ฟันเป็นรู คืออะไร

ฟันเป็นรู คืออะไร

ฟันเป็นรูเป็นสภาพที่มีการสูญเสียของเนื้อฟันที่เกิดจากภาวะผิดปกติทางทันตกรรมที่เรียกว่าฟันผุ. ฟันผุส่วนใหญ่เกิดจากกรดที่ผลิตขึ้นโดยแบคทีเรียในปากจากการย่อยโมเลกุลของน้ำตาลจากอาหารที่เราทาน.

เมื่อรูในฟันเริ่มแสดงอาการ, คุณอาจจะรู้สึกคัน หรืออาจมีอาการปวดฟันเมื่อรับประทานอาหารร้อนหรือเย็น, หรือเมื่อกินขนมหวาน. ถ้าไม่ได้รับการรักษา, การผุของฟันสามารถทำให้ฟันเสียหายไปจนถึงเนื้อฟันภายใน (เรียกว่าเยื่อประสาทฟัน) และอาจส่งผลทำให้ต้องทำการรักษารากฟัน หรือในกรณีที่รุนแรงอาจต้องถอนฟัน.

ถ้าคุณสงสัยว่าฟันของคุณเป็นรู, ควรติดต่อทันตแพทย์ในทันทีเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม. ป้องกันฟันผุโดยการล้างปากและแปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง, การใช้ด้ายเช็ดฟันทุกวัน, และการตรวจสุขภาพฟันอย่างประจำทุกหกเดือนเป็นทางที่ดีที่สุดในการป้องกันฟันผุ.

ฟันเป็นรู รักษาอย่างไรได้บ้าง

การรักษาฟันผุขึ้นอยู่กับสภาพและความรุนแรงของการผุ. ดังนั้น, การวินิจฉัยจากทันตแพทย์จำเป็นอย่างยิ่ง. ทว่า, มีวิธีการรักษาทั่วไปดังนี้:

  1. การอุดฟัน: การอุดเป็นวิธีการรักษาที่ทันตแพทย์นิยมใช้ในการรักษาฟันผุที่ไม่รุนแรงมาก. ทันตแพทย์จะลบส่วนของฟันที่ผุแล้วออก และแทนที่ด้วยวัสดุอุดฟัน เช่น สังกะสี, ทองเหลือง, หรือเรซิ่นที่สามารถผสมกับสีฟันได้.
  2. ครอบฟันหรือสร้างฟันปลอม: ถ้าฟันผุมากจนฟันจะหักหรือแตก, ทันตแพทย์อาจจะต้องครอบฟัน (crown) หรือใช้ฟันปลอม.
  3. การรักษารากฟัน: ถ้าฟันผุเข้าถึงเยื่อประสาทฟันภายใน, ทันตแพทย์อาจต้องทำการรักษารากฟัน. ในกระบวนการนี้, ทันตแพทย์จะเอาเยื่อประสาทและเนื้อฟันออก, ทำความสะอาดและทำการอุดฟัน, แล้วทำการครอบฟัน.
  4. ถอนฟัน: ถ้าฟันผุมากจนไม่สามารถฟื้นฟูได้, การถอนฟันอาจจำเป็น. หลังจากถอนฟันแล้ว, ทันตแพทย์อาจแนะนำการใส่ฟันปลอม, ชิ้นส่วนฟันปลอม, หรือฟันปลอมเพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการถอนฟัน.

ควรจำไว้ว่าการป้องกันฟันผุโดยการดูแลความสะอาดของปากและฟันสม่ำเสมอ และไปตรวจฟันอย่างประจำทุก 6 เดือนคือทางเลือกที่ดีที่สุดในการป้องกันฟันผุ.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม #ฟันเป็นรู

root canal treatment

รักษารากฟัน อ่านก่อนเข้ารักษารากฟัน


การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) เป็นวิธีการรักษาที่ทำเมื่อเนื้อฟันภายใน (ที่เรียกว่า “รากฟัน” หรือ “pulp”) ติดเชื้อหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ กระบวนการนี้มักจำเป็นเมื่อฟันผุเข้าถึงระดับที่ลึกเกินไปจนถึงรากฟัน

ขั้นตอนการรักษารากฟันอย่างง่าย ดังนี้:

  1. ทันตแพทย์จะทำการชาฟันของคุณ แล้วทำความสะอาดและทำให้สภาพฟันเตรียมพร้อมสำหรับการรักษา
  2. หลังจากนั้นทันตแพทย์จะเจาะฟันเพื่อเข้าถึงรากฟัน ทันตแพทย์จะนำเอาเนื้อฟันและแบคทีเรียที่ติดเชื้อออกมา
  3. รากฟันที่ถูกทำความสะอาดจะถูกเติมด้วยวัสดุอุดฟันพิเศษที่เรียกว่า gutta-percha
  4. ทันตแพทย์จะอุดทางเข้าสู่รากฟันด้วยวัสดุอุดฟัน และอาจจะต้องใช้การครอบฟัน (crown) ในกรณีที่ฟันเสื่อมสภาพมาก

การรักษารากฟันสามารถทำได้ในครั้งเดียวหรือหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพและระดับความรุนแรงของการติดเชื้อภายในฟัน การรักษารากฟันจะช่วยฟื้นฟูฟันที่เสียหายจากการผุ หยุดการติดเชื้อ และป้องกันการติดเชื้อแพร่กระจายไปยังฟันหรือกระดูกอื่น

ขั้นตอนการรักษารากฟัน

การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) เป็นกระบวนการที่ทำเมื่อเนื้อฟันภายใน (ที่เรียกว่า “รากฟัน” หรือ “pulp”) ติดเชื้อหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ กระบวนการนี้มักจำเป็นเมื่อฟันผุเข้าถึงระดับที่ลึกเกินไปจนถึงรากฟัน

ขั้นตอนการรักษารากฟันอย่างละเอียด ดังนี้:

  1. ฉันฟัน: ทันตแพทย์จะใช้ยาชาท้องถิ่นเพื่อลดความรู้สึกในระหว่างการรักษา
  2. สร้างทางเข้าสู่รากฟัน: ทันตแพทย์จะเจาะทางเข้าสู่รากฟันผ่านส่วนที่เรียกว่า “crown” หรือส่วนบนของฟัน
  3. นำเอาเนื้อฟันและแบคทีเรียออก: ใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อนำเนื้อฟันและแบคทีเรียที่ติดเชื้อออกมาจากรากฟัน
  4. ทำความสะอาดรากฟัน: ทำความสะอาดภายในรากฟันด้วยน้ำยาพิเศษและเครื่องมือที่เรียกว่า “file”
  5. แห้งและอุดรากฟัน: เมื่อทำความสะอาดรากฟันแล้ว, ทันตแพทย์จะทำให้รากฟันแห้งและเติมด้วยวัสดุอุดฟันพิเศษที่เรียกว่า gutta-percha
  6. อุดทางเข้าสู่รากฟัน: ทันตแพทย์จะอุดทางเข้าสู่รากฟันด้วยวัสดุอุดฟัน เพื่อป้องกันการเข้าถึงของแบคทีเรียในอนาคต

การรักษารากฟัน ด้วยวิธีธรรมชาติ

ถึงแม้ว่าการรักษารากฟันโดยวิธีธรรมชาติหรือการรักษาแบบทั่วไปที่ไม่ใช้ยาหรือเครื่องมือทางการแพทย์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ, แต่ความจริงคือไม่มีวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษารากฟันโดยวิธีธรรมชาติ.

การรักษารากฟันทำเพื่อนำเอาเนื้อฟันที่ติดเชื้อออกจากฟัน, ซึ่งเป็นกระบวนการที่ควรทำโดยทันตแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เฉพาะทาง.

สิ่งที่คุณสามารถทำได้ทางธรรมชาติคือการรักษาสุขภาพช่องปากและฟันด้วยการล้างปากและแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ, ควบคุมการบริโภคน้ำตาลและเยี่ยมเยียนทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจฟันเป็นประจำ. การดูแลเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุที่จะนำไปสู่การต้องรักษารากฟัน.

ถ้าคุณมีอาการเจ็บฟันหรือคุณคิดว่าคุณอาจต้องการการรักษารากฟัน, คุณควรติดต่อทันตแพทย์ทันที. การรักษาที่เร็วที่สุดมักจะมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ฟันปลอมแบบติดแน่น ดีอย่างไร

ฟันปลอมแบบติดแน่น ดีอย่างไร

ฟันปลอมที่ติดแน่นที่คุณเข้าใจน่าจะเป็นวิธีการรักษาทันตกรรมแบบหนึ่งที่เรียกว่า “ฟันปลอมถาวร” หรือ “ฟันปลอมถาวร” โดยมีลักษณะหลัก ๆ สามแบบดังนี้:

  1. ฟันปลอมแบบสะพาน (Dental Bridge): ใช้ฟันที่อยู่รอบ ๆ พื้นที่ที่ไม่มีฟันเป็นฐานในการสร้าง “สะพาน” ที่จะช่วยเติมที่พื้นที่ที่ไม่มีฟัน ฟันปลอมแบบสะพานเหมาะสำหรับคนที่มีฟันเหลืออยู่บางฟันในช่องปาก
  2. ฟันปลอมแบบโครงเหล็ก (Dentures): ฟันปลอมแบบนี้เป็นฟันปลอมที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ สามารถใช้ได้ทั้งในกรณีที่ไม่มีฟันทั้งช่องปากหรือเฉพาะบางส่วน
  3. ฟันปลอมแบบ Implant: จะเป็นการทำฟันปลอมด้วยการใช้โครงสร้างเหล็กเสียบลงในกระดูกขากรรไกรและติดฟันปลอมลงไป นี่เป็นวิธีที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับฟันจริงมากที่สุดและมักถูกเลือกใช้ในการแทนที่ฟันที่สูญเสียไป

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ฟันปลอมแบบใดและวิธีการติดตั้งฟันปลอมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพสุขภาพฟันและเหงือกของแต่ละคน จึงควรปรึกษากับทันตแพทย์

ฟันปลอมชนิดที่ติดแน่น ที่คุณอาจจะกำลังคิดถึง คือ ฟันปลอมแบบ Implant หรือ “ทันตกรรมรากเทียม” ที่ถูกติดตั้งโดยการฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกรของคนไข้ ดังนั้น เราจะอธิบายข้อดีและข้อเสียของทันตกรรมรากเทียม:

ข้อดีฟันปลอมติดแน่น:

  1. ความคงทน: ทันตกรรมรากเทียมจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และถ้าดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ก็สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต
  2. ความสะดวกสบาย: เมื่อทำการฝังรากเทียมแล้ว ฟันจะรู้สึกและดูเหมือนฟันจริง ซึ่งทำให้การรับประทานอาหารและการพูดอย่างปกติดีขึ้น
  3. สุขภาพช่องปาก: ทันตกรรมรากเทียมไม่จำเป็นต้องทำลายฟันอื่น ๆ ของคนไข้เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับฟันปลอม ดังนั้นจึงช่วยให้ฟันที่เหลืออยู่ของคนไข้มีสุขภาพดีขึ้น

ข้อเสียฟันปลอมติดแน่น:

  1. ราคา: ทันตกรรมรากเทียมมีราคาสูงกว่าวิธีการรักษาฟันปลอมชนิดอื่น ๆ
  2. การผ่าตัด: การทำทันตกรรมรากเทียมต้องผ่าตัดซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดได้ เช่น การติดเชื้อ การบวม การเจ็บปวด หรือการเจ็บปวดที่ไรกรรม
  3. ระยะเวลาในการรักษา: อาจใช้เวลาหลายเดือนจนถึงปีหลังจากการติดตั้งรากเทียม และรอให้กระดูกหายจากการผ่าตัดก่อนที่จะสามารถติดตั้งฟันปลอมสำเร็จได้

ทั้งนี้ การตัดสินใจในการทำทันตกรรมรากเทียมจะขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และสภาพสุขภาพฟันและกระดูกขากรรไกรของคนไข้ ควรปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับคุณ

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม

ผู้ช่วยทันตแพทย์ ทำหน้าที่อะไร

ผู้ช่วยทันตแพทย์ ทำหน้าที่อะไร

ผู้ช่วยทันตแพทย์ มีหน้าที่หลักๆ ดังต่อไปนี้:

  1. สนับสนุนการทำงานของทันตแพทย์: รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์ทันตกรรม, การทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรคในอุปกรณ์, การช่วยเหลือในการผ่าตัดและการทำงานอื่น ๆ ที่ทันตแพทย์อาจต้องการความช่วยเหลือ
  2. การจัดการผู้ป่วย: รวมถึงการจัดตารางงานของผู้ป่วย, การต้อนรับผู้ป่วย, การปรึกษาและการแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปาก
  3. การบริหารจัดการสำนักงาน: ผู้ช่วยทันตแพทย์อาจต้องทำงานเกี่ยวกับเอกสารและจัดการข้อมูลผู้ป่วย
  4. การส่งต่อ: ผู้ช่วยทันตแพทย์อาจต้องการส่งข้อมูลในการรักษาทันตกรรมให้กับทีมงานที่เกี่ยวข้อง
  5. การควบคุมการติดเชื้อ: มีการทำความสะอาดและสถานที่ทำงานและอุปกรณ์ที่ปลอดภัยและทำลายเชื้อโรคอย่างเหมาะสม
  6. การช่วยเหลือในการตรวจวินิจฉัย: ผู้ช่วยทันตแพทย์อาจต้องเตรียมผู้ป่วยสำหรับการถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์และเตรียมผู้ป่วยสำหรับการตรวจสอบของทันตแพทย์

ทั้งนี้อาจแตกต่างไปตามนโยบายและความต้องการของสถานที่ทำงานและทันตแพทย์ที่ผู้ช่วยทำงานให้บริการ.

ผู้ช่วยทันตแพทย์มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง

ผู้ช่วยทันตแพทย์ที่ดีควรจะมีคุณสมบัติและทักษะดังต่อไปนี้:

  1. ทักษะทางคลินิก: ผู้ช่วยทันตแพทย์ควรมีทักษะทางคลินิกที่แข็งแกร่ง เช่น ทักษะการใช้เครื่องมือทันตกรรม, ทักษะในการทำความสะอาดและทำลายเชื้อโรค, และทักษะในการช่วยเหลือทันตแพทย์ในการผ่าตัดและการรักษา
  2. ทักษะการสื่อสาร: ผู้ช่วยทันตแพทย์ควรสามารถสื่อสารกับทั้งทันตแพทย์และผู้ป่วยได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
  3. ทัศนคติที่ดี: ผู้ช่วยทันตแพทย์ควรมีทัศนคติที่ดีต่องานของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลต่อความพอใจของผู้ป่วย
  4. การจัดการเวลา: ผู้ช่วยทันตแพทย์ต้องมีความสามารถในการจัดการเวลาได้อย่างมืออาชีพ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกการรักษาทันตกรรมจะดำเนินการตามตารางที่กำหนด
  5. การบริการลูกค้า: ผู้ช่วยทันตแพทย์ควรมีทักษะในการให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากพวกเขามักจะมีการติดต่อกับผู้ป่วยโดยตรง
  6. ความสามารถในการทำหลายงานพร้อมกัน: ผู้ช่วยทันตแพทย์อาจต้องทำหลายงานในเวลาเดียวกัน ดังนั้นความสามารถในการจัดการงานและมองภาพรวมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
  7. มือนุ่ม: ผู้ช่วยทันตแพทย์จำเป็นต้องมีมือนุ่มเพื่อจัดการอุปกรณ์ทันตกรรมอย่างระมัดระวังและให้ความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย

ทั้งหมดนี้เป็นทักษะและคุณสมบัติที่จะช่วยให้ผู้ช่วยทันตแพทย์เป็นอย่างดี แต่ทักษะและคุณสมบัติที่จำเป็นอาจจะขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานและความต้องการของทันตแพทย์ที่ผู้ช่วยทำงานให้บริการ.

สอบถามเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพฟัน
โทรศัพท์ 02-0665455 , 092-5187829
Line id: @bpdc หรือ bpdc.dental
https://bpdcdental.com/
ที่อยู่ : คลินิกทันตกรรม BPDC ถนนกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ (มีที่จอดรถใต้ตึก)

#ทันตกรรม #ตรวจสุขภาพฟัน #คลินิกทันตกรรม