรวจสอบการกัดของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าการต่อเติมไม่มีผลกระทบต่อการกัดหรือการทำงานของปาก
  7. การติดตามผล:
    • หลังการต่อเติม คุณอาจต้องมีการนัดติดตามผลกับทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบการปรับตัวของฟันและวัสดุต่อเติม

การต่อเติมฟันบิ่นเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ และความสำเร็จของการรักษาขึ้นอยู่กับความเสียหายของฟันและวัสดุที่ใช้ หากคุณมีฟันบิ่นหรือแตก ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อให้ได้การรักษาที่เหมาะสมที่สุด.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ทันตกรรมเพื่อความงาม มีอะไรบ้าง

ทันตกรรมเพื่อความงาม มีอะไรบ้าง

ทันตกรรมเพื่อความงามหรือทันตกรรมคอสเมติกเป็นสาขาของทันตกรรมที่โฟกัสไปที่การปรับปรุงรูปลักษณ์ของฟันและรอยยิ้ม มีหลายวิธีการที่ใช้ในทันตกรรมเพื่อความงาม, รวมถึง:

  1. การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening): หนึ่งในวิธีที่เรียบง่ายและเป็นที่นิยมมากที่สุด ใช้สารเคมีเพื่อทำให้ฟันขาวขึ้นและลดคราบจากอาหาร, เครื่องดื่ม, หรือการสูบบุหรี่.
  2. วีเนียร์ (Veneers): วีเนียร์คือชั้นเคลือบทำจากเซรามิกหรือวัสดุคอมโพสิตที่ติดอยู่ที่ด้านหน้าของฟัน เพื่อปรับปรุงรูปร่าง, สี, ขนาด, หรือความยาวของฟัน.
  3. การติดเครื่องมือจัดฟัน: ใช้ในการแก้ไขการเรียงตัวของฟันและการกัดของฟันที่ไม่สมดุล มีหลายประเภท เช่น เครื่องมือจัดฟันแบบดั้งเดิมและแบบใส.
  4. ครอบฟัน (Crowns) และสะพานฟัน (Bridges): ครอบฟันใช้สำหรับครอบฟันที่แตกหรือเสียหาย ส่วนสะพานฟันเป็นการแทนที่ฟันที่ขาดหายไปโดยใช้ฟันที่อยู่ข้างเคียงเป็นฐาน.
  5. การอุดฟันสีฟัน (Tooth-Colored Fillings): มีวัสดุอุดที่มีสีคล้ายฟันธรรมชาติ, ต่างจากอมัลกัมสีเงินที่ใช้ในอดีต.
  6. การปรับแต่งรูปร่างฟัน (Dental Contouring and Reshaping): ปรับรูปร่างฟันที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอหรือเสียรูป เช่น ฟันที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่สมดุล.
  7. ทันตกรรมกระดูก (Dental Implants): สำหรับแทนที่ฟันที่หายไปโดยการใช้กระดูกเทียมที่ฝังไว้ในกระดูกขากรรไกร.
  8. การทำฟันปลอม (Dentures): ทั้งฟันปลอมเต็มปากหรือฟันปลอมบางส่วนเพื่อแทนที่ฟันที่หายไป.
  9. การทำอินเลย์และออนเลย์ (Inlays and Onlays): เป็นการอุดหรือซ่อมแซมฟันที่เสียหายแบบไม่สัมผัสกับขอบฟันหรือครอบคลุมฟันทั้งหมด.

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการทันตกรรมเพื่อความงามอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การเคลือบผิวฟันด้วยเซรามิก การปิดช่องว่างระหว่างฟันด้วยวัสดุอุดฟัน การศัลยกรรมเหงือก เป็นต้น

การเลือกวิธีการทันตกรรมเพื่อความงามขึ้นอยู่กับความต้องการและคำแนะนำของทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขานี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเข้าใจขั้นตอน, ค่าใช้จ่าย, และการดูแลหลังการรักษาที่อาจเกิดขึ้น.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

อาการแบบไหนที่ควรรีบไปพบหมอฟัน

อาการแบบไหนที่ควรรีบไปพบหมอฟัน

อาการแบบไหนที่ควรรีบไปพบหมอฟัน
1.สังเกตลักษณะฟันว่ามีความผิดปกติ เช่น ฟันเริ่มมีรูสีดำๆ มีคราบหินปูนเกาะหนาตัว
2.หลังแปรงฟันเเล้วเริ่มมีเลือดออกตามไรฟัน
3.เริ่มมีอาการปวดฟัน หรือเสียวฟัน
4.เริ่มมีกลิ่นปาก
5.ฟันเริ่มโยก หรือมีโพรงที่เห็นได้

นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ที่ควรไปพบหมอฟัน เช่น

  • ฟันแตกหรือหัก
  • ฟันหลุด
  • เหงือกบวมแดง
  • รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองในปาก
  • มีแผลในปาก
  • รู้สึกเจ็บเมื่อเคี้ยวหรือกลืน
  • รู้สึกเจ็บเมื่อเปิดปาก

โดยทั่วไปแล้ว ควรไปพบหมอฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรไปพบหมอฟันทันที เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น

สำหรับเด็ก ควรพาไปพบหมอฟันตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ และป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ใส่ฟันปลอม มีกี่แบบ

ใส่ฟันปลอม มีกี่แบบ

การใส่ฟันปลอม (Dentures) เป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่ใช้ในการแทนที่ฟันที่สูญหายบางหรือทั้งหมด ฟันปลอมสามารถใส่ได้ในกรณีที่ผู้ที่สูญเสียฟันมีเหงือกและกระดูกที่เหมาะสมสำหรับการรักษาฟันปลอมอยู่ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของฟันปลอมอื่นๆ เช่น ฟันปลอมแบบแตะ (Partial Dentures) ที่ใส่เพียงบางส่วนของช่องคลองฟันที่สูญหายเท่านั้น หรือฟันปลอมแบบติดตั้ง (Fixed Dentures) ที่ใส่ถาวรและยึดติดกับเหงือกหรือกระดูกด้วยวิธีต่างๆ เช่น ฟันปลอมแบบสปริง (Dental Bridges) หรือฟันปลอมแบบประแวก (Dental Implants).

ข้อดีของการใส่ฟันปลอมได้แก่:

  1. ฟื้นฟูความสมดุลของกระบวนการย่อยอาหาร: ฟันปลอมช่วยในการเลื่อนอาหารให้ถูกตำแหน่งและช่วยในกระบวนการย่อยอาหารที่ดีมากขึ้น.
  2. ปรับปรุงการพูดและการกลืน: ฟันปลอมช่วยในการปรับปรุงการออกเสียงและการกลืนอาหารให้เกิดอย่างถูกต้องและสะดวกสบาย.
  3. สวยงามและเพิ่มความมั่นใจ: ฟันปลอมสามารถช่วยฟื้นฟูรูปร่างของหน้าผากและรอยยิ้ม ทำให้คุณมีความมั่นใจในการแสดงออกและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น.

ข้อเสียของการใส่ฟันปลอมได้แก่:

  1. ความไม่สะดวกในระยะต้นและการปรับตัว: ในระยะแรกของการใส่ฟันปลอมอาจมีความไม่สะดวกและความผิดปกติในการเคลื่อนไหวของลิ้น แต่ส่วนใหญ่จะปรับตัวและปรับใช้ได้ในไม่ช้า.
  2. ความต้องการการดูแลและการปรับปรุง: ฟันปลอมต้องการการดูแลและการปรับปรุงเป็นประจำ เช่น การทำความสะอาดและการเปลี่ยนฟันปลอมเมื่อจำเป็น.
  3. การจำกัดในการรับประทานอาหาร: บางรูปแบบของฟันปลอมอาจจำกัดการรับประทานอาหารที่มีความแข็งหรือหยาบคาย เนื่องจากอาจทำให้ฟันปลอมเสียหายหรือแตกได้.
  4. ความผิดปกติในรูปร่างของลำคอ: ในบางกรณีฟันปลอมอาจมีผลต่อรูปร่างของลำคอและการคาดเสื้อผ้า.

หากคุณสนใจใส่ฟันปลอม ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการตรวจสอบความเหมาะสมสำหรับกรณีของคุณ ทันตแพทย์จะสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมและแนะนำวิธีการดูแลฟันปลอมให้ถูกต้องและรักษาให้ยาวนานได้.

ฟันปลอม มีกี่แบบ

ฟันปลอมมีหลายแบบและรูปแบบที่สามารถใช้ได้ ต่อไปนี้คือแบบฟันปลอมที่พบบ่อยที่สุด:

  1. ฟันปลอมแบบแตะ (Partial Dentures): แบบนี้ใช้เมื่อผู้สูญเสียฟันบางอันเท่านั้น ฟันปลอมแบบแตะจะถูกติดไว้กับฟันเดิมที่เหลืออยู่ โดยใช้โครงสร้างหรือคลิปที่ใส่เข้าไปในช่องคลองฟัน.
  2. ฟันปลอมแบบเคลือบ (Overdentures): ฟันปลอมแบบเคลือบใช้สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันหลายอัน มีโครงสร้างรองรับฟันปลอมที่ติดตั้งลงบนเหงือกหรือฟันเดิมที่เหลืออยู่.
  3. ฟันปลอมแบบทั่วไป (Complete Dentures): ฟันปลอมแบบทั่วไปใช้สำหรับผู้ที่สูญเสียทุกฟันในช่องปาก มีฟันปลอมที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบริเวณในช่องปาก ฟันปลอมแบบทั่วไปสามารถถอดได้และใส่กลับเข้าไปในช่องปากได้.
  4. ฟันปลอมแบบติดตั้ง (Fixed Dentures): ฟันปลอมแบบติดตั้งเป็นการใช้เกร็ดฟันปลอมและโครงสร้างที่ติดตั้งถาวรบนเหงือกหรือกระดูก. รูปแบบเช่นฟันปลอมแบบสปริง (Dental Bridges) และฟันปลอมแบบประแวก (Dental Implants) เป็นตัวอย่างของฟันปลอมแบบติดตั้ง.

การเลือกใช้แบบฟันปลอมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับจำนวนและตำแหน่งของฟันที่สูญหาย ความสมบูรณ์ของโครงสร้างทางรองรับ และความต้องการและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ. ควรพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและตรวจสอบความเหมาะสมสำหรับคุณในการใส่ฟันปลอม.

ใส่ฟันปลอมถาวรดีอย่างไร

การใส่ฟันปลอมถาวรที่ดีอย่างไรขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ต่อไปนี้คือสิ่งที่สำคัญในการใส่ฟันปลอมถาวรที่ดี:

  1. ความพร้อมและการประเมินฟันและเหงือก: ทันตแพทย์จะตรวจสอบฟันและเหงือกของคุณเพื่อประเมินสภาพและความเหมาะสมในการใส่ฟันปลอมถาวร. การรักษาฟันและเหงือกให้เหมาะสมก่อนการใส่ฟันปลอมถาวรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีฐานรองรับที่ดี.
  2. การวางแผนการรักษา: ทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับคุณ การวางแผนอาจรวมถึงการเลือกวัสดุที่เหมาะสมและการออกแบบฟันปลอมที่ตรงกับรูปร่างและสีของฟันแท้ของคุณ.
  3. การทดลองฟันปลอม: ก่อนที่จะทำฟันปลอมถาวร ทันตแพทย์อาจทำการทดลองฟันปลอมชั่วคราวเพื่อตรวจสอบรูปร่างและรู้สึกว่าถูกต้องและสบายกับฟันปลอมนั้นหรือไม่.
  4. การตรวจสอบและปรับแต่ง: หลังจากการใส่ฟันปลอมถาวร ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบและปรับแต่งฟันปลอมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และเหมาะสม. การปรับแต่งสามารถรวมถึงปรับรูปร่างฟันปลอมและการปรับสีเพื่อให้สอดคล้องกับฟันแท้ของคุณ.
  5. การดูแลและบำรุงฟันปลอม: ความสำเร็จในการใส่ฟันปลอมถาวรขึ้นอยู่กับการดูแลและบำรุงอย่างสม่ำเสมอ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจากทันตแพทย์เกี่ยวกับการแปรงฟันปลอมและการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง.

การใส่ฟันปลอมถาวรที่ดีต้องการความชำนาญและความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ คุณควรปรึกษาและพบทันตแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

เครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟัน

เครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟันดีหรือไม่

เครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟันหรือที่เรียกว่าไหมขัดฟันมีประโยชน์หลายอย่างในการรักษาสุขภาพช่องปาก สิทธิประโยชน์เหล่านี้รวมถึง:

การทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ: การใช้ไหมขัดฟันแบบน้ำสามารถช่วยขจัดคราบพลัคและเศษอาหารจากซอกฟันและใต้ขอบเหงือก ซึ่งการใช้ไหมขัดฟันแบบดั้งเดิมอาจเข้าถึงได้ยาก สิ่งนี้สามารถลดความเสี่ยงของฟันผุและโรคเหงือก

สุขภาพเหงือก: เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจากเครื่องฉีดน้ำสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเหงือก ส่งเสริมสุขภาพเหงือกให้ดีขึ้นและป้องกันโรคเหงือก เช่น โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบ

เหล็กดัดฟันและงานทันตกรรม: ไหมขัดฟันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใส่เหล็กดัดฟันหรืองานทันตกรรมอื่นๆ เช่น สะพานฟันหรือรากฟันเทียม สามารถทำความสะอาดรอบๆ เหล็กจัดฟัน สายไฟ และอุปกรณ์ทันตกรรมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยรักษาสุขอนามัยช่องปากระหว่างการจัดฟัน

ใช้งานง่าย: ไหมขัดฟันแบบน้ำใช้งานง่าย ทำให้เข้าถึงได้สำหรับผู้ที่มีความคล่องแคล่วจำกัดหรือผู้ที่มีปัญหาในการใช้ไหมขัดฟันแบบดั้งเดิม ความสะดวกในการใช้งานนี้สามารถกระตุ้นให้ใช้ไหมขัดฟันได้สม่ำเสมอมากขึ้นและปรับปรุงสุขอนามัยช่องปาก

ลดการอักเสบ: การใช้ flosser น้ำเป็นประจำสามารถช่วยลดการอักเสบในเหงือกได้ ซึ่งส่งผลให้สุขภาพปากโดยรวมดีขึ้น

อ่อนโยนต่อเหงือกและฟันที่บอบบาง: สามารถปรับแรงดันน้ำได้ในไหมขัดฟันส่วนใหญ่ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟันหรือเหงือก ละอองน้ำที่อ่อนโยนสามารถทำความสะอาดได้โดยไม่ทำให้รู้สึกไม่สบาย

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ไหมขัดฟันแบบใช้น้ำใช้ซ้ำได้และไม่ก่อให้เกิดขยะเหมือนไหมขัดฟันแบบใช้แล้วทิ้ง

ประโยชน์ของเครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟัน

เครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟันหรือที่เรียกว่าไหมขัดฟันมีประโยชน์หลายอย่างในการรักษาสุขภาพช่องปาก สิทธิประโยชน์เหล่านี้รวมถึง:

การทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ: การใช้ไหมขัดฟันแบบน้ำสามารถช่วยขจัดคราบพลัคและเศษอาหารจากซอกฟันและใต้ขอบเหงือก ซึ่งการใช้ไหมขัดฟันแบบดั้งเดิมอาจเข้าถึงได้ยาก สิ่งนี้สามารถลดความเสี่ยงของฟันผุและโรคเหงือก

สุขภาพเหงือก: เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจากเครื่องฉีดน้ำสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเหงือก ส่งเสริมสุขภาพเหงือกให้ดีขึ้นและป้องกันโรคเหงือก เช่น โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบ

เหล็กดัดฟันและงานทันตกรรม: ไหมขัดฟันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใส่เหล็กดัดฟันหรืองานทันตกรรมอื่นๆ เช่น สะพานฟันหรือรากฟันเทียม สามารถทำความสะอาดรอบๆ เหล็กจัดฟัน สายไฟ และอุปกรณ์ทันตกรรมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยรักษาสุขอนามัยช่องปากระหว่างการจัดฟัน

ใช้งานง่าย: ไหมขัดฟันแบบน้ำใช้งานง่าย ทำให้เข้าถึงได้สำหรับผู้ที่มีความคล่องแคล่วจำกัดหรือผู้ที่มีปัญหาในการใช้ไหมขัดฟันแบบดั้งเดิม ความสะดวกในการใช้งานนี้สามารถกระตุ้นให้ใช้ไหมขัดฟันได้สม่ำเสมอมากขึ้นและปรับปรุงสุขอนามัยช่องปาก

ลดการอักเสบ: การใช้ flosser น้ำเป็นประจำสามารถช่วยลดการอักเสบในเหงือกได้ ซึ่งส่งผลให้สุขภาพปากโดยรวมดีขึ้น

อ่อนโยนต่อเหงือกและฟันที่บอบบาง: สามารถปรับแรงดันน้ำได้ในไหมขัดฟันส่วนใหญ่ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟันหรือเหงือก ละอองน้ำที่อ่อนโยนสามารถทำความสะอาดได้โดยไม่ทำให้รู้สึกไม่สบาย

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ไหมขัดฟันแบบใช้น้ำใช้ซ้ำได้และไม่ก่อให้เกิดขยะเหมือนไหมขัดฟันแบบใช้แล้วทิ้ง

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม