การใช้ฟลูออไรด์

การใช้ฟลูออไรด์

ฟลูออไรด์ (fluoride) เป็นธาตุที่มีในธรรมชาติ พบอยู่ในหินและแร่ต่าง ๆ รวมถึงน้ำธรรมชาติ ฟลูออไรด์มีคุณสมบัติที่สำคัญในด้านสุขภาพทันตกรรม โดยเฉพาะในการป้องกันการเสื่อมของฟัน ซึ่งนำไปสู่ความแข็งแรงของเอนาเมลฟัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคปริทันต์และลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก

ฟลูออไรด์มีหลายชนิด ได้แก่:

  1. โซเดียมฟลูออไรด์ (sodium fluoride) เป็นประเภทของฟลูออไรด์ที่พบในยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์เสริม
  2. แคลเซียมฟลูออไรด์ (calcium fluoride) พบในหินและแร่ต่าง ๆ รวมถึงน้ำธรรมชาติ
  3. สแตนเนียมฟลูออไรด์ (stannous fluoride) เป็นประเภทของฟลูออไรด์ที่มีผลต่อการต้านเชื้อแบคทีเรีย

การใช้ฟลูออไรด์มีหลายวิธี เช่น การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ การทาเจลฟลูออไรด์ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ การใช้คราบฟลูออไรด์ที่ทำโดยทันตแพทย์ และการดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์เสริม

การใช้ฟลูออไรด์สำหรับเด็ก

การใช้ฟลูออไรด์สำหรับเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก การใช้ฟลูออไรด์ถูกต้องสามารถช่วยป้องกันการเสื่อมของฟันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคปริทันต์ แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการกลืนฟลูออไรด์เกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง วิธีการใช้ฟลูออไรด์สำหรับเด็กมีดังนี้:

  1. การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์: ขณะที่เด็กยังเล็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ) ควรใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในปริมาณน้อย (น้อยกว่า 1000 ppm) โดยใช้ปริมาณเล็กน้อยเท่าของเมล็ดงา สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี ให้ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ประมาณ 1000-1450 ppm โดยใช้ปริมาณเท่าของกลีบข้าว และสำหรับเด็กที่เล็กกว่า 2 ขวบ ควรปรึกษากับทันตแพทย์ก่อนใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
  2. การไปพบทันตแพทย์: เด็กควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ ทันตแพทย์อาจจะแนะนำการทาเจลฟลูออไรด์ หรือทำคราบฟลูออไรด์ให้เด็กตามความเหมาะสม
  3. สอนเด็กสีฟันอย่างถูกต้อง: สอนเด็กให้สีฟันอย่างถูกต้องและอย่าให้กลืนยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
  4. พบทันตแพทย์เป็นประจำ: ควรพบทันตแพทย์อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปี เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและปรับปรุงการดูแลตามคำแนะนำของทันตแพทย์
  5. คราบฟลูออไรด์: ทันตแพทย์อาจแนะนำการทำคราบฟลูออไรด์สำหรับเด็ก
  6. ในเชิงป้องกัน: ฟลูออไรด์ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก และช่วยให้เอนาเมลฟันแข็งแรงขึ้น ทำให้ฟันทนต่อกรดที่สามารถก่อให้เกิดการเสื่อมของฟัน
  7. ในเชิงการรักษา: ฟลูออไรด์ช่วยซ่อมแซมเอนาเมลฟันที่เสียหายจากกรดและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการเกิดการผุของฟันในระยะยาว

การใช้ฟลูออไรด์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสื่อมของฟันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคปริทันต์ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ฟลูออไรด์อย่างถูกต้องและปลอดภัย

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ฟันตกกระ คืออะไร

ฟันตกกระ คืออะไร รักษาได้ไหม

ฟันตกกระ คืออะไร รักษาได้ไหม

ใคร ๆ ก็อยากจะมีฟันที่มีสีขาวและสวยงามด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็จะมีฟันที่แข็งแรงและสีที่แตกต่างกันออกไปตามเหตุปัจจัยที่ต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว สีของฟันจะไม่ได้ขาวมาก แต่จะเป็นสีขาวออกเหลืองไปจนถึงเหลืองอ่อน ในบางคนอาจจะพบว่าฟันมีลักษณะผิวไม่เรียบ มีรูพรุน หรือมีสีที่คล้ำ โดยไม่เกี่ยวกับการทำความสะอาด ลักษณะดังกล่าวเราเรียกว่า “ฟันตกกระ”

ฟันตกกระคืออะไร

ฟันตกกระ คือฟันที่ได้รับปริมาณฟลูออไรด์มากเกินไป  โดยส่วนใหญ่เป็นการที่ได้รับสะสมตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อฟลูออไรด์เข้าสู่กระแสเลือดจะเข้าไปขัดขวางการสร้างชั้นเคลือบฟัน ซึ่งหากการสร้างเคลือบฟันมีการหยุดไปในระยะเวลานาน จะทำให้ผิวเคลือบฟันมีรูพรุนและมีสีขาวขุ่น สีเหลืองออกน้ำตาล หรือน้ำตาลเข้ม ขึ้นอยู่กับความรุนแรง พูดง่าย ๆ ก็คือฟันตกกระเป็นลักษณะของสีผิวฟันที่เปลี่ยนแปลงไปจากสีฟันธรรมชาตินั่นเอง และเป็นช่วงที่ฟันของเรามีความอ่อนแอมาก ๆ ด้วยค่ะ

รับฟลูออไรด์มากไปส่งผลเสียอย่างไร

เราอาจจะเคยได้ยินมาว่าฟลูออไรด์ทำให้ฟันแข็งแรง แน่นอนว่านั่นคือเรื่องจริง แต่เรื่องจริงอีกอย่างก็คือหากฟันของเราได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป ก็สามารถเกิดผลเสียกับฟันของเราได้เช่นกันค่ะ เพราะผิวฟันจะมีการสะสมของเกลือแร่ผิดปกติ ทำให้ฟันมีรอยด่าง ดังนั้นเราจึงควรใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากโดยมีส่วนผสมของฟลูออไรด์มากจนเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวร่วมกัน เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก หรือหมากฝรั่ง ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ฟันตกกระได้อีกด้วย

รู้หรือไม่ว่าฟันตกกระสามารถเกิดจากน้ำประปาได้

มีรายงานพบว่า ในหมู่บ้านบางพื้นที่ของประเทศไทย ที่ชาวบ้านใช้น้ำปะปาที่มีฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นสูงเกิน 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่กำหนด โทษของฟลูออไรด์ที่มากเกินไป อย่างที่กล่าวไปตอนต้นจะทำให้ฟันสร้างตัวเองไม่สมบูรณ์

นอกจากนี้ เรายังสามารถพบฟลูออไรด์ตามแหล่งธรรมชาติได้อีกด้วย เช่น ดิน หิน น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นภูเขา มีบ่อน้ำพุร้อน พวกน้ำบาดาลจะมีฟลูออไรด์เยอะมาก เยอะกว่าแหล่งน้ำตามธรรมชาติ

วิธีป้องกันฟันตกกระ

หากผิวหน้าของเราสามารถป้องกันฝ้ากระได้ ฟันของเราก็สามารถป้องกันการตกกระได้เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • รับประทานอาหาร เครื่องดื่มที่มีแคลเซียม เช่น นมหรือปลาเล็กปลาน้อย เนื่องจากแคลเซียมจะเข้าไปปรับสมดุลกับฟลูออไรด์ที่อยู่ในร่างกาย
  • ดื่มน้ำต้มสุกหรือผ่านเครื่องกรองน้ำ เนื่องจากน้ำอาจมีส่วนผสมของฟลูออไรด์มากในระดับหนึ่ง การต้มน้ำหรือกรองน้ำจะช่วยลดปริมาณของฟลูออไรด์ได้
  • ไม่ควรแปรงฟันบ่อยหรือใช้น้ำยาบ้วนปากต่อ 1 วัน บ่อยจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ร่างกายรับปริมาณฟลูออไรด์มากเกินไป

วิธีการรักษาฟันตกกระ

สำหรับการรักษาฟันตกกระนั้น จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งวิธีการรักษาทำได้ดังนี้

  • หากอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงมาก อาจแก้ไขด้วยวิธีตกแต่งผิวฟันใหม่ หรือใช้วิธีการกรอหน้าฟันออก แต่วิธีนี้อาจจะส่งผลกระทบอย่างอาการเสียวฟันตามมาได้ เนื่องจากชั้นเคลือบฟันได้ถูกกรอไปให้บางลง หรืออีกวิธีหนึ่งคือการฟอกสีฟันเพื่อให้ความสวยงามของฟันกลับมาเป็นธรรมชาติ
  • หากอยู่ในระดับที่รุนแรงมาก เนื่องจากสีของผิวฟันได้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนสีไปมากแล้ว หากสุขภาพโดยรวมของฟันยังมีสุขภาพดีอยู่ ทันตแพทย์อาจจะใช้วิธีรักษาด้วยการทำวีเนียร์ หรือวัสดุแปะฟัน

ทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าฟันตกกระคืออะไร และฟลูออไรด์ที่มากไปจะส่งผลเสียต่อฟันเราอย่างไร ต่อไปเราก็ควรดูแลรักษาฟันให้สะอาด พร้อมใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมก็เพียงพอต่อการป้องกันโรคทางช่องปากได้แล้วค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายฟอกสีฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ฟันขาว #ฟอกสีฟัน #เคลือบฟลูออไรด์