การดูแลตัวเองหลังรากฟันเทียม รู้ให้ครบ ฟื้นตัวไว ใช้งานได้ยาวนาน
เมื่อคุณตัดสินใจลงทุนทำ รากฟันเทียม (Dental Implant) เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปแล้ว ขั้นตอนสำคัญไม่ได้จบแค่หลังผ่าตัดหรือใส่ครอบฟันเสร็จเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ
“การดูแลตัวเองหลังรากฟันเทียม” เพื่อให้แผลหายดี ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และอยู่กับเราไปได้นานนับสิบปี
หลายคนมักละเลยขั้นตอนหลังทำ หรือไม่รู้ว่าจะต้องระวังอะไรบ้าง บางรายกลับมาพบแพทย์อีกทีเมื่อเกิดอาการอักเสบหรือรากหลวมไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการดูแลที่ถูกวิธี
บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับวิธีดูแลตัวเองแบบครบทุกมิติ ตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด ไปจนถึงการดูแลระยะยาว พร้อมเทคนิคเล็ก ๆ ที่ช่วยให้การใส่รากฟันเทียมของคุณ “คุ้มค่าทุกบาท” และอยู่ได้นานที่สุด
📌 ทำความเข้าใจก่อน: รากฟันเทียมคืออะไร?
รากฟันเทียม คือวัสดุที่ทำจากไทเทเนียม มีลักษณะคล้ายสกรูขนาดเล็ก ซึ่งฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป จากนั้นจึงต่อด้วยเดือยฟันและครอบฟันด้านบน
ข้อดีของรากฟันเทียมคือ แข็งแรงเหมือนฟันจริง ไม่ต้องพึ่งฟันข้างเคียง และดูสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่การจะคงคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ได้ ต้องอาศัย “การดูแล” ที่สม่ำเสมอ
🦷 ขั้นตอนการฟื้นตัวหลังผ่าตัดรากฟันเทียม
หลังจากผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะให้คุณพักฟื้นเพื่อรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก ซึ่งใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2-6 เดือน แล้วจึงใส่ครอบฟันในขั้นตอนสุดท้าย
ช่วงเวลานี้คือ “หัวใจสำคัญ” ที่จะตัดสินว่ารากฟันเทียมจะติดแน่น หรือหลวมจนต้องถอดออกและทำใหม่
✅ การดูแลตัวเองหลังรากฟันเทียมในช่วง 7 วันแรก
1. หยุดใช้บริเวณที่ทำรากฟัน
หลังผ่าตัด 1-2 วันแรก หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารฝั่งที่ฝังรากเด็ดขาด เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน
2. ประคบเย็น
หากมีอาการบวม ให้ประคบเย็นที่บริเวณแก้มด้านนอกครั้งละ 15 นาที ช่วยลดอาการบวมและอักเสบ
3. รับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ และยาบรรเทาอาการปวด หากลืมหรือหยุดยาเอง อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
4. งดการแปรงฟันบริเวณแผล
ให้ใช้การบ้วนปากเบา ๆ ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์ให้แทนในช่วง 1-3 วันแรก
5. หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด / แข็ง / เหนียว
แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม นม ถั่วบด ฯลฯ จนกว่าแผลจะเริ่มสมานตัว
🧼 การดูแลช่องปากอย่างถูกวิธีหลังทำรากฟันเทียม
🔹 1. แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยแปรงขนนุ่ม
หลังแผลหายแล้ว สามารถกลับมาแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ควรใช้แปรงขนนุ่ม และระวังอย่าให้โดนรากฟันแรงเกินไป
🔹 2. ใช้ไหมขัดฟันและแปรงซอกฟัน
เพราะคราบจุลินทรีย์ที่ซ่อนอยู่ตามร่องเหงือกและฟันปลอม เป็นสาเหตุหลักของการอักเสบ
🔹 3. พบทันตแพทย์เพื่อตรวจทุก 6 เดือน
แม้จะไม่มีอาการอะไร ก็ควรให้หมอตรวจดูว่าเหงือกรอบ ๆ รากฟันยังแข็งแรงหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาลุกลาม
🛑 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังใส่รากฟันเทียม
สิ่งที่ควรเลี่ยง | เหตุผล |
สูบบุหรี่ | ชะลอการสมานแผล และเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อ |
ดื่มแอลกอฮอล์ | รบกวนกระบวนการหายของแผล |
เคี้ยวน้ำแข็ง / ขนมกรอบแข็ง ๆ | เสี่ยงทำให้รากเทียมหลุดหรือครอบฟันแตก |
ใช้ฟันเปิดขวด / กัดของแข็ง | เพิ่มแรงกระแทกโดยไม่จำเป็น |
💡 เคล็ดลับดูแลรากฟันเทียมให้ใช้งานได้นานเป็นสิบปี
1. ใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์
- น้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์อาจทำให้ช่องปากแห้ง และส่งผลต่อเหงือกที่อยู่รอบรากฟันเทียม แนะนำให้เลือกสูตรอ่อนโยนที่ช่วยลดแบคทีเรียแต่ไม่ระคายเคือง
- 2. เปลี่ยนหัวแปรงสีฟันทุก 3 เดือน
- เพื่อให้ขนแปรงไม่สึกและยังทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณคอฟันและขอบเหงือกรอบรากฟันเทียม ซึ่งเป็นจุดสะสมของคราบจุลินทรีย์ได้ง่าย
- 3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมกัดฟันขณะนอน
- การกัดฟันหรือบดฟันตอนกลางคืนสามารถเพิ่มแรงกดบนรากฟันเทียม ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างรอบรากเกิดความเสียหาย หากมีพฤติกรรมนี้ควรใส่เฝือกสบฟัน (night guard) เพื่อป้องกันแรงกระแทก
- 4. หมั่นพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและทำความสะอาดลึกเป็นประจำ
- โดยทั่วไปแนะนำให้พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อขูดหินปูนและพ่นทำความสะอาดด้วยเครื่อง airflow ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยขจัดคราบพลัค (plaque) และคราบโปรตีนที่เกาะรอบรากเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของโรคเหงือกรอบรากฟันเทียม งานวิจัยหลายฉบับยืนยันว่าการพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอช่วยยืดอายุของรากฟันเทียมได้จริง
- 5. อย่าละเลยฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงรากฟันเทียม
- สุขภาพของฟันข้างเคียงมีผลต่อรากฟันเทียมโดยตรง หากเกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือมีการสะสมของแบคทีเรียบริเวณใกล้เคียง อาจลุกลามไปยังรากเทียมได้ง่าย เพราะเชื้อโรคสามารถเดินทางผ่านเหงือกและเนื้อเยื่อรอบๆ ได้
- สรุปสั้นๆ:
- รากฟันเทียมไม่ใช่แค่ “ใส่แล้วจบ” แต่ต้องมีวินัยในการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำความสะอาดที่บ้านและการดูแลโดยทันตแพทย์ หากดูแลอย่างถูกวิธี ก็สามารถใช้งานได้นานหลายสิบปีอย่างมั่นใจ
🩺 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
หลังฝังรากฟันเทียม หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน:
- มีเลือดออกซ้ำ ๆ หลังผ่านไปหลายวัน
- ปวดรุนแรงที่ไม่หายแม้กินยา
- มีกลิ่นปากหรือหนองออกจากแผล
- ครอบฟันหลุดหรือโยก
- เหงือกร่นจนเห็นรากเทียม
ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากตรวจพบเร็ว
📣 สรุป: รากฟันเทียมจะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลของเรา
การดูแลตัวเองหลังรากฟันเทียมไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ให้ความใส่ใจในช่วงเวลาพักฟื้น และรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว คุณก็จะสามารถใช้งานรากฟันเทียมได้เหมือนฟันธรรมชาติ ไม่มีปัญหาเจ็บ เหงือกอักเสบ หรือครอบฟันหลุดมากวนใจ
“ดูแลให้ดีตั้งแต่ต้น แล้วรากฟันเทียมจะตอบแทนคุณด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจทุกวัน”
สอบถามเพิ่มเติมและรากฟันเทียม
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)
#ทันตกรรม #รากฟันเทียม #คลินิกทันตกรรม